วรพจน์ เพชรขุ้ม ถ่ายนู้ด นิตยสารเกย์

Friday, July 31, 2009

This summary is not available. Please click here to view the post.

น้องเขย

This summary is not available. Please click here to view the post.

Notification to know.

Wednesday, July 29, 2009

This summary is not available. Please click here to view the post.

Tuesday, July 28, 2009

เด็กวังสราญรมณ์ ผู้ชายขายตัว


เล่าเรื่องเสียว ประสบการณ์เสียว


ห้องโพสรูป

"นาธาน" โผล่ปัดโกงเงิน พร้อมลั่นฟ้องกลับแน่

 

"นาธาน" โผล่ปัดโกงเงิน พร้อมลั่นฟ้องกลับแน่
ส่วนกรณีโกอินเตอร์เจ้าตัวมุกเดิมติดเรื่องสัญญา
 
 
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น



"นาธาน" โผล่แจงไม่ได้โกงเงิน เชื่ออีกฝ่ายทำไปเพราะต้องการดิสเครดิต ลั่นฟ้องกลับแน่ ขณะที่เรื่องโกฮอลลีวูดเจ้าตัวมามุกเดิมยังให้รายละเอียดไม่ได้เพราะติดเรื่องสัญญา แต่ย้ำเล่นจริงๆ
       
        หลังถูกดีเจ "เจเจ จามจุรี จูลี่ แคสเชอร์" คลื่น EASY FM 105.5 เวอร์จิ้นเรดิโอ หุ้นส่วนร้าน JAMAREE YAK CAFÉ GALLERY เข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงเป็นจำนวนเงิน 1.2 แสนบาทพร้อมแฉถึงพฤติกรรมความมีพิรุธในหลายๆ เรื่องกระทั่งกลายเป็นข่าวไปแล้วนั้น
       
        ล่าสุดในวันนี้ (28) อดีตนักร้องหนุ่มจากค่ายอาร์เอสฯ พร้อมผู้จัดการส่วนตัวก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้แล้ว โดยหนุ่มนาธานยืนยันว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดที่อีกฝ่ายฟ้องนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ส่วนเรื่องที่ตนไม่ออกมาพูดอะไรก่อนหน้านี้ก็เพราะอยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นจะพูดอะไรบ้าง พร้อมบอกที่ต้องหนีสื่อฯ ก็เพราะรู้สึกอึ้ง!
       
        ทั้งนี้เจ้าตัวยังบอกต่อไปด้วยว่า ในส่วนของเงินค่าเช่าร้านนั้น ตนเป็นคนจ่ายให้ตลอดทั้งๆ ที่ไม่ใช่หน้าที่ และตนเองก็ไม่ได้เป็นหุ้นส่วนของร้านดังกล่าวด้วยเพียงแต่มาช่วยประชาสัมพันธ์ให้ ซึ่งตนเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดนั้นเป็นข่าวที่สร้างขึ้นมาเพื่อดิสเครดิต ซึ่งตนจะฟ้องกลับอย่างแน่นอน
       
        ขณะที่ในส่วนของการได้ไปแสดงภาพยนตร์ที่ฮอลลีวูดซึ่งได้มีการตั้งข้อสงสัยออกมามากมายนั้น หนุ่มนาธานยังยืนยันว่ายังเล่นอยู่ เพียงแต่ตนเองเป็นแค่นักแสดงตัวเล็กๆ เท่านั้นซึ่งต่างจากที่เจ้าตัวเคยบอกไว้ว่าเป็นตัวดำเนินหลักของเรื่อง
       
        และเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงรายละเอียดอื่นๆ เจ้าตัวก็ไม่สามารถบอกได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบริษัทที่สร้าง หรือแม้กระทั่งหลักฐานภาพถ่าย สัญญาต่างๆ โดยเจ้าตัวอ้างเหตุผลว่า เป็นเรื่องของสัญญากับทางบริษัทที่ไม่สามารถเอามาเปิดเผยได้ ซึ่งทางบริษัทจะเป็นคนจัดการเอง ตนขอให้หนังออกมาทีเดียว
       
        ทั้งนี้รายละเอียดของบทสัมภาษณ์ทั้งหมด ทีมข่าว Super บันเทิงจะนำมาเสนอให้ได้รับทราบต่อไป


 

“นาธาน” แหล 10 ดอก โกงเงิน ไม่ได้ไปถ่ายหนัง ปลอมตัว ปลอมเสียง โกงอายุฯลฯ 2

 

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับร้านในหนังสือพิมพ์เนชั่น ฉบับวันที่ 31 พฤกษภาคม ซึ่งก็แปลว่า "นาธาน" ไม่ได้ไปถ่ายหนังที่เมืองนอกเหมือนที่ให้สัมภาษณ์


ลายเซ้นต์ "นาธาน" ที่ลงบันทึกว่าไปเรียนทำกาแฟกับ "เจเจ" แต่กลับปฏิเสธว่าไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับร้าน


14 พฤษภาคมที่ผ่านมา "หุ้นส่วน" จัดงานวันเกิดให้ที่ร้าน แสดงว่าเจ้าตัวอยู่ที่เมืองไทยไม่ได้ไปถ่ายหนังที่เมืองเหมือนที่เคยให้สัมภาษณ์






ความแตกเพราะไม่ยอมให้หุ้นส่วนดูสมุดบัญชี
       
"เรื่องมันมาชัดเจนตอนที่นาธานเดินทางไปต่างประเทศวันที่ 8 มิถุนายน เขาให้สมุดบัญชีร้านกับพี่เต็มแม่เลี้ยงเอาไว้ และเขาก็เป็นคนเอาเงินไปเข้าบัญชีแทน เราก็บอกให้เอาสมุดบัญชีมาให้ดูเงินเหลือเท่าไหร่เดือนนี้จะมีค่าเช่าบ้านหรือยัง ตอนนั้นก็ยังเห็นสมุดบัญชีอยู่นะ พอผ่านไปสักพักหนึ่งกลับไปถามหาสมุดบัญชีกับพี่เต็มอีกครั้งเขาบอกว่าติดไปกับนาธาน ทุกคนก็มาประชุมกันว่าทำไมมีการพูดโกหกกันอย่างนี้"
       
       "จากนั้นจู่ๆ ก็มีคนๆ หนึ่งมาที่ร้านมาเอาของไปให้นาธาน เราก็ถามว่าจะเอาไปให้ที่ไหนเดี๋ยวจะจัดการเมลล์ไปให้ เขาก็บอกว่าจะบินตามไปให้ แล้วก็มีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เราเริ่มสงสัยว่าเขาไปเมืองนอกจริงหรือเปล่า คือมีคนเอาของมาทิ้งไว้หน้าบ้านเป็นแก้วกาแฟ พักหนึ่งนาธานก็โทรเข้ามาบอกมีคนเอาแก้วมาฝากหน้าบ้าน ให้ออกมาเอาเดี๋ยวหาย เราก็เริ่มรู้สึกทำไมเขารู้เร็วจัง คือ ณ ตอนนั้นเขาบอกว่าเขาไปเมืองนอก แต่เบอร์ที่เขาโทรมาเป็นเบอร์ที่เขาใช้ปกติในเมืองไทย มันก็ขึ้นเลขปกติเหมือนที่เราใช้ในเมืองไทย"
       

       ดอกที่ 4 บอกทีมข่าวผู้จัดการรายวันว่า โทรมาจากมาเลเซียบอกจะกลับเมืองไทยวันที่ 13 และได้นัดให้สัมภาษณ์วันที่ 14 แต่ "เจเจ" ยืนยันว่า นาธานกลับวันที่ 14 จริงแต่กลับมาจากมัตกัส
       

       "นาธานเขาบอกเราว่าไปเมืองนอกตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน กลับมาอีกทีวันที่ 13 กรกรฎาคม แต่พี่เต็มเคยชวนให้เราไปที่คอนโดนาธานและฟลุคไปเจอรถเขาจอดอยู่ที่คอนโดเครื่องยังร้อนเหมือนมีคนพึ่งเอาไปใช้ แต่ก็อาจจะเป็นคนอื่นเอาไปใช้ก็ได้ ไปเคาะประตูห้องเหมือนมีคนอยู่ในห้องแต่ไม่เปิดประตู"
       
       "แล้วจู่ๆ เขาก็โทรมาหาเจเจว่าไม่ต้องสืบเลยนะว่าไปไหนทำอะไร โทรมาติหาว่าเราไปหาเขาที่คอนโดก็เลยถามกลับไปว่ารู้ได้ยังไงว่าไปหาที่คอนโดและดูรถ แต่ก็คิดว่าพี่เต็มอาจจะบอกเขาก็ได้ ต่อมานาธานวันที่ 13 กรกฎาคมเขาก็โทรมาบอกให้ไปรับด้วย สักพักโทรมาบอกว่าไม่ต้องไปรับแล้ว เราเช็คไปที่สายการบินก็มีชื่อเขาจริงมัสกัต-กรุงเทพเขากลับมาวันที่ 13 กรกฎาคม(แต่กลับบอกทีมข่าวผู้จัดการว่าจะกลับมาจากมาเลเซีย) พอเขากลับมาเราพยามติดต่อให้เข้ามาคุย แต่นาธานบ่ายเบี่ยงว่าเหนื่อยเอาไว้เจอกันอีกทีวันอังคารแล้วกัน"
       
