"สนามหลวง-คลองหลอด" ครองแชมป์คนไร้บ้าน

มพศ.สำรวจตัวเลขคนไร้บ้านในกทม.พบ"สนามหลวง-คลองหลอด" มากที่สุด

มพศ.สำรวจ ตัวเลขคนไร้บ้านในกทม.ปี 53 พบ 1,092 คน สนามหลวงและริมคลองหลอด  พบมากสุด  607 คน ส่วนใหญ่มีอาชีพเก็บของเก่า-รับจ้าง-ขอทาน ชี้ จำนวนเพิ่มขึ้น ขณะที่ช่วงอายุน้อยลง  เสนอรัฐ สร้างศูนย์พักพิงคนไร้บ้าน ในจุดต่างๆที่มีคนไร้บ้านอาศัยอยู่

นางสาวนพพรรณ พรหมศรี   เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย (มพศ.)   กล่าวถึงผลสำรวจสภาพปัญหาและจำนวนคนไร้บ้านในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเครือข่ายคนไร้บ้านและมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย(มพศ.) ในโครงการการศึกษาแนวทางช่วยเหลือบุคคลไร้ที่อยู่อาศัย ตามมาตรา 55 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550  กรณีการจัดศูนย์พักคนไร้บ้าน สนับสนุนโดย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)  

นางสาวนพ พรรณ กล่าวว่า ได้ทำการเก็บข้อมูลในช่วงเดือนมกราคม 2553  โดยการลงพื้นที่ตามจุดสำคัญทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 22.00- 02-00 น. เพื่อรวบรวมจำนวนคนไร้บ้าน และนำไปวิเคราะห์สาเหตุ และการดำรงชีวิตของคนไร้บ้าน รวมทั้งศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาของคนไร้บ้านเสนอต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้จากการสำรวจตามจุดใหญ่ๆในกรุงเทพฯ ได้แก่ ย่านลานคนเมืองและรอบๆ พบคนไร้บ้าน จำนวน8 คน  ย่านกษัตริย์ศึก บางรักและราชเทวี จำนวน 34 คน  ย่านหัวลำโพง  42 คน  เยาวราช 52 คน สวนลุมพินี   27 คน สนามหลวงและริมคลองหลอด 

พบจำนวนมากสุดคือ  607 คน  ย่านถนนราชดำเนิน 2 ฝั่งและถนนบางลำพู  23 คน รอบหมอชิต จตุจักร สะพานควาย และพระรามหก 18 คน  ย่านสถานีรถไฟสามเสน 17 คน สถานีรถไฟบางซื่อ  17 คน  วงเวียนใหญ่  7 คน  สะพานพุทธฝั่งพระนคร  32 คน สะพานพุทธฝั่งธนบุรี 27 คน  สถานีรถขนส่งหมอชิต  80 คน   รังสิต  18 คน  ท่าน้ำนนทบุรี  20 คน ศูนย์คนไร้บ้านหมอชิต 19 คน ศูนย์คนไร้บ้านบางกอกน้อย 33 คน ศูนย์คนไร้บ้านตลิ่งชัน 11 คน  รวมทั้งสิ้นจำนวน  1,092  คน มีอายุตั้งแต่ 1 ปีถึง 60 ปี แบ่งเป็นเพศชาย  923  คน  เพศ หญิง   140 คน  เด็ก  29 คน  มี 21 ครอบครัว   ส่วนใหญ่มีอาชีพเก็บของเก่า ค้าขาย รับจ้างขอทาน มีทั้งแบบอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวและอยู่คนเดียว

"การเก็บข้อมูลใน ครั้งนี้ มีความละเอียดมาก เพราะได้ลงพื้นที่ในทุกจุดที่มีคนไร้บ้านอาศัยอยู่ทั่วกรุงเทพฯ และยังได้ดำเนินการในช่วงกลางคืน คือตั้งแต่ 22.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งจะได้ตัวเลขที่นิ่ง เพราะเป็นช่วงที่คนไร้บ้าน พักผ่อน หลับนอน ซึ่งการสำรวจครั้งนี้ นอกจากจะรู้จำนวนคนไร้บ้านในกรุงเทพฯแล้ว มูลนิธิฯจะดำเนินการทำข้อมูลเชิงคุณภาพ เพื่อสังเคราะห์รูปแบบ การแก้ปัญหาคนไร้บ้านเพื่อศึกษาวิเคราะห์ เปรียบเทียบ กระบวนการจัดการ ที่เหมาะสมกับคนไร้บ้านเพื่อ เสนอแนะเชิงนโยบาย ที่เหมาะสมในการช่วยเหลือบุคคลไร้บ้านต่อไป"เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาที่อยู่ อาศัย กล่าว

นางสาวนพพรรณ กล่าวว่า สำหรับตัวเลขจำนวนคนไร้บ้านที่มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย สำรวจเมื่อปี 2544 ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีคนไร้บ้านที่สำรวจได้จำนวน 630 คน แต่ในครั้งนั้นประมาณการว่าตัวเลขแท้จริงน่าจะอยู่ที่ 1,500 คน   ดังนั้นจากผลสำรวจในครั้งนี้ อาจสรุปได้เบื้องต้นว่า ปัจจุบันคนไร้บ้านในกรุงเทพฯ มีจำนวนเพิ่มขึ้น ขณะที่ช่วงวัยของการมาเร่ร่อน ไร้บ้าน ก็มีอายุน้อยลง  ซึ่งการแก้ปัญหา รัฐบาลควรผลักดันให้เกิดการสร้างศูนย์พักพิงคนไร้บ้าน ให้เกิดขึ้นในจุดต่างๆ ที่มีคนไร้บ้านอาศัยอยู่ โดยเสนอให้รัฐบาลมีนโยบายนำที่ดินของรัฐมาจัดสร้างศูนย์ฯต่อไป.-

รวบหนุ่มน้ำหอมเอเยนต์ค้ากามด.ช.

     เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ (ดีเอสไอ) นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายจีน อีริก โลเปซ อายุ 47 ปี นักธุรกิจ สัญชาติฝรั่งเศส ตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทยา โดยจับกุมตัวได้บริเวณกลางซอยสุนีย์พลาซ่า หมู่ที่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วยของกลาง แผ่นซีดีลามก แสดงการร่วมเพศระหว่างชายกับชาย และถุงยางอนามัยจำนวนมาก เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตั้งข้อกล่าวหา พรากผู้เยาว์เด็กอายุไม่เกิน 18 ปีจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย สืบเนื่องจากดีเอสไอได้รับการประสานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ สหรัฐอเมริกา ว่า นายอีริก เคยประกอบธุรกิจประเภทสถานบริการเหล้าเบียร์ และมีบริการทางเพศเด็กชายแฝงอยู่ด้วย มีพฤติการณ์กระทำล่วงละเมิดทางเพศกับเด็ก ต่อมาพบว่าผู้ต้องหาดังกล่าว เป็นหุ้นส่วนในสถานบันเทิงหลายแห่ง ในพื้นที่เมืองพัทยา ที่เปิดให้บริการเฉพาะกลุ่มผู้รักร่วมเพศ นำเสนอบริการทางเพศให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อายุประมาณ 17-20 ปี โดยชุดสืบสวนได้พบกับเด็กซึ่งเคยถูกนายอีริก กระทำอนาจาร จึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัทยา ขออำนาจศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าว จากนั้นได้ส่งตัวผู้ต้องหาแก่พนักงานสอบสวน สภ.พัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

‘น้อง น.’ ทรงสะบึม หึงโหดตบแหลกแย่งเสี่ยบ้ากาม

วีคนี้เป็นคิวของชะนีทรงสะบึม! “น้อง น.เหนียวเหนอะ” ชีวิตเธอยิ่งกว่าละครหลังข่าวเสียอีก
    จากนังหนูโนเนมใจแตกแหลกละเอียด แต่ด้วยหน้าตาเร้าใจ บวกหุ่นทรงสะบึมบาดตาบาดใจชายยิ่งนัก เลยเป็นใบเบิกทางให้หล่อนก้าวขาหน้าเข้าวงการมาได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องใช้ฝีมือ แต่อย่างว่าล่ะเนอะ....ถึงหน้าตาเอาอ่าว แต่ฝีมือหาไม่เจอ เลยเล่นละครแข็งยิ่งกว่าสากกระเบือตำหมาก เล่นกี่เรื่องก็ไม่เปรี้ยงมีแต่แป้ก 
    เมื่ออับจนปัญญาหามีฝีมือไม่ ก็เลยต้องหาจุดขายอย่างอื่นมาทดแทน เลยจัดแจงวิ่งโร่ไปให้หมอ ตัด ถาก เชือด เฉือน อะไรที่หย่อนและเหี่ยวก็ทำให้ตึง ส่วนที่หลวมโพรกก็จัดการขยับให้กระชับ จากนั้นก็เร่เอาเรือนร่างและดีกรีดาราหาง แถวไปหาเงินด้วยการแก้ผ้าถ่ายวับๆ แวมๆ แล้วก็เร่ขายหอยทอดให้เหยื่อเงินถุงเงินถัง
    ในที่สุดก็ได้ “เสี่ยใหญ่” แต่บ้ากาม เอาไปชุบเลี้ยง รู้ทั้งรู้ว่าเสี่ยรายนี้มีลูกเมียนอนรออยู่ที่บ้าน นังทรงสะบึมได้ตกกองขี้ ชะอุ้ย!! ตกกอง เงินกองทองขนาดนี้ เห็นทีคงถอนตัวยากแล้วล่ะ
    แต่อย่างว่าล่ะนะ คบหากับอาเสี่ยบ้ากามก็เหนื่อยใจหน่อยนะ เพราะนอกจากจะไปเสียแรง แย่งเค้ามาแล้ว ตัวเองก็ต้องระวังไม่ให้คนอื่น แย่งอาเสี่ยบ้ากามไปทำพันธ์ด้วย แต่ระวังแค่ไหนก็พลาดจนได้ อาเสี่ยบ้ากามยังแอบไปหยอดเมล็ดพันธุ์กับคนอื่น
    ด้วยเหตุนี้ “น้อง น.” ทรง สะบึม เลยต้องเหนื่อยแรงไปก่อวีรเวรวีรกรรมประจานตัวเองกลางสาธารณชน งานนี้เด็ดจริงๆ เพราะมีแมงเม้าท์สูงวัยเม้าท์ฉอดๆๆๆ ให้ฟังว่า “น้อง น.” เคยไปป๊ะกับนังชะนีร่างแห้ง “ยัย ล.” เด็ก เลี้ยงคนใหม่สดใสปิ๊งปั๊งกว่าของอาเสี่ยบ้ากามกลางร้านอาหารแห่งหนึ่ง งานนี้เมียน้อยนัมเบอร์วัน ปะทะกับเมียเก็บนัมเบอร์ทูเข้าให้ เลยเกิดศึกอีแจ๋วตลาดสดขึ้น  
    ด้วยอารมณ์ประมาณว่า “ผัวข้าใครอย่าแตะ” เลยทำให้ “น้อง น.” โหมโรงชี้นิ้วด่ากราด ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม สบถคำสวะๆ ออกมาเต็มรูหู
    ฟาก “ยัย ล.” ก็ ใช่ย่อย ปากตลาดอยู่แล้ว ชี้โบ๊ชี้เบ๊เถียงกลับปากไวเป็นปืนเอ็ม 16 แกด่ามายังไง ชั้นก็ด่าแกกลับยังงั้น ด่ากันไปด่ากันมา กลัวโฉ่ไม่พอ ทั้งสองเมียน้อยของขึ้นกระโดดตบมันกลางร้านนี่แหละ เอาว่ะ...ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง แต่ผัวข้าใครอย่าแตะ อุตส่าห์ไปปีนต้นงิ้วแย่งเค้ามา
    พฤติกรรมสั่วๆ ยังไม่จบเท่านี้ ก็เหมือนผลกรรมที่เป็นชู้ชาวบ้านตามทัน ย้อนศรให้หล่อนเห็นกงจักรเป็นดอกบัว หลังตบตีแย่ง “เสี่ยใหญ่” แต่บ้ากามจนชื่อเสียงเน่าหนอน ก็ตัดสินใจได้ว่าเลิกยุ่งดีกว่า ขี้เกียจตบตีแย่งกับชะนีตัวอื่นอีกแล้ว
    ว่าแล้วก็หันไปคว้าเอา “ปั๋วสั่วๆ รายใหม่” มาทำพันธุ์แทนและเมื่อทั้งคู่ตกลงจะผสมเทียม เอ๊ย!! ตกลงจะคบหากันแล้ว แม่ทรงสะบึมก็เลยคลานเข่า เข้าไปกราบกรานลา “เสี่ยใหญ่” ขอไปแต่งงาน...    
    เปรี๊ยง!! ต้องเศร้า เพราะเสี่ยใหญ่ไม่เซย์เยสซะงั้น พับผ่าสิ...ก็มันอยากได้ปั๋วใหม่แล้วนิ ก็เลยตัดสินใจแอบไปแต่งมันให้รู้แล้วรู้แร่ดเอาซะเลย ไม่สนผู้มีพระคุณที่อุตส่าห์ชุบเลี้ยงเป็นเมียเก็บ
    อุอิ!! ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรก เพราะผู้ชายที่หล่อนคว้ามานั้นสุดท้ายจับได้ว่าเป็นพวกเก้งกวางแก๊งชะนีกับ อีแอบ ซ้ำร้ายกว่านั้น ร่ำลือกันว่าฝาละมีหล่อนเอาโรคไม่พึงประสงค์มาติดซะด้วย
    อนิจจา...ชีวิตหล่อนน่าอนาถซะจริ๊ง นี่แหละที่เค้าเรียกว่าใครก่อกรรมใดไว้ ย่อมได้กรรมนั้น ยังไงถ้าตกอับจริงๆ ก็คัมแบ็ควงการมารับบทแม่ บทป้าถูๆ ไถๆ ไปละกัน ก่อนที่จะเป็นแตงเถาตายไปซะก่อน...หุหุ   

