จัดโซนนิ่งผู้ค้าสนามหลวง ชาวลาดพร้าวฮือต้าน

Thursday, February 4, 2010

จัดโซนนิ่งผู้ค้าสนามหลวง ชาวลาดพร้าวฮือต้าน

ที่ศาลาว่าการ กทม. นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการปรับปรุงสนามหลวงว่า ในส่วนของการแก้ปัญหาในระยะสั้น สำหรับผู้ค้าในพื้นที่สนามหลวง ทางกทม.ได้กำหนดพื้นที่เพื่อย้ายผู้ค้า 3  จุด ได้แก่ ผู้ค้าในบริเวณรอบรั้วศาลฎีกา 250 ราย จะย้ายไปที่บริเวณตรอกสาเก ให้ค้าขายเวลา 08.00-17.00 น. เริ่มย้ายตั้งแต่ 5-18 ก.พ. ส่วนผู้ค้าบริเวณสนามหลวงทั้งหมด 996 ราย จะย้ายไปที่ริมคลองหลอด ให้ค้าขายเวลา 17.00-03.00 น. เริ่มดำเนินการ 19 ก.พ.-1 มี.ค.และผู้ค้ารอบพระบรมมหาราชวัง 300 ราย จะย้ายไปที่ริมคลองหลอด โดยให้ค้าขายเวลา 08.00-17.00 น. เริ่มดำเนินการ 2-16 มี.ค. ส่วนในระยะยาวนั้นกำลังเร่งประสานหาพื้นที่เพื่อให้ผู้ค้าไปขายได้ถาวร ได้แก่ สนามหลวง 2 (ทวีวัฒนา) จตุจักร 2 (มีนบุรี) ริมทางรถไฟศิริราช ตลาดนัดเอกชนที่ถนนบรมราชชนนี  ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนั้นสามารถรองรับผู้ค้าได้ประมาณ 1,000 ราย และกำลังเจรจาหาพื้นที่ชั้นในที่สามารถรองรับผู้ค้าเพิ่มอีก หลังจากนำผู้ค้าออกจากพื้นที่แล้วจะทำความสะอาดพื้นที่ให้แล้วเสร็จภายในวัน ที่ 13 ก.พ.นี้
  
ต่อมาเวลา 12.00 น. นายธีระชน ได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ชุมชนสุขเจริญพัฒนาภายในซอยลาดพร้าว 101 เนื้อที่ 5 ไร่ ซึ่งจะใช้เป็นที่พักสำหรับคนเร่ร่อนจากสนามหลวงชั่วคราว จากนั้นเดินทางต่อไปยัง มนตรีสตูดิโอ ซอยลาดพร้าว 101 ซึ่งเป็นที่ตั้งกรงเลี้ยงนกพิราบ ซึ่งการจับนกพิราบในท้องสนามหลวง คาดว่าจะดำเนินการจับได้หลังวันที่ 14 ก.พ. หรือหลังวันตรุษจีน อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า ขณะนี้ประชาชนที่อาศัยในละแวกซอยลาดพร้าว 101 ได้เตรียมนัดรวมตัวกันเพื่อเดินขบวนประท้วง ผอ.เขตบางกะปิ เนื่องจากไม่ต้องการให้ กทม.นำคนเร่ร่อน และนกพิราบ มาพักอาศัยภายในซอย เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาสังคมตามมา เช่น ปัญหาขโมย อาชญากรรม เป็นต้น
  
ขณะที่สวนดุสิตโพลสำรวจความเห็นในหัวข้อ “คนกรุงคิดอย่างไร กับการจับนกพิราบที่ท้องสนามหลวง” โดยผลสำรวจที่น่าสนใจคือ ร้อยละ 34.11 มองว่าช่วยให้สนามหลวงปลอดเชื้อโรคที่มากับนก ส่วนร้อยละ 42.40 มองว่า ควรย้ายนกพิราบไปอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากแหล่งชุมชน มีอากาศถ่ายเทสะดวก.

0 comments:

Blog Archive