       ดอกที่ 5 บอกว่าจะไปถ่ายรายการ "ที่นี่หมอชิต" ทางบันเทิงผู้จัดการได้เชคไปที่รายการ กลับได้รับการปฏิเสธว่า ไม่เคยบันทึกเทป "นาธาน" แต่อย่างใด
       
       
"พอวันอังคารที่ 14 กรกฎาคม โทรศัพท์ไปตามให้มาคุยกันที่ร้านก็บอกว่ายุ่งมากต้องไปให้สัมภาษณ์หลายที่เราบอกว่าไม่เป็นไรจะรอ เพราะต้องคุยกันแล้วนะเริ่มมีปัญหาต้องกลับมาคุยกันให้เคลียร์เขาก็บอกว่าได้ๆ ค่ะเดี๋ยวกลับมา และกลับเข้ามาที่ร้านประมาณเที่ยงคืน มาถึงคุยไม่เกินสิบนาทีเอารูปมาโชว์ว่าไปถ่ายหนังมาจริงๆ มาดูๆ ซึ่งเป็นรูปเดียวกับที่เห็นในข่าวของผู้จัดการ จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปบอกว่าพี่ดู๋ สัญญารอถ่ายรายการอยู่ ที่นี่หมอชิต ต้องรีบไปถ่ายต่อยังไม่เสร็จ เราก็บอกว่ารู้เรื่องหมดแล้วทำไมถึงทำแบบนี้เขาก็บอกว่าเดี๋ยวเคลียร์ให้มีสลิปต์ทุกใบยืนยัน"
       

       ดอกที่ 6 บอกว่าไปเมืองนอก แต่กลับมีการถอนเงินบัญชีของร้านในเมืองไทย
       
       "คือพอนาธานกลับมาเราเอาสมุดบัญชีไปอัพบุ๊คบัญชีเดินตลอด คือเขาบอกว่าเขาไปเมืองนอกวันที่ 8 มิถุนายน แต่บัญชีกลับมีการเคลื่อนไหวตลอด มีการเบิก ถอน โอน มีค่าธรรมเนียม 5 บาท 35 บาทจนถึงวันที่ 3 กรกฎาคมถึงไม่มีการเคลื่อนไหว"
       
       "อย่างเราเอาเข้าแบงค์หมื่นเก้าตอนเช้า พอตอนเย็นก็มีรายการเอาเงินออกหมื่นเก้าเลย แต่มีโอนกลับมานะไม่ได้หายไปเหมือนคล้ายๆ ว่าเขาโยกเอาไปใช้ก่อนแล้วโอนกลับมาให้ คือมันค่อนข้างชัดเจนเพราะตอนที่นาธานอยู่อาจจะมีการเบิกเงินไปซื้อของ แต่พอเขาไปเมืองนอกเงินมันจะต้องเข้าอย่างเดียวสิเพราะไม่มีใครสามารถเบิกได้เพราะบัญชีนี้ไม่มีเอทีเอ็ม แต่นี่กลับมีการเคลื่อนไหวตลอดในขณะที่เขาไปเมืองนอก
       
       "ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไปเบิกเงินจากต่างประเทศ เพราะในบัญชีจะมีบอกเลยว่าเสียค่าโอน 5 บาท ต่างสาขาต่างจังหวัด 35 บาท แล้วตรงแบงค์เขายังมีบอกรหัสด้วยว่ามาจากถอนหรือโอนมาจากที่ไหน ซึ่งถ้าเขาโอนถอนที่ต่างประเทศจริงมันต้องมีเรทเงินที่เป็นเศษสตางค์ สมมุติว่าหายไปห้าพันสามสิบห้าบาท ค่าธรรมเนียมคงไม่ใช่แค่ 5 บาท หรือ 35 บาทแน่นอน จะบอกว่าเขาทำเอที่เอ็มให้คนอื่นเบิกที่เมืองไทยหรือเปล่า ตรงนี้เราบอกไม่ได้มีแค่ตัวเขาที่รู้ แต่สิ่งที่เราเห็นคือมีการเดินบัญชี"
       
       ดอกที่ 7 บอกไม่มีส่วนร่วมในการเปิดร้าน แต่กลับไปขอใบอนุญาตที่สรรพสามิต
       
       
"เขาบอกว่าไม่เคยมีส่วนร่วมกับร้านนี้ไม่เคยยุ่งเกี่ยวไม่ได้ตกลงเป็นหุ้นกับร้านนี้ ซึ่งตรงนี้เขาไปพูดที่หนังสือพิมพ์มติชน ทั้งที่จริงๆ แล้วเจเจกับนาธานไปที่กรมสรรพสามิตด้วยกัน เพื่อที่จะไปขออนุญาตขายสุราและบุหรี่ ชื่อผู้ขออนุญาตก็เป็นชื่อเขาเองหลักฐานที่สรรพสามิตก็มีต้นขั้วอยู่ที่นั่น และถ้าเขาไม่ได้เป็นหุ้นเขาจะไปขอใบอนุญาตทำไม"
       
       "พอเกิดเรื่องเจเจรีบไปที่กรมสรiพสามิตเพื่อไปขอใบอนุญาตใหม่ เพราะว่านาธานเขามารื้อขนของออกจากร้านไป เราก็บอกว่าอยากได้อะไรให้เอาไปให้หมดเลย เขาก็เอาใบอนุญาตที่เป็นชื่อเขาไปด้วย เพราะมันเป็นสิทธิ์ของเขาจริงๆ เราก็โอเคเอาออกไปแล้วจะได้ไม่มีอะไรต่อกันอีก แล้วเดี๋ยวมาเคลียร์เรื่องเงินทีหลังว่าจะเอายังไง"
       
       "นาธานก็พูดมาว่าเป็นหนี้เท่าไหร่ลบหุ้นเขาไปสิก็มีค่าเท่ากัน และเขาไม่ได้ติดหนี้อะไร แต่ทางพฤตินัยมันผิดตลอด ตัวเลขเราไม่ได้เสียอะไรมากเงินที่หายไปในบัญชี ถ้าบวกลบคุณหารแล้วจะหายไปประมาณหลักหมื่นไม่ถึงแสน แต่มันทำให้เงินสะดุดจริงๆ เพราะว่ามันเป็นเงินหมุนของร้านเราวางแผนไว้ห้าคนไม่ได้วางไว้ 4 คน"
       
       ดอกที่ 8 เก็บเงินลูกค้าไปทัวร์เนปาล แต่พอลูกค้ายกเลิกกลับไม่ยอมคืนเงิน
       
       "นอกจากนั้นเขาก็ยังมีการจัดขายทัวร์ไปเนปาลให้กับลูกค้าที่มาเที่ยวร้าน มีการมัดจำกันไปโดยที่ไม่มีหลักฐานอะไร เพราะเห็นว่าเป็นคนกันเองที่มาเจอกันที่ร้านอยู่บ่อยๆ ถึงวันนี้ลูกค้าต้องไปพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะที่ผ่านมาเราพยายามติดต่อไกล่เกลี่ยให้เขามาพูดคุยจะผ่อนผันยังไงก็ได้ ตามไปถึงคอนโดก็ไม่ยอมมาบอกว่ารถหม้อน้ำแตกอยู่ที่ปั๊ม แต่ยามที่คอนโดบอกว่าพึ่งจะตอกบัตรออกไปเมื่อ 5 นาทีที่แล้วนี่เอง จนนาทีสุดท้ายก็ยังโกหกเรา"
       

       "เมื่อวันที่ 26 กรกฏาคมที่ผ่านมา นาธานเป็นคนกำหนดวันเองว่าจะมาเจอกับเราวันที่ 26 กรกฎาคม เดี๋ยวจะเอาเงินมาจ่ายให้และเอาเงินมาคืนให้กับกรุ๊ปทัวร์เนปาลต่อหน้าตำรวจ ก่อนถึงวันผู้จัดการส่วนตัวก็ขับรถมาวนที่หน้าร้านเรา และเขาก็ยังบอกว่างั้นเจอกันวันอาทิตย์นะ พอถึงวันตำรวจโทรไปบอกว่าไม่รู้เรื่องว่านัดกันวันนี้ จนตอนนี้ยังเงียบไปเราอยากที่จะให้นาธานเอาเงินมาคืนลูกค้าไม่อย่างนั้นทางร้านก็ต้องรับผิดชอบแทนแล้วเรื่องของร้านเราจะคุยกับเจ้าของบ้านอยากที่จะเห็นหลักฐานไม่อย่างนั้นเราจะต้องรับผิดชอบทั้งหมดอีก ซึ่งมันก็หลายบาทอยู่หลักแสนเหมือนกัน คนที่ทำร้านใหม่ๆ มาเจอแบบนี้ก็แย่เหมือนกัน อยากที่จะให้เขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่นาธานยังหนีอยู่"
       