หนุ่มจู๋เน่ากับสาวจิ๊สกปรก / ซ้อ 7

ต้องแหกปากฝอยเรื่องหอยดาราทุกอาทิตย์ๆ บอกตรงๆ ว่านอกจากซ้อจะเบื่อแล้วยังเอียนจนจะอ้วก แต่ไอ้ที่บอกว่าเบื่อเนี่ย ไม่ได้หมายความว่าเบื่อที่จะฝอยนะ แต่มันเบื่อความเน่าเฟะของวงการมายาต่างหาก ฝอยจนหอยจะติดคอตายอยู่แล้วเนี่ย
      
       เมื่อไหร่จะมียางอายกันซะทีก็ไม่รู้ เกิดมามีรูปเป็นทรัพย์ หากินกับหน้าตาแต่กลับทำตัวไร้ค่าชะมัด
      
       สมัยก่อนนางเอกกับไฮโซจะถูกแยกไว้คนละเกรด แต่ตอนนี้ไม่ว่านางเอกนางร้าย ไม่ว่าลูกท่านหลานเธอมันมั่วปนกันไปหมด ดูอย่าง “นางเอกตาเหล่” ที่ทิ้งความเป็นไฮโซมาเต้นกินรำกินสิ รายนี้วัดจากคุณสมบัติภายนอกไม่ว่าจะเป็นการศึกษา หน้าตา ชาติตระกูล เข้าขั้นเฟอร์เฟ็ค
      
       ย้อนไปสมัยเข้าวงการใหม่ๆ ด้วยความที่เกิดมาสูงส่งหล่อนก็เลยถูกคัดเกรด แยกไปไว้ประเภทดาราน้ำดี แสดงฝีมือเรื่องรักๆ ประกบ “พระเอกหน้าวัว” เพียงเรื่องเดียวก็ออกจากวงการไปมีลูกมีผัว แต่นับว่าวาสนาดีมีผู้ใหญ่อุ้มชู ป้อนงานให้ไม่ขาดสาย ถึงจะเล่นแข็งเป็นสาก
      
       แต่ที่น่าสมเพชก็คือ นอกจากจะเป็นนางเอกอารมณ์เดียว ฝีมือการแสดงตายด้านแล้ว หน้าของคุณหล่อนก็ยังด้านอีกต่างหาก
      
       นางเอกตาเหล่คนนี้จัดว่าเรื่องมากเอาการ คนในกองถ่ายรู้ฤทธิ์ของแม่นี่ดี จะกินจะนอนก็เรื่องมาก แม้กระทั่งจะเข้าส้วมก็ยังแผลงฤทธิ์ ถ้าให้ไปนั่งส้วมหลุมเขย่งขาเบ่งขี้คุณนายไม่เอานะค้า ต้องหย่อนดากในชักโครกเท่านั้นของเสียมันถึงจะไหลปูดๆ
      
       ทุกครั้งที่ไปกองถ่ายคุณนายตาเหร่จะต้องรีบเช็กซะก่อนว่าห้องน้ำห้อง ท่าเป็นไง ถ้าเห็นว่าไม่เวิร์ก ปวดหนักปวดเบาขึ้นมาเมื่อไหร่ คุณนายตาเหร่ก็จะขับรถไปปล่อยทุกข์ข้างนอก บางครั้งดัดจริตถึงขั้นเปิดโรงแรมไว้ขี้เยี่ยวโดยเฉพาะก็เคยทำมาแล้ว
      
       แต่ล่าสุดไม่รู้หูรูดมันชำรุดหรือเปล่าก็ไม่ทราบ คุณนายตาเหล่ถึงได้ทิ้งคราบความเป็นไฮโซ แอบไปนั่งยองๆ ชิ้งๆ ฉ่องๆ ในเต็นท์เสื้อผ้าของฝ่ายคอสตูมจนเหม็นคลุ้งไปทั่ว เล่นเอาคอสตูมถึงกับแหกปากด่าลั่นว่าหมาตัวไหนมาเยี่ยวใส่วะ
      
       สืบกันไปสืบกันมาถึงได้รู้ว่าเป็นความมักง่ายของคุณนายตาเหล่นี่เอง ที่ใช้ให้เด็กไปซื้อถุงก๊อบแก๊บ ก่อนจะหายแวบเข้าไปในเต็นท์เสื้อผ้า จากนั้นก็เยี่ยวกระจายกลายเป็นประเด็นให้ชาวบ้านด่ากัน เห็นแล้วก็เพลีย “งานนี้ไม่รู้จะโทษว่าปากถุงเล็ก หรืออย่างอื่นมันบานกันแน่” ฉี่มันถึงกระฉอกไม่เข้าปากถุงจนความแตกประจานตัวเองแบบนี้
      
       ระวังไว้ให้ดีเหอะ ขืนยังฉี่ไม่เป็นที่ไม่เป็นทางอยู่แบบนี้ คนเขาหมั่นไส้แช่งให้ JIM เน่าไม่รู้ด้วยน้า
       

…………………………………………
        พูดเรื่อง “หอยจี่” แล้วไม่มีเรื่อง “ปลาชะโด่” มันก็คงจะเสียสมดุลพิลึก เพราะในระหว่างที่ฟากนางเอกสร้างวีรกรรม JIM รั่วไว้จนเหม็นไปทั้งกองถ่าย ทางด้านของ “พระเอกขี้เมา” วิกหลายสี ผัวของ “อีหนูกระทะเหล็ก” ก็ไปก่อเรื่อง “โด่” เรี่ยราดจนเป็นที่โจษจันเอาไว้เช่นกัน
      
       ถ้าจะให้พูดถึงเรื่องติดเหล้า พระเอกขี้เมาก็หนึ่งตองอูเหมือนกัน ขนาดบางวันต้องไปรอรับเมียที่กองถ่าย ระหว่างรอยังต้องตั้งวงเมาแอ๋ เรื่องนี้ถามคนที่กองเขารู้ดี
      
       แต่หลังจากไปสร้างวีรกรรมเมาปลิ้นยื่นฉี่กลางถนน จนคนอึ้งกิมกี่ทั่วบ้านทั่วเมืองมาแล้ว ตั้งแต่นั้นมาพระเอกขี้เมาก็ประกาศว่าจะเลิกกินเหล้า สาบานจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ ซึ่งสาเหตุหลักๆ ไม่ใช่เพราะกลัวผู้ใหญ่แบนงาน แต่เป็นเพราะกลัวเมียหน้าบานๆ จะด่ามากกว่า
      
       แต่ก็นั่นแหละ คนมันเคยกินเคยดื่มจะให้หยุดไปเฉยๆ มีหวังลงแดงตาย ว่าแล้วในวันเลี้ยงกองถ่าย พระเอกขี้เมาก็เลยยกซดเพียวๆ เวลาล่วงเลยไปค่อนคืนปรากฏว่าเจ้าตัวเมาจนเดินไม่ไหว บรรดาทีมงานเห็นท่าจะไม่รอด จะโทร.เรียกเมียหน้าบานมารับก็กลัวว่าบ้านจะแตก สุดท้ายเลยตัดสินใจหิ้วปีกเอาไปนอนที่บ้าน เพราะยังไงเห็นว่าวันรุ่งขึ้นต้องเข้ากองแต่เช้าอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องตามตัวให้ปวดหัว
      
       แต่พอตื่นขึ้นมาทีมงานกับปวดหัวมากกว่าเดิม เมื่อพบว่าพระเอกขี้เมา เมาจนเยี่ยวแตกใส่ที่นอน เล่นเอาทีมงานหัวเสียบ่นงึมงำไม่น่าเลยตู รู้งี้ปล่อยให้เมียมาลากคอไปตบกบาลซะดีกว่า พูดจบก็จะไปเปิดทีวีดูแก้เซ็งก็เกือบโดนไฟช็อตตาย เพราะขามันดันไปเหยียบน้ำปริศนาเข้า ทำเอาทีมงานถึงกับงงว่าน้ำอะไรหว่ามาอยู่ใกล้ทีวี พอก้มลงไปสูดดมแทบจะเป็นลม นี่มันเยี่ยวนี่หว่า ชิหาย....ไอ้ขี้เมามันเยี่ยวอีกแล้วโว้ยยยยยยย
      
       แค้นแสนแค้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะพี่แกเป็นพระเอก ก็เลยได้แต่เก็บความแค้นเอาไปเมาท์แตกให้ชาวบ้านได้รู้กัน แต่ถ้าไม่ใช่พระเอก คาดว่าทีมงานคงอยากจะเอาหนังยางดีดหัวปลาชะโดซักตั้บสองตั้บแหงๆ 55555555
       ทั้งขี้เมาทั้งโสโครก เดี๋ยวจะโดนเมียเบิ๊ดกะโหลกซักวัน
       …………………………………………
       แต่เคสของ “ม่ายตาโต” อดีตอีสาวใจแตกแห่งค่ายยักษ์ ที่เคยสร้างวีรกามฟาดผู้ชายยกค่าย ถึงจะเป็นเรื่องจิ๊เหมือนกัน แต่ก็ต่างกรรมต่างวาระ เพราะรายนี้ไม่ใช่เรี่ยราดเรื่องฉี่เรื่องเยี่ยวแต่เป็นเรื่อง “ร่าน” เรี่ยราดมากกว่า
      