       ดอกที่ 9 ชอบปลอมเสียงเป็นผู้หญิงเวลารับโทรศัพท์ บอกว่าตัวเองไม่อยู่
       
       "เขาจะเป็นคนที่เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์บ่อยๆ และจะมีอะไรแปลกๆ เยอะมาก ตอนที่อยู่ร้านจะมีคนโทรมาหาเขาก็ไม่รู้ทวงเงินหรือเปล่า แต่แอบได้ยินเขาเปลี่ยนเสียงเป็นคนชื่อตุ๊กตาบ้าง เป็นรจนาบ้างอันนี้ไม่ได้พูดเล่นเลยนะ(หัวเราะ) นาธานทำแบบนี้จริงๆ เปลี่ยนเสียงฮัลโหลค่ะตุ๊กตาค่ะอ๋อยังไม่กลับมาเลยค่ะเดี๋ยวกลับมาแล้วจะบอกอะไรแบบนี้"
       
       "ซึ่งแรกๆ ก็คิดว่าเขาตลกแต่หลังๆ เริ่มได้ยินบ่อยขึ้น เพราะคนมันอยู่ด้วยกันทุกวันโกหกกันไม่ได้บางครั้งแอบได้ยินบ้าง บังเอิญนั่งรถไปด้วยกันแล้วเขารับสายพอดี ตัวนาธานยังแซวตัวเองว่าคุณพี่ขำๆ ซึ่งเราจะจี้ให้จนมุมก็ได้ แต่คิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา อาจจะเป็นเรื่องเงินหรือว่าเรื่องแฟนก็ไม่รู้แต่เขาจะมีพฤติกรรมแปลกๆ แบบนี้ต่อเนื่องมาเรื่อยๆ"
       
       ดอกที่ 10 บอกว่า เกิดปี 2526 ทุกคนในร้านเลยรักเหมือนน้อง ตอนหลังความแตกที่แท้เกิด 2519 อายุเท่ากัน ซ้ำเป็นพี่หุ้นส่วนบางคนซะอีก
       
       
"แล้วก็มีเรื่องอายุด้วย คือตั้งแต่รู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2005 เขาบอกว่าเกิด พ.ศ. 2526 เราคิดว่าเขาเป็นน้องและเชื่อมาตลอด ปรากฎว่าวันนั้นด้วยความที่เราไม่เชื่อใจเขาแล้วบอกให้นาธานเอาสำเนาบัตรประชาชนมาแล้วเซ็นต์กำกับว่าจะคืนเงินให้เขาก็ไม่ยอมให้ จนน้องเกดหุ้นส่วนร้านอีกคนวิ่งขึ้นไปบนรถเขาด้วยเพราะกลัวว่าเขาจะหนี ซึ่งในตอนแรกเขาบอกว่าไม่มีสำเนา เกดก็บอกว่างั้นเอาบัตรประชาชนตัวจริงมาถ่ายเอกสารแล้ววันรุ่งขึ้นจะเอาตัวจริงไปให้ นาธานก็บอกว่าไม่ได้ทำไมต้องเอาด้วยต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ"
       
       "เกดก็บอกว่าไม่เป็นไรถ้าอย่างนั้นไปถ่ายเอกสารด้วยกันก็ได้ แต่จู่เขาก็เอื้อมมือไปหยิบซองสีน้ำตาลเอาสำเนาบัตรประชาชนออกมาให้ เกดก็งงว่านี่เอกสารของจริงหรือของปลอมทำไมเกิด พ.ศ. 2519 เพราะเท่าที่รู้เขารู้คือเกิด พ.ศ. 2526 ก็ถามว่าอันนี้ของจริงหรือของปลอมทำไมบอกว่าเกิด 2526 อันนี้ของปลอมหรือเปล่าเขาก็พูดมาว่าเกิด 19 เกดก็ยืนยันว่าขอดูตัวจริงได้ไหม เพราะเราต้องเอาไปให้ตำรวจ สักพักหนึ่งเขาก็หยิบบัตรประชาชนมาให้ดูก็เป็นพศ. 2519 สรุปแล้วเขาโกหกมานานหลายปีและหลายเรื่องมาก"
       

       "แต่ด้วยความที่เป็นตัวเขาเวลาเห็นเรายังเอ็นดูเราเสียใจช้ำใจ จนกระทั่ง ณ ตอนนี้บอกเลยว่าแค้นใจแรกๆ ยังสงสารแต่ตอนนี้แค้นมาก (หัวเราะ) เพราะเขาไม่ยอมรับความจริงเลย แถมยังมาพูดด่าใส่เราอีก มันมีเงินในร้านที่หายไปหยิบจับใช้ไปเราไม่นับด้วยซ้ำไม่เอาตรงนั้นมาพูด ก็คิดว่าเออเขาอยู่ที่นี่กินที่นี่เฝ้าร้านก็ต้องได้อภิสิทธิ์ที่ดีกว่าคนอื่นบ้าง บางทีก็มาบอกว่าเดี๋ยวยืมก่อนนะให้คนมาต่อขนตาต่อคิ้วที่ร้านประจำ"
       
       "ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเราดูแลเขาเหมือนน้อง นาธานใช้เงินกับพวกเราตลอด ใช้เงินร้านขึ้นทางด่วนพวกเราจ่าย เติมน้ำมันรถมีบ้างที่เขาจ่ายแต่ส่วนใหญ่เราจ่าย ซื้อของกินข้าวร้านจ่ายเราจ่าย ทุกคนพูดง่ายๆ คือดูแลเขา ไม่เคยที่จะไปจี้ถามว่าไม่มีเงินเหรอเราสงสารเขาก็ดูแลกันไปเดี๋ยวไปถ่ายหนังที่เมืองนอกก็มีตังค์เองแหล่ะ เมื่อวันเกิดเขาก็ยังเอาเค้กมาเซอร์ไพร์สเขายังตกใจเลยดีใจ คือเราเห็นว่าเขาไม่มีใครญาติพี่น้องก็ไม่มีอยู่ตัวคนเดียว เราก็อยากทำทุกอย่างให้อยู่กันแบบอบอุ่น"
       
       "เขารู้ดีที่สุดว่าเราดีกับเขาขนาดไหน ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงฆ่าเราได้โดยที่ไม่รู้สึกถึงสิ่งดีๆ ที่เราทำให้ วันนี้ถึงเขามาเคลียร์เจเจบอกเลยนะ วันนี้มิตรภาพไม่มีอีกต่อไปแล้ว เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีเขามีพฤติกรรมแปลกๆ เขาจะไม่มีวันได้มิตรภาพจากเราอีก และจะไม่มีวันได้เหยียบเข้ามาในร้านนี้อีกเลย"
       

 

‘เซ็กซ์ออนไลน์’ คลิกเดียวก็เสียวได้

Monday, July 27, 2009

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น







เมื่อก่อนหนุ่มสาวจะหาคู่หรือเพื่อนรู้ใจก็ต้องเขียนจดหมายไปหา'ลุงหนวด' ให้ช่วยลงประกาศหาคู่ผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์ จากนั้นก็ต้องทำความรู้จักคุ้นเคยกันผ่านทางจดหมายหลายสิบฉบับ ดังนั้นกว่าจะได้นัดเจอกันก็กินเวลาแรมเดือนแรมปี แต่ปัจจุบันนี้ในยุคเทคโนโลยีไร้สายการหาเพื่อนคุย หาเพื่อนใจ หรือแม้แต่หาเพื่อนนอน กลับทำได้ง่ายดายแค่ปลายนิ้วสัมผัส เพราะเพียงแค่โพสข้อความผ่านเว็บไซต์ก็สามารถหาคู่นอนได้ชั่วข้ามคืน ฉะนั้นวิธีนี้จึงกลายเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น วัยทำงาน ชนิดที่เรียกได้ว่ามีการประกาศตัวกันอย่างโจ่งแจ้งโจ๋งครึ่มเลยทีเดียว
       
       สร้างสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน
       
       ขั้นตอนการสร้างสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์นั้นเริ่มจากการโพสอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ พร้อมทั้งข้อความเชิญชวนลงตามเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งที่นิยมกันมากได้แก่ เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับเซ็กซ์ , เว็บฯหาคู่ , เว็บฯเฉพาะกลุ่ม เช่น เว็บฯเกย์ เว็บฯทอม-ดี้ รวมทั้งเว็บบอร์ดต่างๆ โดยเฉพาะเว็บที่เจาะกลุ่มวัยรุ่น
       