       แต่ก็เข้าใจอ่ะนะ คนมันเพิ่งเลิกกับผัวก็คงจะเสี้ยนบ้างตามประสาคนเคยอาจึ๊กๆ
      
       ยิ่งถ้าเป็นเรื่องความคันแล้ว เป็นที่รู้กันว่าสมัยก่อน หล่อนช่ำชองเรื่องอมไมค์ขนาดไหน ว่างจากขึ้นคอนเสิร์ตก็ไปจกผู้ชายขึ้นเตียง ซ้อมเสียงโอ้วๆๆ แล้วแบบนี้จะไม่ให้เสียงดีได้ยังไงกัลล์
      
       คงเพราะเหตุนี้กระมัง ตัวเองเคยใช้มุกสาวจำไมค์ล่อผู้ชายซะจนชิน ทุกวันนี้ขนาดตีนกามันขึ้นมาก่ายกลางหนังหน้าแล้วม่ายตาโตยังกระเสือกกระสน จะเป็นนักร้องอยู่อีก นี่ขนาดรวมพลเพื่อนรุ่นเดียวกัน ขายทีเป็นฝูงคนจ้างยังต้องคิดแล้วคิดอีก นึกแล้วก็ขำวันเปิดอัลบั้มนึกว่างานเลี้ยงรุ่น
      
       สมัยนี้หนุ่มๆ เค้าฮิตเอ๊าะๆ นมหมดอายุอย่างม่ายตาโต กลับบ้านไปตำหมากเลี้ยงลูกเถอะไป๊
      
       แต่ถึงกระนั้นม่ายตาโตก็ไม่ท้อที่จะเสียตัว เดินหน้าหาตอต่อไป โดยปกติอีป้าแอ๊บแบ๊วมักจะหนีบเพื่อนกระเทย “หน้าเด้ง” ไปดึ๋งๆ อยู่แล้วเป็นประจำ จนกระทั่งคืนหนึ่งบุญหล่นทับ JIM ส่งให้ได้ป๊ะหน้ากับหนุ่มล่ำจากเวที “โด่แล้วแมน” ปีล่าสุด ที่มีดีกรีเป็นถึงรองแชมป์ ในวันที่กองประกวดพาหนุ่มล่ำทั้งหลายไปเปิดปาร์ตี้เลี้ยงฉลองในผับหรูย่านใจกลางเมือง
      
       ในระหว่างที่ทุกคนกำลังมึนได้ที่ อีป้าแอ๊บแบ๊วก็ปรี่เข้าไปหาเป้าหมาย พร้อมกับดิ้นๆ เด้งๆ อ่อยไม่ไว้เชิง ผลปรากฏว่างานยังไม่ทันจะเลิก ทั้งคู่ก็หายจ้อยไปนอนจี่หอยกันต่อที่บ้านหลังงามของฝ่ายหญิง
      
        งานนี้ไม่รู้ใครติดใจใคร ที่แน่ๆ กว่าจะผละออกจากกันได้ ก็เล่นเอาฟ้าเหลืองไปหลายวัน

ลูกค้าบาร์เมาแล้วโคตรมั่ว

เบื่อให้ไอ้พวกลูกค้าที่ชอบมาเมาแล้วคุยไม่รู้เรื่อง ถือว่ามีตังค์แล้วมาเที่ยวหรืองัยก็ไม่รู้ แมร่งกวนตรีนใหญ่แระ เมื่อคืนมีมาเคสหนึ่ง ลูกค้าคนไทยมานั่งตั้งแต่หัวค่ำ เรียกเด็กไปนั่งสองคน ตีออฟเด็กด้วย เด็กก็เลยไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ลงมานั่งด้วย ไอ้บ้านี่ นั่งไปนั่งมา ต่อราคา สองคนพันห้า เล่รให้ราคาสนามหลวงเลยนะนั่น แล้วใครจะไปกับมัน บ้าหรือเปล่า เด็กก็เลยไม่ไปกับมัน แล้วมันก็ยังด้าน เรียกเด็กไปนั่งจนเกือบครบทุกคนในร้าน แต่ไม่ให้ดริงค์นะ สัด แมร่งเรียกไปต่อราคา สองคนพันห้าเหมือนเดิม กวนตีนมาก ไม่มีใครไปกับมันเลย จนบาร์ปิด สมน้ำหน้ามัน ถ้าอยากได้เด็กสองคนราคาพันห้า ทำไมไม่ไปหาที่วังวะ พันห้าได้ตั้งสามสี่คน  มาหาที่บาร์ทำไมให้เด็กมันด่าวะ  หน้าส้นตีนจริง

ไปยืนจับกลุ่มกัน แล้วมันจะขายออกเหรอ

เห็นหลายครั้งแล้ว บรรดาเด็กวัง เวลายืนขาย ทำไมต้องยืนจับกลุ่มกันขนาดนั้นด้วย ยืนที 4-5 คน ลูกค้าที่ไหนจะกล้าเทียบรถจอดถามละคั้บ ทำไมไม่ยืนแยกกัน ยืนห่างๆกันบ้างก็ดีนะ รู้อยู่ว่าบางทีอาจจะกลัวโดนปล้น โดนไถเงิน ก็ยืนให้มันห่างๆกันพอประมาณเอาดิ นี่อะไร ยืนกันเป็นกลุ่ม จนกูนึกว่าจะยกพวกไปตีกับใครที่ไหน เย้ย  แล้วมันจะขายออกมั้ยเนี่ย ยิ่งพวกทหารใหม่ที่มายืน ยิ่งไปกันใหญ่ ไม่ยอมแยกกลุ่มกันเลย นั่งกันอยุ่นั่นละเป็นกลุ่ม ใครมันจะกล้าเข้าไปทักว้า  โดนเฉพาะโซนหัวโค้งท่าราช มาทางหน้า ม ศิลปากร ยาวไปจนถึงหน้า 7-11 ยืนกันเป้นกลุ่มๆซะงั้น

10,000 ๐F โดย อ้น สราวุฒิ มาตรทอง

หนุ่มแน่น โดย แจ๊ค เล็มวาร์ด

ข้อมูลจากนิตยสาร VOLUME

ล้วงลึกชั้นในคนดัง ของใครเซ็กซี่สุด

เรื่องราวลับๆ ที่เราพยายามล้วงลึกถึงสไตล์การเลือกชั้นในชายแต่ละคน ซึ่งจะว่าไปแล้วชุดชั้นในก็เป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างความมั่นใจของท่านชายด้วยเช่นกัน ส่วนสไตล์ใครจะเป็นอย่างไรนั้นเราคงต้องแอบไปดูกัน               อรรถพล ตั้งคารวคุณ        หนุ่มแฟชั่นสุดฤทธิ์ผู้นำเข้าเสื้อผ้าแบรนด์ดังจากฮ่องกง Another F.C.K ที่มีสไตล์เปรี้ยวเก๋ และทุกครั้งเราก็มักจะเห็น "แบงก์-อรรถพล" พกพาความั่นใจในการแต่งตัวอย่างเต็มที่...               "ชอบความกระชับ เพราะว่าบางครั้งเวลาที่เราใส่กางเกงขาเดป หรือว่าใส่กางเกงที่แฟชั่นจัดๆ จะได้ไม่รู้สึกอึดอัดว่ากางเกงในมากองอยู่ที่หน้าขา ฉะนั้นก็จะเลือกแบบที่คล้ายๆ กางเกงขาสั้นแต่ว่ากระชับตัว ลวดลายอาจจะฉูดฉาดนิดนึง เพราะว่าเราเป็นคนชอบสีสัน ชอบแฟชั่นอยู่แล้ว"               ม.ล.อธิพรพงศ์ ชยางกูร        หนุ่มวัยรุ่นที่มีความทะเล้นในแบบผู้ชายอารมณ์ดี แม้ว่าสไตล์ของเขาจะเป็นแบบเรียบง่าย แต่บางทีก็แอบเล่นสนุกด้วยการโชว์ขอบบ็อกเซอร์นิดหน่อย               "ชอบความสบาย ส่วนใหญ่จึงเลือกซื้อแบบที่เป็นบ็อกเซอร์ ลายการ์ตูนหรือว่าลายสกอตธรรมดาทั่วไป แต่ส่วนใหญ่ที่เพื่อนซื้อให้เป็นของขวัญจะเป็นลายแปลกๆ สีสันจัดจ้านหน่อย เราก็ชอบนะเพราะว่าแฟชั่นวันรุ่นตอนนี้เขาก็ต้องมีโชว์ขอบบ็อกเซอร์กันบ้าง (หัวเราะ)"               กร เกียรติเฟื่องฟู        พิธีกรหนุ่มมาดทะเล้น แม้ว่าเราจะเห็นมาดที่เป็นทางการของเขาในยามทำงานแต่มาดในเวลาสบายๆ ของเขานั้นเขาเป็นหนุ่มที่มีความฮิป และมีสไตล์การแต่งตัวที่เป็นตัวของตัวเองมากเลยทีเดียว               "ส่วนใหญ่เวลาเลือกซื้อชั้นในจะซื้อแบบเดิมๆ ผมชอบลักษณะที่เป็นบ็อกเซอร์ แต่ว่าชอบแบบที่มีขอบยางยืดแบบที่เป็นยี่ห้อหรือเป็นลวดลายสวยๆ เพราะว่าบางครั้งเราใส่กางเกงยีนส์หรือกางเกงไปเที่ยวลำลอง ที่เป็นเอวต่ำก็อาจโชว์ให้เห็นขอบกางเกงในนิดนึง ดูฮิปๆ หน่อย สีสันที่ชอบก็เป็นแบบเรียบๆ ไม่ได้หวือหวามาก"               ชั้นในชายสำคัญไฉน!?               ตอบได้ทันทีว่า "สำคัญมาก" เพราะชั้นในนั้นถือเป็นปราการด่านสุดท้ายที่สัมผัสใกล้ชิดกับความเป็นชายของคุณที่สุด ซึ่งปัจจัยที่จำเป็นต่อการเลือกนั้นก็คือ คุณภาพของเนื้อผ้า ต้องไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และที่สำคัญอย่าเลือกที่กระชับมากจนเกินไปนัก เพราะอาจจะทำให้น้องชายของเจ้าของกางเกงเจ็บปวดได้ ซึ่งเรามีประเภทของชั้นในชายไว้ให้ท่านชายลองเลือกดู               1. กางเกงในแบบขาสั้น หรือที่เรียกกันว่าบ็อกเซอร์ เป็นกางเกงในแบบไม่กระชับ ใส่สบาย แต่ไม่สามารถใส่เคลื่อนไหวมากนัก ทั้งนี้ กางเกงประเภทนี้กลายเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งเทรนด์การใส่บ็อกเซอร์นี้ก็เริ่มเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิงบางกลุ่มด้วย        2. กางเกงในขาสั้นรัดรูป กางเกงรูปทรงนี้จะต่างจากแบบแรกตรงที่ว่ากางเกงในแบบนี้เพิ่มความกระชับให้สะดวกต่อการเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้น        3. Pouch boxer คือกางเกงในขาสั้นแบบกระชับอีกชนิดหนึ่ง ไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ก็จะพกความมั่นใจได้มากขึ้น เพราะความกระชับของกางเกงแบบนี้        4. กางเกงในจีสตริง ในเมื่อผู้หญิงมีจีสตริงเพื่อแสดงถึงความเซ็กซี่ได้ ผู้ชายก็มีให้เลือกได้เช่นกัน ซึ่งหากท่านชายใดมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมและกล้าที่จะเลือกกางเกงในแบบนี้แล้วหล่ะก็เราขอมอบตำแหน่ง "ผู้ชายเซ็กซี่ที่สุดแห่งปี" ไปเลย

รักซ่อนเร้นของ “พระเอกตายห่า” กับ “นักจ้อฉิ่งแตก” / ซ้อ 7

ช่วงนี้ดาราโดนหลอกเยอะซะเหลือเกิน เหตุเพราะความโลภและก็คบคนชั่วทั้งนั้น จะมีก็แต่ "ตุ๊ดหน้าทนทาน" เท่านั้นแหละที่ผ่าเหล่าเป็นดาราไปหลอกชาวบ้าน ล่าสุดก็ได้ข่าวว่าเตรียมทำธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้โม้เอาไว้เรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนกล่อม "ป้าแก่คนหนึ่ง" ชาวบ้านแห่งเมืองขึ้นคานมาร่วมหุ้น ส่วนคุณป้าจะโง่เป็นควายหรือไม่ คงต้องลุ้นกันอีกที ก็ขอภาวนาให้ประวัติศาสตร์อย่าซ้ำรอย เพราะตูก็ขี้เกียจลากไส้เมิงเหมือนกัน
      
        หลายคนถูกหลอกถูกโกงเงิน แต่สำหรับบางคนถูกหลอกจนเสียตัว อย่างอีหนูแห่งแก๊งกะหรี่เจอรี่ที่ชอบเด้งหน้าเด้งหลังเด้งๆๆ ไปข้างหน้า ผู้เคยสร้างวีรกรรมคันจนมีภาพหลุดสุดเอ็กซ์ออกมาหลอน ทำเอาชาวบ้านสมน้ำหน้ากันทั่วประเทศ เพราะกะไว้แล้วว่าอีคงจะเป็นแบบนี้ ไม่งั้นจะไปเต้นนมเด้งตูดสั่นได้เหรอยะ เมื่อคันชักกะเย่อซักขนาดนี้ งั้นก็ขออนุญาตเรียกว่า "อีหนูคันซี่" ก็แล้วกัน
      
        หลังจากที่โดนจับได้ว่าเป็นอีสาวจอมคัน พอมีผัวใหม่เป็น "พระเอกตายห่า" ต่อไปอีหนูคันซี่ก็เลยเปิดตัวมันซะเลย ประมาณว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้วโว้ย แต่สุดท้ายผัวเบอร์ล่าสุดก็ดันโบกมือลาอีหนูคันซี่ไปจนได้ เล่นเอาอีหนูต่อมน้ำตาแตกเสียอกเสียใจสุดชีวิต โทรเรียกแก๊งกะหรี่เจอรี่มาชุมนุม จากนั้นก็เปิดฉากเมาเหมือนหมา พล่ามไม่หยุดว่ากูผิดตรงไหน ขาวอวบสวยเอ็กซ์เด้งเก่งขนาดนี้ไม่ชอบหรือไงวะ...โฮกๆ
      
        ช่างน่าสมเพชเสียจริงๆ ไม่รู้ว่าพ่อตายแม่ตายจะร้องจะร้องไห้ชิหายแบบนี้หรือเปล่า อะไรที่มันเสียแล้วก็เสียไปเถอะหนูจ๋า ไหนๆ รูก็บานอยู่แล้ว ถ้ามันจะบานอีกสักหน่อยก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง คิดซะว่า "ขยายรูเยี่ยว" ก็แล้วกัน...ฮ่าๆ
      
        ส่วนไอ้เรื่องผิดตรงไหน ผิดยังไง ไม่ต้องไปหาคำตอบ เพราะของบางอย่างมันเป็นเรื่องของรสนิยม บางที "ขาว-อึ๋ม" ก็สู้ "ยาว-บ๊วบ" ไม่ได้หรอกฮ้าาาา
      
        ความจริงแล้วผัวของคุณน้องไม่ได้แมนทั้งแท่ง แต่แมนกินแท่งต่างหากล่ะ และเพิ่งจะค้นพบทางสว่างออกจาก "ถ้ำ" เมื่อไม่นานมานี้เอง เหตุเกิดที่สีลมขณะที่พระเอกตายห่ากำลังไปเที่ยวอยู่ในดงของชาวเกย์ทั้งหลาย และก็ได้ไปป๊ะกับ "กะเทยน้อย" ลูกนักธุรกิจร้อยล้านที่ติดสอยหอยตูดเพื่อนของพระเอกตายห่ามาด้วย
      
        เมื่อผีมาเจอผีบรรยากาศมันก็เลยวังเวงชวนให้ขนหัวบางอย่างลุก ส่งผลให้พระเอกตายห่าจิตใจเต้นรัวตุบตับๆ สันนิษฐานว่าคงจะอยากกินตับหลายๆ อัน แบบว่า...ตับๆๆๆๆๆๆ ซี๊ด
      
        ว่าแล้วพระเอกตายห่าก็เลยเข้าไปทำความรู้จักกับกะเทยน้อย ทั้งคู่พูดคุยกันถูกคอกระหนุงกระหนิง ทั้งดื่มทั้งดิ้นกระดกแก้วชนกันอั่กๆ ไหล่เบียดไหล่ สะโพกเบียดสะโพกจนแทบจะลุกเป็นไฟ พอเมาได้ที่งานนี้สันดอมันก็เลยโผล่เลยค่า จากแค่สีๆ คราวนี้พระเอกตายห่าถึงกับของขึ้นดึงกะเทยน้อยมานั่งตัก ก่อนจะหลับหูหลับตาแลกน้ำลายกันเยี่ยวเหนียว เล่นเอาเพื่อนฝูงกะเทยน้อยกรี๊ดกร๊าด ดีใจแทนทวารของเพื่อนสาวจะได้รับใช้พระเอกก็คราวนี้ละวะ
      
       เมาท์แตกยังไม่ทันจะจบคำ พระเอกตายห่าก็เอ่ยปากชวนกะเทยน้อยไปปาร์ตี้ต่อที่ห้อง ทำเพื่อนกะเทยตบเข่าดังฉาด แหม...ทีแทงหวยไม่ถูกเหมือนแทงดากแบบนี้มั่งว้า
      
       แหม ... ก็แทงหวยเลขมันมีตั้งแต่ 0–9 จับคู่สลับไปสลับมาได้อีกไม่รู้กี่ร้อยตัว โอกาสที่จะโป๊ะเชะมันมีน้อยมาก แต่แทงดากมันมีแค่รูเดียว ถ้าทายไม่ถูกแทงไม่เข้า ก็เก็บเอาไว้ขี้เถอะย่ะ
      
       นับตั้งแต่ชวนกะเทยน้อยกลับห้องคืนนั้น พระเอกตายห่าก็เริ่มม้วนหางออกจากอีหนูคันซี่ จากที่เคยไปรับส่งเช้าถึงเย็นถึงก็เปลี่ยนเป็นไม่ว่างๆ หนักๆ เข้าก็อ้างงานเยอะ สุดท้ายก็เลยลงเอยที่ต่างคนต่างไป ปิดตำนานจู๋จิ๋มนมยกเว้นตูด
      
       ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพระเอกตายห่าไปติดใจรสอุนจิตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าเวลานี้พระเอกตายห่าทั้งรักทั้งหลงน้องกะเทยน้อยเป็นอย่างมาก กำลังสวีทกิ๊บกิ้วกันเลยแหละ ยังไงก็ขอให้รักกันนานๆ ก็แล้วกัน คราวหน้าคราวหลังอย่าได้มาหลอกแดกผู้หญิงเพื่อความดังแบบนี้อีก
      
       ถ้าไม่คิดสงสารผู้หญิง ก็ขอให้คิดถึงหน้าแม่ของตัวเองมั่ง ถึงมันจะคนละคน คนละหอยไม่เกี่ยวอะไรกัน แต่มันก็มีหอยเหมือนแม่เอ็งนั่นแหละ...เข้าไจ๋
      
       อีกรายที่หักสัมพันธ์กันไปเรียบร้อยแล้วก็คือ "นักจ้อชอบเลื้อย" กับ "ทอมถังแตก" ลูกของ "ไฮโซจอมเวอร์" เก๋ไม่มีจะแดก คู่นี้คบหากันมาหลายปี รักเลิกๆ ก็หลายหน แต่คราวนี้มีอันเลิกกันถาวรชัวร์ป้าบ เหตุเพราะทอมถังแตกดันติดโรคแม่ กำลังจะโดนฟ้องหมดตัวเป็นเหตุให้นักจ้อชอบเลื้อยเสียวสันหลังวาบ ขืนร่วมวงบรรเลงเพลงฉิ่งต่อมีหวังได้หาเงินเลี้ยงมันแน่ตู ว่าแล้วนักจ้อชอบเลื้อยก็เลยต้องย้ายโคกอีโด่ยไปหาเหยื่อยรายใหม่กระดึ๊บๆ
      
       แต่คนมันตีฉิ่งฉับๆ มาตั้งนาน ไอ้ครั้นจะให้ไปหาเสากระโดงมากระแทกก็คงจะสายเกินไป เพราะหนุ่มสมัยนี้ก็เล็งแต่อีสาววัยกระเตาะมาทำเมีย แล้วอีป้านักจ้อสังขารใกล้จะเหนียงยาง ผู้ชายที่ไหนมันจะมาแล ว่าแล้วนักจ้อชอบเลื้อยก็เลยยึดคอนเซ็ปต์เปิบหอยต่อไป
      
       ผัวไม่มีกระเจี๊ยวเบอร์ล่าสุดของนักจ้อชอบเลื้อยจัดว่าอยู่ในระดับ เศรษฐี ตระกูลเดียวกับผัวนักการเมืองของอดีตนางงาม ไปปิ๊งปั๊งเปิดหม้อกันที่ไหนก็ไม่ทราบ รู้แต่ว่าเวลานี้นักจ้อกำลังเห่อผัวใหม่อย่างหนัก ถึงขั้นพกพาไปไหนด้วยไม่ห่าง
      
       ล่าสุดก็เล่นเอาลูกน้องตกตะลึง เมื่อนักจ้อชอบเลื้อยควงทอมไฮโซมาโชว์ถึงออฟฟิศ ก่อนจะควงกันหายไปข้างบนมันทั้งวันทั้งคืนไม่โผล่หน้ามาให้ลูกน้องเห็นสอง วันเต็มๆ จะไปเคาะห้องเรียกก็ไม่กล้า เกิดไปขัดจังหวะล่ะชิหาย งานนี้ได้ตกงานกันบ้างล่ะ
      
       โชคดีของลูกน้องที่ผัวเก่าถังแตกของนักจ้อชอบเลื้อยเข้ามาที่ออฟฟิศ พอดี ก็เลยไม่ต้องเสนอหน้าเข้าไปเคาะห้องเอง แต่โชคร้ายของนักจ้อชอบเลื้อยที่ผัวเก่ากับผัวใหม่ดันมาป๊ะกัน งานนี้ศึกผ้ารัดนมก็เลยระเบิดตู้มๆ
      
       พอเปิดประตูมาประจันหน้ากันทอมถังแตกก็ปรี๊ดทันที ถ้าหนีไปมีผัวเป็นผู้ชายยังพอทำใจได้ว่าพ่าย KADOR แต่นี่ดันไปคว้าผัวไม่มีกระเจี๊ยวมาซ้ำรอยโป้ง ชี้ กลาง นาง ก้อย งานนี้มีแหกกันบ้างล่ะวะ ว่าแล้วทอมถังแตกก็เปิดฉากต่อว่านักจ้อชอบเลื้อย ก่อนจะปิดฉากด้วยลูกอ้อนขอให้กลับมาซบนมทอมถังแตกเหมือนเดิม
      