       สำหรับข้อความที่โพสกันนั้นมีตั้งแต่ข้อความพื้นๆ อย่าง โสด เหงา หาคนรู้ใจ ไม่ผูกมัด , เกย์รับ อยู่กรุงเทพฯ , หนุ่มน่ารัก หาคนอุปการะ , สาวเหงาใจ อยากได้คู่นอนที่ไม่เรื่องมาก , อยากลองจังเลย ,รับสาวจัดจ้านมาเซ็กซ์โฟน เราอ่ะเซ็กซ์โฟนตัวพ่อ ไปจนถึงข้อความล่อแหลม โจ๋งครึ่ม เช่น มีประสบการณ์ สวิงกิ้ง รับรองจะติดใจ , ต้องการเพื่อนร่วมเตียง อดมานาน , สูง 169 หนัก 75 ลีลาพอใช้ , อยากหาสาวมาเล่นเสียว , ไม่ลองกันหน่อยหรือ มีสามีแล้วแต่สามีไม่ค่อยอยู่ และบางข้อความก็ไม่สามารถนำมาออกอากาศได้ หลังจากโพสข้อความทิ้งไว้แล้วก็รอเวลาที่หนุ่มสาวใจถึงจะต่อสายหรืออีเมลติดต่อเข้ามา เมื่อมีการพูดคุยและรู้สึกว่าพอใจกันในระดับหนึ่งก็จะนัดเจอกันเพื่อศึกษาและสร้างสัมพันธ์กันต่อไป ซึ่งหากได้เจอกันแล้วไม่ถูกใจก็ยุติความสัมพันธ์ไว้แค่นั้น แต่ถ้าถูกอกถูกใจและมีเป้าหมายตรงกันก็มักจะนัดหมายไป'กระชับสัมพันธ์'กันในขั้นต่อๆไป
       
       'วี' หนุ่มนักธุรกิจซึ่งลงโพสหาเพื่อนใจทางอินเตอร์เนต เล่าถึงประสบการณ์ในการหาเพื่อนออนไลน์ ว่า " ตอนที่โพสเบอร์โทร.ไว้นี่ ไม่มีสาวๆโทร.มาเลยนะ แต่ตอนที่ลงอีเมลไว้นี่มีผู้หญิงเมลกลับมาเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษา ก็คุยกันเรื่องทั่วๆไป แต่มีหลายรายที่อีเมลมาขอยืมเงิน ตอนนี้เดือดร้อน ให้โอนเงินให้หน่อย ทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกันเลย ผมก็ไม่ได้โอนให้หรอกเพราะพวกนี้คงเป็นมิจฉาชีพมากกว่า ผมว่าการหาเพื่อนหรือหาคู่ทางอินเทอร์เนตเนี่ยมันน้อยมากนะที่จะประสบความสำเร็จ "
       
       หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แห่ใช้บริการ
       
       ด้าน 'ภูมิ' หนุ่มหาดใหญ่ที่เคยโพสหาคู่นอนในอินเทอร์เน็ต บอกเล่าถึงประสบการณ์ที่ผ่านมา ว่า " หลังจากที่ลงโพสหาคู่นอนเนี่ยยังไม่มีสาวๆโทร.มาเลย มีแต่ผู้ชายโทร.มาถามว่าสำเร็จไหม ได้เพื่อนนอนบ้างหรือเปล่า (หัวเราะ) แต่เมื่อก่อนนี้ผมเคยโพสแบบหาเพื่อนคุย ก็มีสาวๆโทร.มาบ้างเหมือนกันนะ แต่ไม่ถึงขั้นนัดเจอกัน แต่แปลกนะส่วนใหญ่จะเป็นเซ็กซ์โฟน คือที่ผ่านมาเนี่ยมีเซ็กซ์โฟนเข้ามาประมาณ 5 ราย ตอนแรกก็คุยธรรมดา สักพักเขาก็จะถามว่าคุณทำอะไรอยู่ ฉันนอนอยู่บนเตียง ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า...... อะไรประมาณนี้
       
       ผมคิดว่าโพสสนุกๆ แต่ถ้าได้จริงๆก็ดีนะ (หัวเราะ) คือผมโพสในเว็บวัยรุ่นทั่วๆไป แต่มันจะมีเว็บไซต์ที่เปิดขึ้นมาเพื่อหาคู่นอนโดยเฉพาะ ซึ่งคนที่จะเข้าไปโพสข้อความต้องเสียค่าสมาชิกประมาณ 1,000 บาท นอกจากนั้นใน hi5 ก็มีแก๊งหาคู่นอนเหมือนกันนะ ผมว่าตอนนี้สังคมมันฟรีเซ็กส์ไปแล้ว อย่างเราทำงานแล้ว คิดว่าเราดูแลตัวเองได้ ตรงไหนที่เสียงเราก็ไม่เข้าไป "
       
       ขณะที่ 'เอ็ม' นักเรียน ม.6 ซึ่งโพสข้อความอย่างเปิดเผยว่าต้องการหาคู่เกย์ บอกว่า " จากที่โพสไว้ก็มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายโทร.เข้ามา คือผู้หญิงบางคนเขาก็อยากมีแฟนเป็นเกย์ (หัวเราะ) แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็จะโทร.มาจีบตรงๆเลย มีทั้งที่เรียนอยู่ ม.ปลาย เรียนมหาวิทยาลัย เด็กช่างกล แล้วก็คนที่ทำงานแล้ว ส่วนใหญ่ก็นัดเจอกัน ไปกินข้าว ดูหนัง บางคนก็เลี้ยงข้าว ซื้อข้าวของให้ คือถ้าเป็นพวกเสื้อผ้าราคา 300-400 บาท นี่ผมรับได้ แต่ถ้ามากเกินไปก็ไม่เอา อย่างมีพี่ผู้ชายคนหนึ่งเขาทำงานแล้วเขาก็ถามว่าอยากได้โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ไหม แต่ผมไม่เอา เกรงใจเขา แต่ก็มีเหมือนกันที่เสนอจะส่งเสียเลี้ยงดู ชวนไปอยู่ด้วย แต่ผมไม่ไปหรอก ผมว่าดูแล้วไม่น่าไว้วางใจนะ
       
       ที่คบเป็นแฟนก็มีบ้าง บางคนคบกันแค่ 2-3 สัปดาห์ก็เลิกกันไป แฟนที่คบอยู่ปัจจุบันก็รู้จักกันผ่านเว็บไซต์เหมือนกัน เขาเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 2 ผมคิดว่าที่มีเกย์เข้าไปโพสหาคู่ในตามเว็บไซต์เยอะเพราะว่าเขาไม่สามารถแสดงออกในที่สาธารณะได้ อย่างผมถ้าอยู่ที่บ้านหรือโรงเรียนผมก็ทำตัวเป็นผู้ชายปกติ เวลาโพสในเว็บฯก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร นอกจากเว็บฯเกย์ซึ่งเราเปิดเผยได้เต็มที่เพราะตรงนี้คือสังคมของเรา"
       
       สาวซ่าส์ โพสหาเพื่อนนอน
       
       หลายคนอาจจะคิดว่าคนที่โพสหาคู่นอนน่าจะมีแต่ผู้ชายเท่านั้น แต่จริงๆแล้วสาวมั่นสาวซ่าที่เข้าไปโพสหาเพื่อนนอนก็มีอยู่เหมือนกันแม้จะค่อนข้างน้อย และหลายคนยืนยันว่าถูกกลั่นแก้งก็ตาม
       
       สาวเฉี่ยวเปรี้ยวซ่า ผิดกับภาพลักษณ์แม่ค้าขนมหวานอย่าง 'ปู' ที่เคยลงโพสหาคู่นอนผ่านเว็บไซต์ เปิดเผยกับเราแบบถึงพริกถึงขิง ว่า " พอโพสหาคู่นอนตามเว็บไซต์ก็มีผู้ชายโทร.เข้ามาเยอะมาก... ช่วงที่ลงโพสใหม่ๆจะมีโทร.เข้ามาสัปดาห์ละ 20 กว่าคน ช่วงหลังๆก็ตกประมาณสัปดาห์ละ 5 คน ก็มีที่ไปเจอแล้วถูกใจ ไปมีอะไรกันประมาณ 2- 3 คนนะ คนที่คบกันนานที่สุดก็ 4-5 เดือน เขาอยู่ต่างจังหวัด บางที่เขาก็มาหาเรา บางที่ปูก็ไปหาเขา แต่ไม่ได้มีเซ็กส์กันทุกครั้งนะ ตอนหลังภรรยาเขาโทร.มาระรานก็เลยบอกให้เขากลับไปหาเมียเถอะ แล้วอีกอย่างปูก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยได้เจอกันเพราะปูอยู่กรุงเทพฯ เขาอยู่ต่างหวังหวัด ส่วนคนที่ 2 ที่รู้จักกันผ่านอินเทอร์เน็ตมีอะไรกันสัก 3-4 ครั้งก็เลิกไปเพราะเขาชอบขอเงิน ส่วนอีกคนหนึ่งเจอกันแค่หนเดียว ก็ถูกใจนะ คนนี้เขาหล่อ แต่เขามีเจ๊เลี้ยงอยู่แล้ว เขาบอกว่าตอนนี้กำลังระหองระแหงกับเจ๊อยู่ แต่ปูมองว่าเขาน่าจะกำลังจะชวดจากเจ๊เลยจะมาเกาะเราก็เลยไม่เอาดีกว่า แค่ออกค่าโรงแรมหลายๆครั้งก็แย่แล้ว คือรุ่นนี้แล้ว ผู้หญิงเป็นฝ่ายออกค่าโรงแรมเองแล้ว(หัวเราะ) ก็เหมือนเราซื้อความสุขให้ตัวเอง
       