       พูดอย่างนี้ผัวใหม่ก็เลยเดือดปุดๆ จบแล้วไม่ยอมจบแบบนี้ต้องตีเข่า พูดจบสิงห์สาวคะนองนาผืนน้อยก็กระโจนเข้าใส่กันชุลมุน ก่อนจะจบด้วยการทอมถังแตกร้องไห้ขี้มูกโป่งกลับไปฟ้องไฮโซจอมเวอร์ที่ใส่ เสื้อแดงนั่งดูช่องควายกินหญ้าอยู่ที่บ้าน
      
       พอไฮโซจอมเว่อร์เห็นสารรูปลูกที่โดนฟัดมาซะมอมก็เลยทนไม่ได้ ยกหูโทรหานักจ้อชอบเลื้อยทันที หวังจะทวงประชาธิปไตยเหนือดินแดนสามเหลี่ยมของนักจ้อชอบเลื้อยกลับคืนมา
      
       งานนี้ก็เลยนักจ้อเชือดกลับอย่างนิ่มๆ ว่า เราจบกันแล้วแต่ลูกสาวคุณแม่ยังก่อกวนไม่หยุด ก็เลยเป็นแบบนั้นแหละค่ะ ก่อนจะตัดบทขอตัวไปทำงาน เล่นเอาอดีตแม่ผัวเหวอรับประทานเลยทีเดียว ส่วนคุณลูกทอมถังแตกก็ยังไม่เข็ดยังคงเดินหน้าเรียกร้องประชาธิปไตยเหนือดิน แดนสามเหลี่ยมต่อไป แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สำเร็จซักที
      
       เป็นไงล่ะ....นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า จะมาทวงประชาธิปไตยหาบิดาซินาอ้าเหรอ (เกี่ยวกันปะเนี่ย 5555555)

 ตุ๊ดหน้าทนทาน = ขอทาน โอมาร์
ป้าแก่คนหนึ่ง = ทนาย ปอบปุ๊
Gaหรี่เจอรี่ = กาหรี่เบอรรี้
อีหนูคันซี่ = แนนนี่ แมคพี
ภาพหลุดสุดเอ็กซ์ = กับ โจ (jo-pop แห่ง อาร์เอดส์)
พระเอกตายห่า = กาย รัดจานนท์
กะเทยน้อย = เรื่องนี้ แต่งขึ้น ไม่มีมูล แน่ๆๆๆๆ เพราะว่า พระเอกตายห่าอยู่กินกับ ผู้จัดแห่งช่องห้าไปแล้ว
นักจ้อชอบเลื้อย = เอิ๊กอ๊าก
ทอมถังแตก = น้ำฝน วิรุนกาญจนบุรี
ไฮโซจอมเวอร์ = ดารุณี ลูกสมุนเสื้อแดง

พระเอกสันดานเสีย อาศัยเส้นใหญ่ เบ่งคับวงการ

   วง การมายาถึงจะถูกมองว่าเป็นการเต้นกินรำกินแต่ก็ยังเป็นวงการมายาที่ใครๆต่าง ก็อยากจะเข้ามาโลดแล่น เพราะว่าสมัยนี้ถ้ามีงานในวงการปุ๊บรับรองเงินทองตามมามหาศาลอย่างแน่นอน จะเห็นได้ว่าดาราหลายคนที่ขุนลูกหัวแก้วหัวแหวนเข้าวงการมาแล้วอื้อซ่า อย่างรายล่าสุด นางเอกสาวมาดเท่ห์ เจ้าของบทบาทนางเอกในละครหลายเรื่อง ก็เข็น ลูกชายสุดเลิฟ ให้เป็นดารากับเขาบ้าง โชคดีที่ลูกชายเกิดมาหน้าตาดี ทำให้เข้าวงการได้ไม่ยาก แหม.ก็เล่นหน้าตา หล่อเข้าขั้น ซะขนาดนั้นใครหน้าในไม่สนใจก็โง่แล้ว ค่ายละครหลายต่อหลายค่ายจ่อคิวอยากได้ให้ขึ้นแท่นเป็นพระเอกละคร จากเด็กที่ไม่คยมีความรับผิดชอบอะไรเลย จะได้มีโอกาสเข้าวงการมาเป็นตัวอย่างของเยาวชนมันจะทำหน้าที่ดาราที่ดีได้ ไหมเนี่ยะ

    ด็อกเตอร์เห็ด เซดเรื่องราวชั่วๆ ของลูกชายสุดเลิฟของ คุณแม่นางเอก ไม่ รู้ชีจะโดนบุกมาถล่มที่ออฟฟิศฉีกอกแป้นๆ ของ นังชะนีหน้าดำ หรือเปล่าเนี่ยะ เพราะคุณแม่นางเอกได้ขึ้นชื่อว่าเป็นจงอางหวงไข่คนหนึ่งทีเดียว ลูกชายชีนี่ลิ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ตอมเลยล่ะ แต่หารู้ไม่ว่าลูกชายสุดเลิฟเนี่ยมันไม่ธรรมดา พอมันได้ทำงานในวงการเป็นครั้งแรก ฮีก็เกิดอาการตื่นเต้นอย่างหนัก จนทำ ปรับตัวไม่ถูก จากเด็กน้อยที่จะต้องเที่ยวเสเพลไปวันๆ จะต้องมารับผิดชอบทำงานโน้นงานนี่ อย่างว่าเด็กมันไม่มีความรับผิดชอบก็ต้อง แผลงฤทธิ์ ออกมาจนได้ ด้านคุณแม่นางเอกก็คอย ถือหาง ลูกชาย สอนให้ลูก หยิ่งผยอง เชิดไว้อย่าไปสนใจใครทั้งนั้น ทำตัวเรื่องมากและให้เข้าถึงยากเข้าไว้ มันก็เลยเข้าทางลูกชาย ทุกเรื่องแย่ๆ มันเริ่มสำแดงมาหมด ตั้งแต่เรื่องเบี้ยวคิวถ่าย เรื่อง พูดจาหมาไม่รับประทาน และที่เด็ดสะระตี๋ที่ต้องจดจำ ก็เรื่องทำตัว มั่วไม่เลือก คลำดูว่าสาวไหนมีหอยก็รีบปรี่เข้าใส่แบบไม่ยั้ง ใช้ความหน้าตาดีที่ติดตัวมาแต่เกิด ไล่ตะเลิดเปิด พรหมณ์จรรย์สาวๆ ตลอดเวลา ตกดึกปุ๊บสาวๆมารายล้อมเต็มไปหมด เพราะว่าหน้าหล่อๆ ของฮีนั่นแหละฟาดสาวไม่ยั้ง สันดาน มันไม่ไกลต้นจริงๆ อย่างนี้มันต้อง สรรเสริญ กันซะหน่อย ปล่อยให้ คนชั่วลอยนวล อยู่ในวงการนานๆ มันไม่ดี เห็นทีต้องจัดการสั่งสอนกันบ้างจะได้หลบจำ ที่ ด๊อกเตอร์เห็ด ต้องออกมาด่าแบบละเอียดยิบก็เพราะว่า ตัวแม่มันไม่ยอม สั่งสอนลูกชาย มีแต่ ยกหางให้ท้าย ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนตลอด

    นังชะนีหน้าดำ แอบกระซิบบอกว่าเห็นกับตาหาหนังคาเขา ไอ้พระเอกหน้าหล่อ คนนี้หิ้วชะนีหน้าสวยเข้าโรงแรมแบบไม่สน หน้าอินหน้าพรหมณ์ คนมันหงี่ขึ้นสมองอย่างนี้นี่เอง ถึงได้ตกเป็นข่าวกับสาวๆ ไม่เลือกหน้า ว่าไปแล้วไม่ต่างอะไรกับแม่มันหรอกที่ตกเป็นข่าวกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า อย่างนี้มันน่า ตบล้างน้ำ ทั้งแม่และลูกจริงๆเลยเนี่ยะที่ ทำตัวเพลียระเหี่ยใจ แข่งกันฉาวรายวัน เอาเป็นว่าถ้ารู้สึกตัวก็รีบปรับปรุงตัวด่วน ไม่งั้นอนาคตในวงการบันเทิงของ พระเอกคนนี้อาจจะป่นปี้ ไปมากกว่านี้ก็ได้

    ชีวิตไม่มีใครกล้าลิขิตเอง

ใครหว่า? ‘ต.ตาตุ่ม’ อ้ายหื่นจอมเจาะไข่แดง

ดาราตกอับ "ต. ตาตุ่ม" ไอ้หนุ่มลืมกำพืด อยากโด่งดังเหมือนชาวบ้านโดยไม่ดูหนังหน้าตัวเอง หอบสังขารทำทุกหนทางตะเกียกตะกายดาวสุดฤทธิ์
    เฮ้อ...!! อนิจจาหมาฝันค้าง หลับไม่ตื่นตะเกียกตะกายตะกุยสองขาหน้าแค่ไหนก็ไปได้สุดๆ แค่ตัวประกอบช่องไกลปืนเที่ยง เล่นให้ตายเป็นสิบๆ เรื่อง ก็ได้แค่ต้นถั่วงอกโผล่มาแล้วก็โดนเหยียบตาย แค่เล่นช่องไกลปืนเที่ยงก็แทบจะไม่รอดแล้ว ยิ่งฝีมือราวกับสากกะเบือยิ่งตกม้าตายเข้าไปใหญ่ เห็นแล้วอยากจะหัวเราะให้ฟันหักจริง...จริ๊ง
    เหวย...เหวย แต่เชื่อมั้ย พ่อตกอับกลับเมาฝันค้างกลางวันรึไรไม่ทราบ ท่องคาถาอย่าได้แคร์ ใครว่าไงไม่สน ตรูหน้าทนหน้าหนาซะอย่าง เลยนิมิตตัวเองประหนึ่งว่าเป็นพระเอกซูเปอร์สตาร์ เดินผงาดเชิดหน้าชูคอส่ายอาดๆ อวดเบ่งใส่คนอื่น ทำหน้าทำตาเก็กหล่อใส่สาวๆ ไปวันๆ อะโด่เอ๊ย!! คางคกขึ้นวอ
    หนำซ้ำไปกว่านั้น ยังก่อวีรกรรม วีรกรรมน่ารังเกียจ แท็คทีมมิตรสหายตัวเองขับรถย่ำราตรีออกหลีหญิงไปเรื่อย ลำพังไอ้แค่จีบหญิงดะยังพอทำเนา แต่นี่อาร๊ายยยยย...กลับฉกเพศแม่ไปรุมโทรมกระทำย่ำยีปี้ป่นจนชะนีขวัญหนีดี ฝ่อแอนด์กล่าวขานในความบ้ากามเกินมนุษย์ของมัน
    ทำตัวเหมือนเจ้าตูบเดือนสิบสอง "ต.ตาตุ่ม" อารมณ์กามรมณ์สูงทะลุปรอท วันๆ เลยคิดจับจ้องแต่เรื่องหื่นกาม ขับรถหลอกชะนีข้างทาง ก่อนจะสำแดงฤทธิ์มาร กระชากขึ้นรถไปทำกรรมชั่วเช้ายันค่ำ ค่ำยันเช้า
    ไม่อยากจะเชื่อว่าคนอาร๊าย! มันจะอัปรีย์ดีดักได้ขนาดนี้ แต่ก็ต้องเชื่อ เมื่อรับรู้มาเต็มๆ สองรูหูจากเหยื่อสาวหน้าหมวยที่มาเล่าให้กระผมฟังด้วยความขยะแขยงว่าเมื่อ ตอนสมัยเรียน พ่อดาราตกกระป๋องเคยมาเทียวไล้เทียวขื่อตามจับตามจีบอยู่พักใหญ่ หาวิธีหลอกล่อสารพัดสารเพ เอาชื่อเสียงว่าเป็นดารามาอ้างให้ชะนีหน้าหมวยตายใจ
    แรกๆ ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะหนังหน้าไม่ตรงสเป็ค แต่อย่างว่าแหละ น้ำกัดเซาะหินทุกวัน หินมันยังกร่อน แล้วประสาอะไรกับใจอ่อนๆ ของชะนีแรกรุ่นที่เจอคำป้อยอเซาะทุกวัน มันก็เลยอ่อนปวกเปียก หน้ามืดตามัวคว้า "ต.ตาตุ่ม" มาทำผัวจนได้!
    ช่วงน้ำต้มผักหวานจ๋อย หนักนิดเบาหน่อยก็พอทนได้ เมื่อไอ้หื่นกวักมือหยอยๆ เมื่อไหร่ ชะนีหน้าหมวยก็พร้อมจะมาให้สอยถึงที่ อาจจะถี่ไปนิดชนิดวันเว้นวันก็พอทำใจได้ ว่ารักจริงจึงขยันยิงปืน ทำไปได้
    แต่ในเมื่อสันดานความคันมันเกินลิมิตผิดมนุษย์มนา แถมผิดซาดิสม์ผิดธรรมชาติ "ต.ตาตุ่ม" เล่นจ้องจะสาดกระสุนไม่ยั้ง ตั้งท่าจะซ้อมเป้าวันละหลายเวลา จากที่เคยกวักมือให้มาเซฟเฮ้าส์ กลับบุกไปไถกลบชะนีหน้าหมวยถึงบ้านช่องห้องหับ เล่นเอาชะนีหน้าหมวยตั้งรับไม่ทัน ไม่นึกไม่ฝันจะกล้าเหยียบมาเจาะไข่แดงถึงถิ่น
    แม้ตัวเองจะคัน แต่ก็กลัวเครื่องพัง แล้วก็ยังเกรงใจบุพการี หลังๆ ชะนีหน้าหมวยเลยออกลูกอิดออดบอกปัด ก่อนจะตัดไฟเสียแต่ต้นลม ประกาศชัดว่ายิ่งคบกันยิ่งเสี่ยงเครื่องพัง เครื่องหลวม เดี๋ยวจะขายไม่ออก ยังงี้ก็เลิกกันเถอะ เป็นอันว่าจบเห่ไปอีกราย
    ชะนีหมวยเลิกไม่ทันไร กรรมเวรก็โหมกระหน่ำซ้ำซัดไม่ได้หยุด ฉุดชีวิตจากดาราหางแถวให้กลายเป็นดาวอับแสง หลังช่องไกลปืนเที่ยงมีอันต้องปิดฉากความเป็นดาวของ "ต.ตาตุ่ม" ก็จบเห่ไปในบัดดล
    "ต.ตาตุ่ม" กระเสือกกระสนฮึดเฮือกสุดท้าย โซซัดโซเซเดินเตะฝุ่นไปสะดุดกับแม่ชะนีน้อยกลอยใจที่เพิ่งอกหักจาก "ปั๋วตี๋" งานนี้เหมือนกับเมื่อไอ้หื่นมาเจอกับสาวขี้เหงา
    เห็นอย่างนี้แล้วแอบรู้สึกสงสารแม่ชะนีน้อยกลอยใจจังเล้ย หล่อนจะรู้ไหมน้า ว่าฝาละมีที่เลิฟนักเลิฟหนาเนี่ย อดีตเคยเป็นพวกโจรปล้นสวาทมาก่อน แต่ถ้า "ต.ตาตุ่ม" กลับใจเป็นคนดีแล้ว "เทพบุตร" ก็ขออนุโมทนาด้วยละกัน

แต่ถ้ายังล่ะก็! ขอสาปส่งให้ตอรืปิโดฝืดมันซะเลย

วันครู

  มีบทความบทหนึ่งของนักเรียนโรงเรียนราชดำริที่เขียนถึงคุณครูถ้าทุกคนได้ อ่านจะทำให้มีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่สอนต่อไปและมีความภาคภูมิใจที่ยัง มีเด็กเข้าใจในตัวครูเป็นอย่างดี เมื่อคุณครู และเพื่อนอ่านแล้วมีความรู้สึกอย่างไร ขอให้ตอบด้วยนะคะจะได้นำไปบอกนักเรียน ซึ่งบทความนี้เป็นของนางสาวประไพพักตร์ แสวง
             "คุณครูขา" เสียงเรียกสั้นๆแต่แฝงความหมายอันยิ่งใหญ่ ที่เด็กน้อยใช้เรียกบุคคลที่มีสองมือไว้จับชอล์กและสองเท้าไว้ยืนหน้าห้อง หลังจากจบประโยคบุคคลหน้าห้องก็จะหันมาถามความต้องการของเด็กน้อย ข้าพเจ้าก็เป็นีกคนหนึ่งที่เวลามีปัญหากจะใช้ประโยคนี้สำหรับข้าพเจ้ามัน ช่างเป็นประโยคที่วิเศษที่สุด เพราะไม่ว่าข้าพเจ้าจะมีปัญหาอะไรมากมายแค่ไหน เมื่อเอ่ยประโยคนี้ดูเหมือนว่าปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายลงแทบจะในทันที ประเทศไทยนับถือและยกย่องว่าครูคือบุคคลตัวอย่างที่ควรเคารพ ผู้เฒ่าผู้แก่มักสอนบุตรหลานให้ตั้งใจเล่าเรียนโตขึ้นมาจะได้เป็นครูบา อาจารย์ เวลาจะเริ่มเรียนสิ่งใดก็จะต้องมีการไหว้ครูก่อนทุกครั้ง เพื่อระลึกถึงครูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ขอให้คุณของครูช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีต่างๆ เมื่อเอ่ยถึงครูสิ่งที่ข้าพเจ้านึกถึงก็เห็นจะเป็นไม้เรียวขณะเหมาะมือเสียง รองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้น เป็นเสียงที่เตือนให้ข้าพเจ้ารู้ว่าต้องนั่งที่ เตรียมพร้อมหยิบหนังสือวางบนโต๊ะเพื่อเริ่มเรียนวิชาเรียนเมื่อครูเข้ามาใน ห้อง ช่วงเวลาที่ครูสอนสิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้ามักสังเกตุทุกครั้งคือการแต่งตัว ในความคิดของข้าพเจ้าครูเหมือนนางแบบที่ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าตามวัน เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้บรรยากาศในห้องน่าเรียนยิ่งขึ้น แม้บางครั้งเสื้อผ้าที่ครูสวมใส่จะเป็นเพียงเครื่องแบบสีกากีธรรมดา แต่ภายใต้เครื่องแบบธรรมดานี้คือความสง่างามของอาชีพครูที่อาชีพอื่นไม่ สามารถเลียนแบบได้ รอยเปื้อนสีขาวจากฝุ่นชอล์กที่ปรากฎเป็นหลักฐานบนกระโปรงของครูดูอย่างไร ข้าพเจ้าก็ไม่เห็นว่าร่องรอยนั้นสกปรกเลย ตรงกันข้ามข้าพเจ้ากลับเห็นว่ารอยเปื้อนนั่นคือหลักฐานที่ยืนยันถึงความมุ่ง มั่นในการสอนจนลืมแม้กระทั่งกระโปรงที่เปรอะเปื้อน เมื่อใดที่ข้าพเจ้าทำผิด ผิดมากจนเกินจะให้อภัย ครูก็จะมีผู้ช่วยที่ทำให้ข้าพเจ้าขยาดไม่กล้าทำผิดซ้ำสอง นั่นคือ ไม้เรียว ครูผู้ช่วยมักจะฝากรอยบาดแผลให้ข้าพเจ้าจดจำ นับได้ว่าไม้เรียวเป็นผู้มีพระคุณของข้าพเจ้าจริงๆ นั่นคือครูในความทรงจำของข้าพเจ้าแต่ในปัจจุบันข้าพเจ้าแทบจะไม่เห็นครูถือ ไม้เรียวคู่กายเลย มีการออกกฎห้ามใช้ไม่เรียวทำโทษนักเรียน บางโรงเรียนถึงขึ้นเผาไม้เรียวทิ้งข้าพเจ้าเห็นแล้วสุดแสนจะสลดใจ เพราะในความคิดของข้าพเจ้าไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย ไม้เรียวคือไม้สร้างชาติ แต่ระบบการศึกษาไทยปัจจุบันมองการลงโทษเด็กด้วยไม้เรียวเป็นความรุนแรง แปลเจตนาอันบริสุทธิ์ของครูที่ห่วงอาทรศิษย์เป็นเพียงการลงโทษที่หาประโยชน์ ไม่ได้ หากเปรียบไม้เรียวเป็นครูคนที่สองแล้ว ข้าพเจ้าเห็นว่าครูคนที่สองของเด็กไทยปัจจุบันคงหนีไม่พ้นกระดาษบางๆและ ปากกาด้ามละ 5 บาท ไว้จะบันทึกชื่อหักคะแนน หากสังคมไทยยังคงเป็นโรคหวาดกลัวความรุนแรงอันมีประโยชน์ของไม้เรียวอยู่ อย่างทุกวันนี้ เห็นทีครูไทยคงจะต้องเก็บไม้เรียวเข้าตู้ปิดตำนานไม้เรียวสร้างชาติ น่าเสียดายแทนเด็กไทยที่จะ
ไม่ได้เห็นหน้าตาไม้เรียวว่าเป็นอย่างไร น่าเสียดายจริงๆ

บทกลอน ...แด่คุณครู ด้วยดวงใจ

สิบหก มกรา มาบรรจบ                        ขอน้อมนบวันทาครูผู้สอนศิลป์

ประสาสตร์ศิษย์ประนอมสาสน์เป็นอาจิณ  ศิลปินรินความรู้สู่ความดี

กี่ล้านถ้อยกี่ร้อยคำที่คอยสอน            กี่ล้าผ่อนกี่อ่อนล้ามิกล้าหนี

เพื่อชนชีพเพื่อชนชาติเพื่อความดี        พร้อมยอมพลีด้วยศรีศักดิ์รักชีพครู

อภิวาทวันทาครูบาเจ้า                         ทุกค่ำเช้าที่เฝ้าพร่ำย้ำให้รู้

ที่สอนสั่งยั้งให้คิดมิตร-ศัตรู                  ศิษย์ได้อยู่ให้รอดฝั่งปลูกฝังไป

ยกพานแก้วที่แพร้วเพริดเลิศค่าล้ำ     เพื่อเตือนย้ำคำครูผู้ยิ่งใหญ่

วางเทียนธูปส่องสว่างหนทางไกล       วางดอกไม้เคียงคู่ควรบูชา

ทั้งเข็มแขมให้แหลมคมให้สมค่า           ครูดุว่าควรค่าจำ นำห่วงหา

ให้โอนอ่อนผ่อนตนจำนรรจา                ดอกมะเขือเพื่อเตือนว่ากตัญญู

อีกหญ้าแพรกยิ่งเจริญจรุงเรื่อง           ถึงทั้งเมืองเป็นเพียงหญ้าน่าอดสู

ยิ่งทอดยอดเจริญงามยิ่งนาดู              ครูคือผู้ "สร้างคนดี" ที่ยืนยัง

"ถึงจะสูงเทียมฟ้าอย่าดูถูก                  ครูเคยปลูกวิชามาแต่หลัง

ศิษย์ไร้ครูอยู่ได้ไม่จีรัง                      อย่าโอหังคิดหลู่ครูของตน"