       แต่ผู้ชายที่โทร.เข้ามา ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไปนอนกับเขาทุกคนนะ ถูกใจถึงจะไป บางคนตามมาถึงที่ร้านปูเลย แต่หน้าตาแย่ปูก็ไม่เอา เขาบอกว่าเขาให้เงินนะ ปูก็ย้อนไปว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวนะ แล้วเชื่อไหมผู้ชายที่โพสหาคู่นอนเนี่ยไม่ได้แปลว่าเขาจะจ่ายค่าข้าว-ค่าโรงแรมให้ผู้หญิงเหมือนกันหมดทุกคนนะ บางคนพอเจอกันปุ๊บเขาบอกปูเลยว่าหารค่าโรงแรมกันนะ ปูเลยบอกว่าถ้าอย่างงั้นคุณกลับไปช่วยตัวเองที่บ้านดีกว่า (หัวเราะร่วน) คือมานอนกับเราเงินก็ไม่เสียนะ จะให้เราช่วยออกค่าโรงแรมอีก มีมาแปลกๆเยอะ มีอยู่รายหนึ่งแก่แล้วแต่มีเมียสาว ตัวเองหมดสภาพแล้วจะให้เราพาผู้ชายไปคนหนึ่ง ไปสวิงกิ้งกับเมียเขา ส่วนเขาจะนั่งดู ปูก็ปฏิเสธไป บางทีภรรยาก็เป็นฝ่ายโทร.มาขอให้ปูไปนอนกับสามีเขา คือเขากลัวสามีจะไปมีเมียน้อยเลยพยายามหาสาวๆไปให้ เพราะคิดว่ามีอะไรแบบชั่วครั้งชั่วคราวและอยู่ในสายตาเขาดีกว่า แต่แนวนี้ปูไม่โอเค
       

       ผู้ชายที่เข้ามานี่หลากหลายมาก ส่วนใหญ่จะเป็นพวกพนักงานบริษัท ก่อนนัดเจอกันปูจะคุยกับเขาชัดเจนเลยว่ามีอะไรกันแล้วก็จบ ไม่สานต่อนะ แล้วถ้าปูอยากเจอ ปูจะเป็นคนโทร.ไปนัดเอง ปูก็ไม่ใช่คนสวยนะ แค่ขาวๆ หมวยๆ ออกจะอ้วนด้วยซ้ำ แต่ปูจะมีแฟนตลอด เมื่อก่อนปูคบทีละหลายคน แต่ตอนนี้คบอยู่แค่คนเดียว คบหลายคนเปลืองค่าข้าวค่าโรงแรม (หัวเราะขำ) แล้วปูมีคติประจำใจว่าต่อให้เป็นแค่คู่นอนก็จะไม่ยุ่งกับคนที่มีครอบครัวแล้ว คือเราไม่อยากทำให้ครอบครัวเขาแตกแยก มันบาป "
       
       แต่ในกรณีของ 'นุ่น' สาวสุราษฎร์ซึ่งโพสข้อความในเว็บไซต์ไว้ว่า "อยากมีประสบการณ์แบบผู้หญิงกับผู้หญิง" นั้น เธอบอกกับเราว่าสามีเป็นคนโพสข้อความดังกล่าวให้เพราะต้องการสร้างความแปลกใหม่ให้ชีวิตคู่
       
       " เรา 2 คนจะค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องเซ็กซ์ มีอะไรก็คุยกันตรงๆเลย คือแฟนนุ่นเขาเป็นคนที่มีจินตนาการทางเพศสูง เขาอยากได้ความตื่นเต้น ก็อยากให้นุ่นมีอะไรกับผู้หญิงด้วยกัน โดยมีเขานั่งดูอยู่ด้วย นุ่นก็โอเคเพราะมองว่าผู้หญิงกับผู้หญิงไม่มีอะไรเสียหาย เขาก็เลยเข้าไปโพสข้อความในเว็บฯ แต่ก็ยังไม่มีผู้หญิงคนไหนโทร.มานะ มีแต่ผู้ชายโทร.มาว่าเขากับภรรยาต้องการคู่สวิงกิ้ง แต่เราไม่เอาด้วยเพราะเราไม่ใช่แนวนั้น
       
       นุ่นกับแฟนอยู่ด้วยกันมา 4 ปี ก็เข้าใจว่าผู้ชายต้องมีเบื่อ ก็อยากได้อะไรที่ตื่นเต้นบ้าง ตอนแรกเราก็รับไม่ได้ แต่คิดว่าให้ผู้ชายอิ่มในบ้านดีกว่าเพราะถ้าปล่อยให้ไปมีอะไรนอกบ้านปัญหามันตามมาเยอะ เราเป็นคู่ชีวิตกันแล้วอะไรที่ทำให้เขามีความสุขได้เราก็ยินดี คิดว่าความเข้าใจความต้องการของกันและกันมันทำให้ชีวิตคู่ยั่งยืนนะ "
       
       หาคู่นอน ไม่อยู่ในสมองของทอม-ดี้
       
       ทั้งนี้พบว่าผู้ที่โพสข้อความในลักษณะหาคู่นอนตามเว็บไซต์ต่างๆนั้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายและกลุ่มเกย์ ขณะที่ผู้หญิงเข้ามาโพสค่อนข้างน้อย และที่น่าสนใจคือในกลุ่มทอม-ดี้กลับไม่พบว่ามีการโพสข้อความในลักษณะนี้เลย แม้จะเว็บไซต์เฉพาะกลุ่มของทอม-ดี้ก็ตาม
       
       'เหน่ง' ทอมขี้เหงาจากปราจีนบุรี บอกว่าเธอเคยมีแฟนสาวที่รู้จักกันผ่านเว็บไซต์ แต่เพิ่งเลิกรากันไปเมื่อไม่นานมานี้
       
       " คือก่อนหน้านี้เหน่งก็มีเป็นแฟนผู้หญิงที่รู้จักกันตามปกติ ก็คบกันมา 5 ปีแต่เลิกกันไป เหน่งก็เลยลองมาโพสหาแฟนในเว็บไซต์ ก็มีสาวโทร.มา จากนั้นเราก็โทร.คุยกันทุกวัน คุยกันแบบแฟน คุยกันอยู่ปีหนึ่งเต็มๆ แต่ว่าไม่มีโอกาสได้เจอกัน มาเจอกันครั้งเดียวเมื่อต้นปีนี้ จากนั้นเขาก็ไม่รับโทรศัพท์เหน่งอีกเลย บอกว่าอยากจะมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่เหน่งคิดว่าอาจจะเป็นแค่ข้ออ้างก็ได้ เราคงไม่ใช่สเป็กเขามากกว่า ที่ผ่านมาผู้หญิงที่รู้จักกันผ่านเว็บฯก็มีหลายแบบ บางคนอกหักจากแฟนก็เลยหาเพื่อนคุยแก้เหงา บางคนโทร.มาขอเงินก็มี แต่เพื่อนเหน่งที่เป็นทอมเหมือนกันเขาได้แฟนจากเว็บไซต์และคบกันยาวนานก็มีหลายคู่นะ ส่วนเรื่องโพสหาคู่นอนนี่คิดว่ากลุ่มทอม-ดี้ หรือเลส (เลสเบี้ยน-ผู้หญิงที่มีบุคลิกเป็นผู้หญิง และชอบผู้หญิงที่มีบุคลิกเป็นผู้หญิงเหมือนกัน)ไม่มีนะ ส่วนใหญ่จะโพสหาเพื่อน หาแฟนมากกว่า คือเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่ว่าใครก็ได้ ไม่รู้จัก แล้วจะมานอนด้วยกัน "
       
       อย่างไรก็ดี จากการสอบถามบรรดาผู้ที่โพสข้อความในลักษณะหาคู่นอนนั้นปรากฏว่าหากเป็นคนที่โพสข้อความเป็นผู้ชายจะมีผู้หญิงโทร.ติดต่อเข้ามาน้อยมาก ในขณะที่หากผู้โพสเป็นผู้หญิงกลับมีหนุ่มๆติดต่อกลับมาไม่ขาดสายเลยทีเดียว ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่นิยมมีเซ็กซ์กับคนแปลกหน้า และมองว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนกลุ่มชายรักชายนั้นการโพสหาคู่นอนดูจะเป็นเรื่องปกติและเป็นที่นิยมพอสมควร ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะการที่เป็นคนเพศเดียวกันทำให้พวกเขาไม่รู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัย และที่สำคัญคนกลุ่มนี้ไม่สามารถหาคู่รักและคู่นอนได้ในสังคมทั่วไป การเข้าไปโพสหาคู่ทางเว็บไซต์เกย์หรือเว็บบอร์ดทั่วไปจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจทางหนึ่ง
       
       'เซ็กซ์โฟน' เซ็กซ์ผ่านเสียง
       

       การโพสหาเพื่อนผ่านเว็บไซต์เพื่อหาความแปลกใหม่ในเรื่องเซ็กส์นั้นอาจไม่จำเป็นต้องไปมีเพศสัมพันธ์กันจริงๆ เพราะมีไม่น้อยที่เพียงแต่ต้องการคนมาเล่นเซ็กส์โฟนด้วยเท่านั้น โดยคนกลุ่มนี้มองว่าเซ็กส์โฟนเป็นเซ็กส์รูปแบบหนึ่งที่ปลอดภัยและไม่สร้างปัญหาตามมาทั้งแก่ตนเองและคู่สนทนา
       