จึงนบน้อมพนมไหว้ใจจริงแท้               ระลึกแด่คุณ-คุณครู ทุกแห่งหน

ที่สร้างค่าสร้างคนให้เป็นคน                น้อมใจดลวันทาบูชาครู

ใครหว่า? ‘น.นัวเนีย’ มนุษย์หน้าตัวเมียเกาะผู้หญิงกิน

    เวรก้ำ เวรกรรม! จริงๆ นะคร้าบ จะอะไรซะอีกล่ะ อุตส่าห์หยุดไปแฮปปี้กระดี๊กระด๊ารับปีเสือ นึกว่าพอกลับมาทำงานจะเจอเรื่องดีๆ มีมงคลแก่ชีวิต
    ที่ไหนได้เจอกลิ่นคาวฉาวฉุนแสบจมูกโชยมาแต่หัววันเชียว มันน่าจะให้เสือคาบไปกระเดือกลงท้องนักเชียวคนพรรค์นี้
    ที่จริงจะว่าไปหากเป็นพวกตัวพ่อ ตัวแม่ของวงการฯ ยังพอทน นี่อาร๊าย!! เป็นแค่ลูกกระจ๊อกต๊อกต๋อยธรรมด๊าธรรมดา แต่บังอาจทำตัวแสนละเหี่ยเพลียหัวใจชนิดไม่นอร์มอลเจงๆ
    ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พ่อดีเจ.หน้าเหียก “นาย น. นัวเนีย” แห่งคลื่นดังน่ะเซ่ ไอ้หนุ่มพื้นเพแสนจะบ้านๆ โชคดีอาศัยหน้าตาสะดุดใจเก้งกวางบ่างชะนี แถมมีวาจาฉอเลาะ ชอบใช้ลิ้นแผล่บๆ ออเซาะสาวแก่แม่ม่าย เลยจับพลัดจับผลูได้มาแหกปากแว้ดๆ ผ่านหน้าปัดวิทยุ
    แต่ไอครั้นจะแหกปากไปวันๆ ชื่อเสียงก็คงได้แค่นี้... อย่างมากก็ได้แค่สาวเดฟสะดุ้งแอนด์สกอยซ์เกิร์ลกรี๊ดกร๊าดเท่านั้นแหละ
    “นาย น.” ปากดีดีกรีหื่นร้อนร้องแรงเลยกระสันกระเสือกกระสนอยากจะเด่นดัง ได้ออกมาอวดหน้าตาออกสื่อฯ บ้าง
    ถึงเรื่องงานจะไม่เปรี้ยงปร้างเป็นพลุภูเขาทองเอาซะเลย แต่ดีกรีความเป็นตั่วเฮียแร้งส์เหลือเกิน โดยเฉพาะยามที่แปลงร่างเป็นปลิงควายเกาะหนึบ สลับฉากกับแปลงเป็นแมงดาเกาะหลังตัวเมียเนี่ย เหนือคำบรรยาย
    ถ้าไม่เชื่อไปถามยัยดาราตกอับอย่าง “น้อง ย.” ดู ได้ เพราะพ่อหน้าเหียกเคยแวะเวียนไปปลูกต้นรักกับเจ้าหล่อนอยู่พักนึง ปลูกต้นรักไม่พอ ยังขอเกาะหลังเข้าวงการฯ ซะอีก ก็แทนที่พ่อคู๊ณจะทำตัวเป็นช้างเท้าหน้า เทคแคร์อีนางตามประสาชายอกสามศอก
    ที่ไหนได้พ่อหน้าเหียกกลับดูดเช้า ดูดเย็น ขนาดไปหม่ำข้าวกับ “น้อง ย.” แทนที่อเมริกันแชร์ “นาย น.” ถือคติอิ่มจังตังค์อยู่ครบ ให้อีนางควักตังค์จ่ายซะงั้น แค่ ครั้งสองครั้งยังพอทน ยังเห็นใจว่าอาจจะช็อตเงินขาดมือ แต่นี่อาร๊าย!! เล่นเกาะหนึบ ไม่เพียงเกาะกินข้าวกินปลา แต่ยังเกาะขอเงินใช้ปรนเปรอบำเรอตัวเองซะอีก
    แล้วให้ตายเถอะโรบิ้น! ลำพังแค่ “น้อง ย.” ถูก “นาย น.” หลอก ดูดจนหมดตูดยังพอทน พอจับได้ว่าพ่อหน้าเหียกริอาจจับปลาสองมืออีกเนี่ย มันหยามศักดิ์ศรีชะนีเจ้าป่าซะได้ เพราะนอกจากจะมาหลอกเจาะไข่แดงแล้วแด๊กฟรีๆ กับ “น้อง ย.” แล้ว พ่อคู๊ณยังคั่วกับพี่สาวของนักร้องยั่วสวาทวงดังซะด้วย
    งานนี้เลยเกิดศึกเกาเหลาของชะนีสองตัวแย่งตอเน่าๆ หนึ่งตอ ผลปรากฏว่า “น้อง ย.” ชนะ ขาดลอย อะแฮ่ม! แล้วที่ว่าวินๆ ไม่ใช่เพราะความสวยไรหรอก แต่เพราะน้ำเงินที่มีเป็นถุงเป็นถัง เลยทำให้พ่อหน้าเหียกสะบัดตูดเขี่ยเมียเก่าลงข้างๆ คูคลอง หลังจากที่สูบเลือดสูบเนื้อมานานแสนนาน
    แต่หนทางสว่างมีจริง วันเวลาผ่านไป “น้อง ย.” เจอปลิงยักษ์ขนาดนี้ ขืนคบต่อไปรับรองเลือดหมดตัวแน่นอน ว่าแล้วเลยเกิดหูตาสว่างฉับพลัน หาหนทางถีบพ่อหน้าเหียกลงข้างคู คลองมันซะเลย ขืนไปคบต่อนอกจากต้องเสียเงิน เสียทองและเสียตัวแล้ว อาจจะเสียชื่อและเสียหน้าด้วยก็ได้ อูยยยย...นึกแล้วขนแขนสแตนด์อัพแทน
    “น้อง ย.” รอดจากขุมปลิงหน้าเหียกเกาะกินไปได้ เวรกรรมเลยไปตกอยู่กับแม่ชะนีหน้าเงือก “ยัย ต.” เข้าอย่างจัง เพราะตอนนี้เห็นว่ากำลังเข้ารู อุ๊ย! เข้าด้ายเข้าเข็มอย่างออกรส ออกชาติซะด้วย
    พ่อดีเจ. หน้าเหียกรอดตายได้เหยื่อรายใหม่ก็ยังขยันทำตัวเป็นปลิงควายแมงดาทะเลยักษ์ ดูดเช้าดูดค่ำด้วยความสม่ำเสมอ ขนาดแค่ค่าข้าวไม่กี่บาทยังให้ชะนีเลี้ยงเล๊ย...
    นอกจากจะเลี้ยงดูปูเสื่อเหมือนลูกที่คลอดออกมาจากมดลูกตัวเองแล้ว “ยัย ต.” ยังถูกสนตะพายกลายเป็นสารถีขับรถรับ-ส่งซะด้วย
    ดูท่าทางจะหลงจนโงหัวไม่ขึ้น ถูกจิกใช้ขนาดนี้ ยังไม่รู้สึกว่าตัวกำลังโดนดูดจ้วบๆๆ ก็แหงล่ะ โดนผัวเก่าทำร้ายมาซะขนาดนั้น เจอหนุ่มปากดีวจีอ่อนหวานเข้าไปใจก็ละลาย ถูกดูดขนาดไหนก็ด้านชาไม่รู้สึกรู้สา 
    ก็อย่างว่ากรรมใดใครก่อก็ก้มหน้ารับกรรมกันไปแล้วกัน “เทพบุตร” ทำได้ก็แค่สะกิดเตือนอีหนูที่กำลังหน้ามืดตามัวกับความรักจอมปลอมยอมถูกปลิง ยักษ์แมงดาปีกทองเกาะกินเลือดกินเนื้อ...ยังไงก็ออกจากกะลามารับฟังความจริง จากเพื่อนฝูงที่พร่ำเตือนบ้างนะ
    ส่วนดีเจ.ปลิงยักษ์หน้าเหียก ว่างๆ หาผ้าถุงมาใส่บ้างก็ได้นะ แล้วก็เชิญก่อกรรมทำเข็นกับเพศแม่ต่อไปเถอะ วันไหนกรรมมันตามทันวันนั้นจะรู้สึกตัวว่า เวลาโดนปลิงควายกระทืบจนดินมันจะจุกแค่ไหน

อะไรเอ่ย อมทั้งเงิน อมทั้งสาก? / ซ้อ 7

       กลับมาตามสัญญา หลังจากที่เบี้ยวไป เยส โน จนผัวฝรั่งโอ้วว…เค เสร็จสมอารมณ์หมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาขมิบรูมาสู่รู้เรื่องชาวบ้านเมี๊ยนเดิม ... คริคริ
      
       แต่เซ็งจนอยากจะเอานมตบหน้าไอ้พวก “ควายแดง” เจงๆ คนเค้าเพิ่งผ่านเทศกาลหลั่นล้าเริงร่าได้ไม่กี่วัน ทะลึ่งสลอนหน้าออกมาเห่ามาหอน สร้างความชิบหายให้บ้านเมืองอีกแล้วครับทั่น! เลวบัดซบแบบนี้ ไม่ช้าไม่นานนรกคงจะกินกบาลเข้าซักวัน
      
       ก็อย่างว่าแหละ ยุคนี้เงินมันคือพระเจ้า ไม่งั้นคงเปลี่ยนคนให้เป็นควายไม่ได้หรอกว่ะ
      
       ดูๆ ไปมันช่างไม่ต่างอะไรกับ “คุณป้าเสียงแหบ” ลูกสาว “ท่านผู้ล่วงลับ” ผู้ที่ซ้อมั่นใจว่าต่อมยางอายของหล่อนคงจะตายด้านไปแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่หากินกับผู้มีพระคุณแบบน่าอนาถแบบนี้
      
       เหตุเกิดในงานศพของผู้ล่วงลับ สองพี่น้องและญาติๆ เปิดศึกกันยกใหญ่ ไม่ได้แย่งมรดกอะไรเหมือนที่เมาท์กัน หากแต่แย่งซองกันซะมากกว่า งานนี้คุณป้าเสียงแหบกับพี่สาวอึ่งอ่างรวมทั้ง “คุณแม่จอมบงการ” พากันเปิดฉากดราม่า ด้วยการกอดคอร้องไห้ฟูมฟายขี้มูกขี้ตาไหล เรียกว่าแอ็กติงเวอร์ทุกช็อต
      
       โอเคไอ้เรื่องรักและอาลัยพ่อบังเกิดเกล้า มันก็คงจะเศร้าใจเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไอ้อาการร้องไห้จะเป็นจะตายออกแอ็กชันยังกะละครน้ำเน่า เรียกน้ำตาท่วมจอ ทำเอาญาติพี่น้องถึงกับงงเต๊กว่าอะไรมันจะเวอร์ขนาดนั้น ป่วยก็ไม่ค่อยมาดูแล แล้วยังจะมาอะไรกันนักหนา
      