       'หนุ่ย' หนุ่มใหญ่วัย 43 ปี ซึ่งมีประสบการณ์การเซ็กซ์โฟนอย่างโชกโชน พูดถึงเหตุผลในการเล่นเซ็กซ์โฟนของเขาว่า " แต่ก่อนเรื่องเซ็กซ์นี่ผมโชกโชนมาก เคยสวิ้งกิ้งมาก่อน แต่เดี๋ยวนี้เลิกหมดแล้ว คือเรามีครอบครัวแล้ว การจะไปมีอะไรนอกบ้านกับใครนั้นมันอาจจะสร้างปัญหาตามมาได้ แต่ผมเป็นคนที่มีความต้องการทางเพศสูงเลยคิดว่าเซ็กซ์โฟนน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด คือเราช่วยตัวเองขณะเซ็กซ์โฟนมันก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ต่างคนต่างมีความสุข พอวางสายก็จบกันไป
       
       จากที่ลงโพสหาเพื่อนเซ็กซ์โฟนไว้ก็มีสาวๆโทร.มาพอสมควร ส่วนใหญ่จะคุยกันตอนดึกๆ บางคนเขากำลังมีอะไรกับแฟนอยู่ก็โทร.มาโฟนกันเรา ภรรยาผมก็รู้นะว่าผมชอบเซ็กซ์โฟน เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเราไม่ได้ไปเหลวไหลนอกบ้าน บางทีตอนผมกำลังโทร.เขาก็นอนหลับอยู่ข้างๆนั่นแหล่ะ (หัวเราะขำ)"
       
       สวิงกิ้ง เร้าใจในแบบเซ็กส์หมู่
       
       สัมพันธ์เซ็กซ์รูปแบบหนึ่งที่กำลังฮืฮฮาและแพร่ระบาดอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ก็คือการมีเซ็กซ์หมู่ที่เรียกกันว่า'สวิงกิ้ง' โดยมีการลงโฆษณาตามเว็บไซต์ต่างๆอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งนอกจากลงในเว็บไซต์และเว็บบอร์ดที่เกี่ยวกับเซ็กซ์และการหาคู่แล้ว ยังมีการเปิดเว็บไซต์สวิงกิ้งโดยเฉพาะอีกจำนวนไม่น้อย โดยนอกจากจะทำกันเป็นธุรกิจแล้วยังมีการจัดกันเองในหมู่หญิงชายที่หลงใหลการมีเพศสัมพันธ์พร้อมกันหลายๆคน ซึ่งแหล่งที่นิยมจัดปาร์ตี้สวิงกิ้งมักเป็นโรงแรมขนาด 2-3 ดาว ที่อยู่ในแถบชานเมือง รีสอร์ทในต่างจังหวัด หรือห้องพักส่วนตัวประเภทคอมโดมิเนียม
       
       'โรจน์' ชายหนุ่มซึ่งมีประสบการณ์ในการจัดปาร์ตี้สวิงกิ้งมาอย่างโชกโชน เปิดเผยถึงกิจกรรมสัมพันธ์เซ็กซ์ในลักษณะนี้ ว่า " การจัดสวิงกิ้งจะมี 2 แบบ คือแบบที่จัดกันเองและที่ทำเป็นธุรกิจ โดยแบบที่จัดกันเองอย่างที่ผมทำอยู่นี่ค่าร่วมกิจกรรมจะถูกกว่า โดยถ้าเป็นคู่สามี-ภรรยา ค่าร่วมงานคู่ละ 500 บาท ถ้าเป็นชายเดี่ยว คือมาคนเดียว ไม่มีภรรยาหรือสาวๆมาด้วย คนละ 1,500-2,000 บาท แต่หากเป็นหญิงเดี่ยว คือผู้หญิงที่ไม่ได้มีแฟนหรือคู่สามีมาด้วยจะไม่เสียค่าบริการ ทั้งนี้เพราะคนที่มาร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายที่ต้องการเข้ามามีเซ็กซ์กับสาวๆ แต่จะไม่เอาแฟนของตัวเองมาด้วย ผู้หญิงจึงมีความสำคัญต่องานนี้มาก เราเลยต้องการดึงสาวๆเข้ามาร่วมงานมากขึ้นเพื่อให้สัดส่วนระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายไม่ต่างกันมากนัก
       
       ส่วนปาร์ตี้สวิงกิ้งที่ทำเป็นธุรกิจนั้น ถ้าเป็นคู่สามีภรรยา ค่าบริการอยู่ที่คู่ละ 1,000 บาท ถ้าเป็นชายเดี่ยว อยู่ที่ หัวละ 2,000-3,000 บาท แต่หากเป็นสวิงกิ้งสำหรับลูกค้าฝรั่งค่าบริการจะสูงขึ้น อยู่ที่ 3,000-7,000 บาทต่อหัว โดยค่าบริการดังกล่าวรวมค่าอาหาร เครื่องดื่ม และค่าโรงแรมไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากเป็นสวิงกิ้งที่ทำเป็นธุรกิจทางผู้จัดเขาก็จะจัดหาหญิงบริการไว้ให้เพื่อตอบสนองความต้องของหนุ่มๆที่ชอบเซ็กส์หมู่ ซึ่งหญิงบริการพวกนี้เขาก็จะได้ค่าตัวครั้งละ 1,000-1,500 บาท
       

       ปกติการจัดสวิงกิ้งแต่ละครั้งก็จะมีผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่คนจัดจะต้องกำหนดสัดส่วนจำนวนคนไม่ให้ต่างกันมาก อย่างที่ผมจัดจะให้มีชายเดี่ยวไม่เกิน 10 คน คู่สามี-ภรรยา 5-6 คู่ ส่วนหญิงเดี่ยวไม่จำกัด แต่ส่วนใหญ่ผู้หญิงมากันน้อย ประมาณ 3-4 คน แต่ผู้หญิงที่มาร่วมงานเนี่ยเขาจะร่วมมีเซ็กซ์ด้วยหรือไม่ก็ได้ จะแค่นั่งดูเฉยๆก็ได้ เราไม่บังคับเพราะเราถือว่าทุกคนมาด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่ธุรกิจ และถ้าหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วมีเงินเหลือผมก็จะให้พวกหญิงเดี่ยวที่มาร่วมเอาไปแบ่งกันเพราะถือว่าเขาช่วยให้งานมีสีสัน แต่ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหรือไม่ ข้อสำคัญของการสวิงกิ้งก็คือมีกฎว่าต้องใส่ถุงยางทุกครั้ง เพื่อป้องกันโรคที่ติดต่อ"
       
       โรจน์ เล่าถึงที่มาในการเป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดปาร์ตี้สวิงกิ้งของเขาว่า "เดิมผมเคยไปร่วมปาร์ตี้สวิงมาก่อน แต่ส่วนใหญ่เขาจะเลิกกันประมาณ ตี 2 ตี 3 คือมีเซ็กซ์จบก็เลิก แต่หลายๆคนยังอยากสังสรรค์กันต่อก็เลยคิดกันว่าถ้างั้นเรามาจัดปาร์ตี้กันเองดีกว่า ก็จัดกันทุกเสาร์ ผมจัดมาได้หลายเดือนแล้ว แต่ผมลงโพสตามเว็บฯด้วยเพราะถ้าจัดเฉพาะในกลุ่มเพื่อน เจอแต่หน้าเดิมๆ มันก็น่าเบื่อ คือคนที่ชอบสวิงกิ้งเนี่ยเป็นพวกที่ชอบมีเซ็กซ์แบบตื่นเต้น ชอบหาความแปลกใหม่ บางคนมาร่วมปาร์ตี้กับเราเพราะชอบมีสัมพันธ์กับภรรยาคนอื่น คือมันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น ดังนั้นแต่ละงานเขาก็จะมีลูกเล่นต่างๆ เช่น ให้เล่นเกมปิดตา จัดเป็นปาร์ตี้บิกินีหรือซีทรู คือใส่บิกินีหรือชุดซีทรู ประเภทผ้าตาข่าย หรือผ้าบางๆโดยไม่ใส่ชั้นในตั้งแต่เริ่มงานเลย
       
       เท่าที่รู้ปัจจุบันมีปาร์ตี้สวิงกิ้งที่ทำกันเป็นธุรกิจ เฉพาะในเขตกรุงเทพฯประมาณ 10-11 ราย แต่ที่จัดปาร์ตี้ในกลุ่มเพื่อนๆกันเองนี่ก็เยอะนะ บางคนสงสัยว่าแล้วไม่กลัวตำรวจจับหรือ อันนี้เราก็ต้องเลือกสถานที่ ส่วนใหญ่ก็จะต้องรู้จักกับเจ้าของโรงแรม เขาก็จะช่วยเป็นหูเป็นตาให้เรา บางทีเขาก็ช่วยเคลียร์กับตำรวจให้ อย่างช่วงนี้ตำรวจจะบอกมาเลยว่าให้เพลาๆหน่อย แล้วนายเขาก็เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน เขาก็ต้องทำผลงาน คือผมว่าเรื่องนี้มันเป็นความสุขส่วนตัว ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร แต่วัฒนธรรมไทยอาจจะไม่ยอมรับ อย่างสามี-ภรรยาเขาไปปาร์ตี้สวิงกิ้ง ต่างคนต่างมีความสุขมันก็ไม่มีปัญหา ในขณะที่ถ้าสามีเจ้าชู้หรือไปมีเมียน้อยมันก็ทำให้เกิดปัญหาครอบครัว"
       

       ด้าน 'หนุ่ย' หนุ่มใหญ่ที่เคยร่วมปาร์ตี้สวิงกิ้ง บอกเล่าถึงประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นว่า " ผมเคยอยู่ 'ชมรมไทยเพลบอย' ซึ่งเป็นชมรมสวิงกิ้งในสมัยก่อน คนที่เป็นสมาชิกก็จะทิ้งเบอร์โทร.ไว้ พอมีคนที่สนใจโทร.ติดต่อมาก็นัดกันไปจัดปาร์ตี้กัน มีคนมาร่วมเยอะ..หลายรูปแบบ หลายสาขาอาชีพ มีครั้งหนึ่งมีผู้หญิงติดต่อมา พอไปเจอกันปรากฏว่าผู้หญิงเขามาคนเดียว นัดผู้ชาย 5 คน คือผู้หญิงนี่อายุ 40 กว่าแล้ว เป็นระดับผู้จัดการบริษัทแล้วนะ พวกดารายังมีเลย ที่ผมเจอนี่เป็นดาราสาวจากค่ายที่ผลิตละครทีวี เป็นค่ายใหญ่ในวงการเลยแหล่ะ ก็มาสวิงกัน 3 คน ชาย 1 หญิง 2
       
       ระดับนายพลก็มีนะ ผมเจออยู่ครั้งหนึ่งฝ่ายสามีซึ่งเป็นนายพล เขาโทร.มานัดให้ไปเจอที่บ้านเขา พอไปถึงเขาก็จะให้ผมมีอะไรกับภรรยาเขา ซึ่งภรรยาเขาสวยมาก เป็นทหารเหมือนกันเป็นระดับพันตรีแล้ว แต่ปัญหาคือภรรยาเขาไม่รู้เรื่องมาก่อน เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวคุยกับภรรยาก่อน ผมเห็นท่าไม่ดีเลยขอลากลับ เท่านั้นแหล่ะ นายพลควักปืนขึ้นมาวางบนโต๊ะเลย เขาก็ขู่ว่าถ้าไม่ตามใจเขา เขาจะยิงผม แล้วให้การกับตำรวจว่าผมบุกรุกบ้านเขา ผมเลยต้องยอม ผมก็มีอะไรกับภรรยาเขาโดยที่มีนายพลคอยแอบดู ต้องใช้คำว่าแอบดูเลยนะ เพราะเขาลงไปนั่งแอบๆดูอยู่ข้างเตียง (หัวเราะ) มันก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกๆดี แต่เดี๋ยวนี้ผมเลิกหมดแล้วนะ เหลือแค่เซ็กซ์โฟนอย่างเดียว(หัวเราะ) ถึงเรื่องพวกนี้ผมจะโชกโชนขนาดไหนแต่เวลาที่ผมมีอะไรนอกบ้านทุกครั้งผมจะใส่ถุงยางนะ เพื่อความปลอดภัย"
       
       นวดอโรมา หลากลีลาเซ็กซ์
       
       นอกจากการมีเซ็กซ์หมู่ที่เรียกกันว่า 'สวิงกิ้ง' แล้ว ปัจจุบันยังมีบริการเซ็กซ์ในรูปแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ นั่นคือ 'การนวดอโรมากระตุ้นอารมณ์' ซึ่งเป็นบริการนวดให้แก่สุภาพสตรีทุกวัย โดยชายหนุ่มหุ่นดีที่การันตีทั้งฝีมือนวดและฝีมือ'นาบ' ผู้ที่ให้บริการดังกล่าวนั้นไม่ได้ดำเนินการในรูปของสถานประกอบการแต่เป็นการให้บริการเป็นการส่วนตัว โดยชายหนุ่มที่ให้บริการนวดมักทำธุรกิจเพียงคนเดียว หรืออาจมีมือนวดที่รู้จักมักคุ้นกันมาร่วมงานด้วยอีก 3-4 คน การโฆษณาก็ใช้วิธีโพสหาลูกค้าผ่านเว็บไซต์ต่างๆ และโทร.นัดหมายกัน ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นบริการนวดนอกสถานที่
       
       'เอ' หนุ่มมาดเข้มซึ่งให้บริการบริการนวดอโรมาฯ อธิบายถึงบริการนวดในลักษณะนี้ว่า
       "หลักๆก็เป็นการนวดผ่อนคลายด้วยน้ำมันหอมแบบอโรมา แต่รูปแบบจะขึ้นอยู่กับลูกค้าว่าต้องการแบบไหน จะนวดอย่างเดียว หรือนวดและมีเซ็กซ์ด้วยก็ได้ ส่วนเซ็กซ์จะเป็นแบบไหนก็แล้วแต่ลูกค้าอีกเหมือนกัน บางคนหลังจากนวดเสร็จก็มีเซ็กซ์กับหมอนวด , บางคนอาจมีแฟนอยู่ด้วย พอนวดแล้วมีอารมณ์ก็มีอะไรกับแฟน หรืออยากจะมีอะไรกัน 3 คนก็ได้ , จะนวดแต่ผู้หญิงหรือนวดคู่ของคุณด้วยก็ได้ และคู่ของคุณจะเป็นผู้ชาย ผู้หญิง ทอม-ดี้ ได้หมด
       
       ส่วนค่าบริการจะเริ่มต้นที่ 500 บาทต่อคน สำหรับบริการนวด ส่วนบริการอื่นๆหลังจากนั้นก็แล้วแต่จะให้ครับ ที่ผ่านมาผู้หญิงที่มานวดก็มีตั้งแต่อายุ 20 ไปจนถึง 50 เลย แต่ทีเยอะที่สุดจะเป็นสาวออฟฟิศช่วงอายุประมาณ 20 กว่าๆถึง 30 กว่าๆ ปัจจุบันการให้บริการนวดในลักษณะนี้มีเยอะมาก...คนที่ให้บริการส่วนใหญ่ก็ทำแบบส่วนตัวคนเดียว"
       
       ด้าน 'บอย' หนุ่มใหญ่ที่ให้บริการนวดอโรมาฯ อีกรายหนึ่ง บอกว่า " การนวดลักษณะนี้ลูกค้าจะนวดโดยไม่สวมเสื้อผ้า ซึ่งบริการนวดของผมนั้นจะใช้เวลานวด 2 ชั่วโมง โดยนวด 3 จุดใหญ่ๆด้วยกัน คือครึ่งชั่วโมงแรกเป็นการนวดด้านหลัง อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาเป็นการนวดด้านหน้า และอีก 1 ชั่วโมงที่เหลือเป็นการนวดบริเวณเฉพาะจุดตามแต่ลูกค้าต้องการ เช่น ไหล่ ขา หน้าอก หรือจุดสงวน หลังจากนวดแล้วถ้าลูกค้าต้องการมีเซ็กซ์ด้วยเราก็มีบริการให้ ลูกค้าต้องการเซ็กซ์แบบไหนเราทำได้หมด จะออรัลเซ็กส์ , สวิงกิ้ง หรือใช้อุปกรณ์เซ็กซ์ทอย เช่น ดีลโด้ (อวัยวะเพศชายเทียม) เราก็มีให้ แต่หากเป็นอปุกรณ์แบบแปลกๆที่ต้องจัดหาเพิ่มเติมก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น สำหรับค่าบริการนั้นเราคิดตามเวลาที่ให้บริการ ชั่วโมงละ 500 บาท
       
       หมอนวดชายเรามีให้เลือก 2-3 คน หรือหากต้องการหมอนวดหญิงด้วยเราก็หาให้ได้แต่ต้องนัดล่วงหน้า คือหมอนวดหญิงนี่ไม่ได้มาจากหญิงบริการหรือหมอนวดตามสถานบันเทิงนะ แต่มาจากพนักงานนวดตามสปาที่ต้องการหารายได้เสริมและสามารถให้บริการแบบเดียวกับหมอนวดชาย คือเรามีหมอนวดในสังกัดไม่เยอะเพราะเราเน้นว่าต้องมีฝีมือในการนวดด้วย ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตาดี มีเซ็กซ์กับลูกค้าได้เท่านั้น ก็มีหนุ่มๆ อายุ 26-27 มาสมัครหลายรายนะแต่พอบอกว่าให้ไปเรียนนวดมาก่อนก็หายไปเลย
       
       บอยยังเล่าถึงประสบการณ์การนวดอโรมาที่เขาพบเจอในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ว่า " จริงๆแล้วผมให้บริการนวดแบบนี้มา 3 ปีแล้วนะ ตั้งแต่ยังไม่ค่อยมีใครทำกันเลย จนตอนนี้มีโฆษณาโพสตามเว็บไซต์เต็มไปหมด คือตอนนั้นผมทำงานบริษัทคอมพิวเตอร์แล้วก็รับนวดเป็นไซด์ไลน์ แต่ตอนหลังลูกค้าเยอะเลยลาออกมานวดเต็มตัว บางคนสงสัยว่าไม่กลัวเอดส์หรือ โดยส่วนตัวก็ไม่กลัวนะเพราะส่วนใหญ่เราจะใส่ถุงยาง นอกจากลูกค้าประจำที่เชื่อใจกันเท่านั้นถึงจะไม่ใส่ ที่ผ่านมามีลูกค้าทุกรูปแบบ ทั้งผู้หญิง ,ทอม-ดี้ , คู่สามี-ภรรยา ผู้หญิงที่มานวดส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีครอบครัวแล้ว หรือเคยเสียตัวมาแล้ว
       
       ผมเจอแบบแปลกๆเยอะ ผู้ชายบางคนอยากให้เมียมีความสุขก็พามานวด ส่วนตัวเองก็นั่งดู ผู้หญิงบางคนก็ชอบให้ทำออรัลเซ็กซ์อย่างเดียว มีอยู่ครั้งหนึ่งผู้หญิงมากัน 3 คน มาให้ผมนวดพร้อมกัน แล้วก็รุมผมคนเดียว ที่แปลกสุดก็เป็นเคสที่ผู้หญิงอายุประมาณ 25 หนีแฟนมานวด แต่เขาอยากได้หมอนวด 3 คน ให้ผู้ชาย 3 คน รุมเขาคนเดียว"
       
       แพทย์ติง เซ็กส์ออนไลน์เสี่ยงภัยเอดส์
       
       กล่าวได้ว่าในปัจจุบันสัมพันธ์เซ็กซ์ที่เกิดจากสื่อออนไลน์ได้ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆจนหลายฝ่ายวิตกว่าอาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทั้งในแง่วัฒนธรรมและศีลธรรมที่เสื่อมทรามลง รวมทั้งยังนำไปสู่ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะโรคเอดส์อีกด้วย
       
       ทั้งนี้ รายงานจากกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าปัจจุบันการติดเชื้อเอดส์ในเยาวชนเพิ่มขึ้นทุกปี จากสถิติพบว่าในประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่(ทุกเพศ ทุกวัย) 35 คนต่อวัน และในปี 2552 นี้คาดว่าไทยจะมีผู้ติดเชื้อเอดส์ และผู้ป่วยกว่า 1,100,000 คน เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 10,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่ติดจากสามีหรือคู่รัก รองลงมาคือชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย และชายที่ติดจากหญิงบริการ
       
       ด้าน นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ สูตินารีแพทย์ และพิธีกรรายการชูรักชูรส แสดงทัศนะถึงเรื่องดังกล่าว ว่า " การแสวงหาความแปลกใหม่ในเพศรสเป็นสิ่งที่เกิดจากสัญชาติญาณพื้นฐานของมนุษย์ที่มักชอบความแปลกใหม่ ยกตัวอย่าง คนทั่วไปมักชอบซื้อเสื้อผ้าใหม่ๆ ซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ซึ่งเรื่องเซ็กซ์ก็เป็นความแปลกใหม่อย่างหนึ่งเหมือกัน แต่อย่างไรก็ตาม การจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเราต้องคำนึงถึงคุณธรรม ศีลธรรม และวัฒนธรรมประเพณีด้วย ไม่ใช่ทำตามความชอบอย่างเดียว ไม่อย่างนั้นจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมาได้ ที่สำคัญคือมนุษย์เราต้องมีความยับยั้งชั่งใจ มีความอดทนอดกลั้นต่อสิ่งเย้ายวนต่างๆ หากสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เกินเลยกว่ามาตรฐานทางสังคม
       
       ต้องบอกว่าพื้นฐานคอรบครัวและสิ่งแวดล้อมทางสังคมก็มีส่วนหล่อหลอมให้คนมีพฤติกรรมทางเพศที่แตกต่างกัน จะเห็นได้ว่าคนกลุ่มที่มีกิจกรรมทางเพศไปในทางสุ่มเสี่ยง ไม่ว่าการหลับนอนกับคนแปลกหน้า สวิงกิ้ง หรือการมั่วเซ็กซ์ มักเป็นคนที่เกิดในเจเนอเรชั่น X และเจเนอเรชั่น Y
       
       คือคนไทยในปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 3 ยุค คือ ยุคเบบี้บูมเมอร์ คือคนที่เกิดหลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันเป็นกลุ่มที่อายุ 50 ปีขึ้นไป เป็นคนที่เกิดมาท่ามกลางความแร้นแค้น พ่อแม่เลี้ยงดูมาด้วยความยากลำบาก หลักสูตรการเรียนการสอนในยุคนั้นจะมุ่งเน้นในเรื่องศีลธรรม ข้อสอบส่วนใหญ่เป็นแบบอัตนัยคือให้อธิบายเหตุผล ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงมีความอดทนอดกลั้น มีเหตุมีผล มีคุณธรรม จริยธรรม และความกตัญญูสูง ให้ความสำคัญกับเรื่องความซื่อสัตย์
       
       ถัดมาคือยุคเจเนอเรชั่น X เป็นกลุ่มที่อายุ 25-50 ปี คนยุคนี้เติบโตขึ้นมาท่ามกลางการฟูมฟักของพ่อแม่ซึ่งไม่อยากให้ลูกลำบาก หลักสูตรการเรียนการสอนเป็นแบบปรนัย คือเป็นข้อสอบที่ให้เลือกข้อที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว คนกลุ่มนี้จึงคิดว่าสิ่งที่ฉันทำเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ไม่สามารถประนีประนอมได้ และสุดท้ายคือยุคเจเนอเรชั่น Y เป็นกลุ่มที่อายุ 12- 24 ปี เป็นยุคที่เกิดมาท่ามกลางความสับสน คิดว่าของใหม่ดีกว่าของเก่า มีอะไรก็ต้องมีอีกสิ่งหนึ่งสำรองไว้เสมอ หลักสูตรการเรียนการสอนไม่มีเรื่องศีลธรรม แต่มีวิชาเพศศึกษาเข้ามาแทนที่ ดังนั้นเด็กในยุคนี้จึงอยากได้อะไรใหม่ๆอยู่เสมอ และต้องมีของสำรองอีกชิ้นหนึ่งด้วย เช่น มีมือถือก็ต้องมี 2 เครื่อง
       
       ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าปัจจุบันความยับยั้งชั่งใจของเยาวชน วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงวัยกลาง(คนที่อยู่ในช่วงอายุ 12-50 ปี) ที่มีต่อเรื่องเซ็กซ์จึงมีน้อยมาก มองในเรื่องของความถูกใจมากกว่าความถูกต้องหรือจริยธรรม จึงนำไปสู่การแสวงหาความแปลกใหม่ในเพศรสโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมอันดีงาม"
       
       นพ.พันธ์ศักดิ์ ยังแสดงความวิตกถึงปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่จะตามมาจากการแสวงหาความแปลกใหม่ในเรื่องเซ็กซ์ ว่า " การมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าเพื่อสร้างความตื่นเต้นแปลกใหม่ในเพศรส ไม่ว่าจะเป็นการหาเพื่อนนอน การสวิงกิ้ง หรือเซ็กซ์อโรมา (การมีเซ็กซ์กับพนักงานนวด หลังจากถูกกระตุ้นอารมณ์ด้วยการนวด) ล้วนเสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นโรคเอดส์ โรคซิฟิลิส โรคตกขาว และโรคมะเร็งปากมดลูก เพราะแม้จะมีการใส่ถุงยางอนามัยก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถป้องกันโรคต่างๆได้ 100% ทั้งนี้เพราะระหว่างที่มีความสัมพันธ์อาจเกิดปัญหาถุงยางรั่วหรือฉีกขาด อีกทั้งการดื่มเหล้า-เบียร์ในงานปาร์ตี้สวิงกิ้ง หรือดื่มเพื่อกระชับสัมพันธ์ก่อนมีเซ็กซ์ ก็มักทำให้การใส่ถุงยางไม่สมบูรณ์ และมีจำนวนไม่น้อยที่ขาดสติเกินกว่าจะใส่ถุงยางก่อนมีเพศสัมพันธ์
       
       เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนที่เรารู้จักเขาชั่วข้ามคืนนั้นไม่ได้กำลังเป็นเอดส์ อีกทั้งการที่เขามีพฤติกรรมส่ำส่อนทางเพศก็แปลว่าเขามีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคนี้ ความตื่นเต้นชั่วครั้งชั่วคราวถ้าต้องแลกกับความทุกข์ทรมานทั้งชีวิตผมว่าก็คงไม่คุ้มกัน ดังนั้นรู้จักยับยั้งชั่งใจและมีเพศสัมพันธ์เฉพาะกับคู่ของคุณจะดีกว่า"
       
       * * * * * * * * * * *
       
       เรื่อง – จินดาวรรณ สิ่งคงสิน

ตามติดชีวิตเด็กวังสราญรมย์ ผู้ชายขายตัว
www.dek-wang.blogspot.com
 
Free download clip movies and picture for gay
www.free4gay.blogspot.com
 

“ซินาอ้า” คัมแบ็ก กับ สมุนขนตาเด้ง/ซ้อ 7

This summary is not available. Please click here to view the post.

Blog Archive