       เพิ่งจะมาถึงบางอ้อเอาเมื่อตอนที่คุณป้าเสียงแหบแอนด์เดอะแก๊งพากัน โน้มตัวรับซอง ซองแล้วซองเล่าๆ ยิ่งร้องก็ยิ่งรับแบบนี้ สามแม่ลูกก็เลยประสานเสียงฮือๆ กันยกใหญ่ เป็นที่น่าสงสารของคนที่มาร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง แต่เป็นที่อุบาทว์สำหรับญาติพี่น้องชิหาย
      
       ทางฟาก “น้องปากบวม” นี่เอาแต่ร้องไห้เหมือนกัน แต่เป็นการร้องแบบหลบมุม ไม่ได้ออกไปแหกปากเหมือนรายโน้น เพราะถูกกันให้ไปนั่งอยู่ในตำแหน่งหลบใน ฮวงจุ้ยไม่ดีไม่ค่อยได้มีบทบาทในงานของผู้ล่วงลับสักเท่าไหร่ นอกจากว่าเพื่อนฝูงที่รักใคร่ของตัวเองมา ถึงได้โผล่หัวออกน้ำตาคลออยู่ข้างหน้ากับเค้าบ้าง งานนี้ก็เลยได้แต่เก็บสแปร์เล็กๆ น้อยๆ
      
       น้องปากบวมอุตส่าห์ดูแลพ่อมากับมือ แต่มาเจอกระสือชุบมือเปิบแบบนี้ เป็นใครก็ย่อมจะแค้นเป็นธรรมดา แต่ไอ้ครั้นจะออกหน้าเองก็น่าเกลียด งานนี้ญาติผู้ใหญ่ทนไม่ไหวก็เลยลุยแทน จัดการเรียกสามแม่ลูกมาตักเตือนว่าทำไมจะต้องเอาซองไปเก็บไว้ด้วย คุณป้าเสียงแหบเองก็มีเงินตั้งเยอะตั้งแยะ ไหนจะมีบ้านที่เชียงใหม่ ไหนจะมีบ้านที่เขาใหญ่ที่ “ซินาอ้า” ซื้อไว้ให้ แล้วจะเอาซองไปเก็บทำไมอีก แต่จนแล้วจนรอดสามแม่ลูกก็ทำเฉย ไม่รู้ไม่ชี้ ตั้งหน้าตั้งตาร้องไห้ต่อไป
      
       เล่นเอาญาติพี่น้องแทบจะเอาตีนก่ายหน้าผาก คนอาไรไร้ยางอายจริงๆ ตอนเป็นก็ไม่มาดูแล พอตายดันจะมาเอาเงินผีอีก โอ้โห...ซู้ดยอดของความหน้ามึนซะจริงๆ สงสัยว่าเชื้อชั่วมันคงจะติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยแฮะ
      
       พูดจนปากเปียกปากแฉะคุณป้าเสียงแหบกับคุณพี่อึ่งอ่างก็ยังไม่สะทก สะท้าน หนักเข้าๆ ญาติผู้ใหญ่ก็เลยหน้าม้านม้วนหางอายไปเอง ไม่กล้าปริปากเรื่องซองกับคุณป้าเสียงแหบอีก
      
       ไหนๆ ก็พูดถึงซินาอ้าแล้ว ก็ต้องเอาซะหน่อย เพราะนอกจากจะขยันโฟนอินเรื่องชั่วๆ แล้ว ซินาอ้าก็ยังโฟนอินเข้ามาหาคุณป้าเสียงแหบขณะมาร่วมงานผู้ล่วงลับด้วย สร้างความฮือฮาให้กับบรรดาญาติพี่น้องเป็นอย่างมาก เพราะเคยได้ยินแต่ข่าวเมาท์ไม่คิดว่า อีป้า แก่ อ้วน ตัน จะสามารถเอาไขมันอุดตันไปฟัดตับๆ กับซินาอ้าจริงๆ
      
       เรื่องนี้เป็นที่เมาท์กันสนั่นวัด เหตุเกิดขณะที่คุณป้าเสียงแหบกำลังเป่าปี่เป็นอาจิณ จู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังตู๊ดๆ คุณแม่จอมบงการก็เลยฮะโหลแทน ก่อนจะส่งเสียงหวานๆ มาหาคุณป้าเสียงแหบ “ลูกจ๋าท่านโทร.มา”
      
       เท่านั้นแหละญาติโกโหติกาทั้งหลายก็เลยหูผึ่ง เงี่ยหูฟังเป็นแถว ด้านคุณป้าเสียงแหบพอเอาโทรศัพท์แนบปากได้ก็เปลี่ยนเสียงเป็นคีย์ตอแหลทันที
      
       “ฮะโหลลลล.....หนูคิดถึงท่านตลอดเลยค่ะ ท่านจะให้ไปเดือนไหนคะท่านขา…” จากนั้นก็หัวเราะคิกคักยังกะเด็ก 16 แต่พอวางหูเท่านั้นแหละ คุณป้าเสียงแหบก็หุบปากที่เคยฉีกไปจนถึงขากรรไกรลงทันที พร้อมกับทำเสียงหงุดหงิด “ตูล่ะเบื่อ!!” เล่นเอาฮากันทั้งวัด แต่แทนที่จะอายที่ขายนากิน คุณป้าเสียงแหบกลับหันไปหาญาติคนหนึ่ง พร้อมกับคอนเฟิร์มว่า มันน่าเบื่อจริงๆ โทร.มาอยู่นั่นแหละ
      
       เปิดช่องให้ซะขนาดนี้ ญาติสนิทคนหนึ่งก็เลยใส่เกือกเต็มที่ ถามจริงๆ เหอะคนที่โทร.มาใช่ซินาอ้าหรือเปล่า เท่านั้นแหละศาลาเงียบกริบไปสองวินาที ทันใดนั้นคุณป้าเสียงแหบก็ยืดอกตู้มว่า ใช่แล้ว! ทำเอาญาติจอมเสือกคนดังกล่าวถึงกับหูตั้ง รำพึงรำพันด้วยความอิจฉา ไม่ทราบว่าเธอไปทำอีท่าไหน ถึงได้โชคดีขนาดนั้น ขนาดอายุปูนนี้แล้วก็ยังมีคนมาติดใจ
      
       เล่นเอาคุณป้าเสียงแหบถึงกับยิ้มปากฉีก คุยโวว่าตัวเองเป็นถึงระดับท็อปไฟว์เลยนะว้อย พร้อมกับทิ้งปรัชญาไว้สวยหรู “ไอ้ของอย่างนี้อายุไม่เกี่ยว อยู่ที่เทคนิคและลีลา เหมือนหยดน้ำในทะเลทราย”
      
       โอ้วว...คมสุดๆ น่าจะเก็บเอาไปกล่าวไว้อาลัย วันตายซินาอ้าวันว่ะ!!
      
       นอกจากจะชอบขายตัวให้กับคนขายชาติแล้ว อีป้าเสียงแหบยังเป็นโรคตอแหลลงตับ ก่อนหน้านี้เคยประกาศบอกให้ใครต่อใครรู้ว่าตัวเองมีบุญจิ๊ ที่เจอ “คุณนายกระบังลม” เมียหลวงใจกว้างยังกะแม่น้ำ เพราะนอกจากจะยอมให้มีผัวคนเดียวกันแล้ว ยังควักเงินซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมให้อีกต่างหาก
      
       แต่ชิชะ งานนี้ยืนยันพันเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นเรื่อโกหกบัดซบครับทั่น เพราะนอกจากหล่อนจะไม่เคยเจอตัวเป็นๆ แล้ว เจ๊เมียหลวงยังเกลียดผู้หญิงทุกคนที่เข้ามายุ่งกับผัวแกอีกต่างหาก หวงผัวถึงขนาดโทรไปด่าถึงบ้าน นี่ถ้ากระชาก JIM บรรดาเมียน้อยออกมาตบล้างน้ำได้แกคงทำไปแล้ว
      
       ล่าสุดขนาด “อีหนูโรบอต” ไปส่งส่วยซินาอ้า คุณนายกระบังลมแกยังเชิดใส่ แถมยังรีบสั่งให้คนใช้เอาแอลกอฮอลล์มาให้ล้างมือ เพราะกลัวว่าตัวเสนียดมันจะติดตัวกลับไปเสียดแทงใจ
      
       ยังไงก็ระวังให้ดีเถอะ กร่างกับอีหนูโรบอตมากๆ เกิดอีหนูเหม็นหน้าลุกขึ้นมาประสานหอยสอยผัวไปถาวร เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ถึงตอนนั้นจะหาปี๊บคุมหัวก็คงไม่ได้เพราะมันติดโหนกหน้ากับกะบังลม 555555555555
      
       เรื่องความหน้าทนอย่าได้คิดจะไปสู้กับอีป้าเสียงแหบเชียว เพราะรายนี้เค้าบ่มเพาะมาตั้งแต่สมัยสาวๆ เรียกว่าหากินทางนี้มาตั้งแต่ “ตีนเท่าฝาหอย” จนตอนนี้ “หอยเท่าฝ่าตีน” แล้ว หล่อนก็ยังตั้งหน้าตั้งตาทำมาหาแดกกับนาดำๆ ต่อไป
      
       สมัยก่อนคุณแม่จอมบงการของอีป้าเสียงแหบทำอาชีพซื้อของที่อังกฤษมา ขาย แต่ด้วยความที่ติดการพนัน ฉะนั้นจึงมักเอาลูกสาวไปเร่ขายให้กับพวกแขกซาอุฯ ลูกคนโตโดนแม่ขายจนต้องหนีไปประเทศอื่น ตรงกันข้ามกับพี่อึ่งอ่างที่ยิ่งขายก็ยิ่งชอบ ส่วนคุณป้าเสียงแหบแรกๆ ก็โน้โนไม่เอ๊าไม่เอา ถึงขั้นโกนหัวประชดแม่ไม่ยอมขายตัว
      
       แต่รักษารูได้ไม่นาน พอกลับมาเมืองไทยคุณป้าเสียงแหบก็ดีแตก ไปนอนขมิบรูมิบๆ ให้หนุ่มๆ น้อยใหญ่ทะลวงกันฟรีๆ จนลือลั่นไปทั่ว ทำเอาแม่จอมบงการยัวะสุดขีดบินมาตบลูกสาวถึงเมืองไทย ไม่ใช่โกรธที่ลูกสาวไม่รักดี แต่โมโหที่แม่มให้ผู้ชายมาชิมฟรี จะด่าก็คงจะไม่ฟัง งานนี้คุณแม่จอมบงการก็เลยประกาศลั่น ต่อไปนี้ถ้านอนกับผู้ชายแล้วไม่ได้เงิน ขอให้รูเมิงตัน...อิอิ
      
       ปรากฏว่าได้ผล นับแต่นั้นเป็นต้นมา คุณป้าเสียงแหบก็เลยแบขาแล้วก็แบมือ ที่โด่งดังเป็นเรื่องทอล์กออฟเดอะทาวน์ก็เมื่อคราวที่ฟาดกับ “พี่หน้าปรุ” ผัวเก่าอีโย่ง เพราะครั้งนั้นมีภาพหลุดเอาปากล่างคาบหมีของคุณป้าเสียงแหบออกมาประจาน สร้างความตกตะลึงไปทั่ววงการหมี หลินปิงก็หลินปิงเหอะวะ เจอหมีฟูของอีป้ามีหวังมุดกลับไปรูแม่แทบไม่ทัน
      
       เหตุการณ์ครั้งนั้นทำเอาคุณป้าเสียงแหบอับอายจนต้องหอบนมหอบหอยหนีไปอยู่ทางใต้ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก “คุณยายแฟนคลับ” คนหนึ่ง
      
       แต่หลังจากไปอยู่ได้พักใหญ่ จากแฟนคลับเลยเขยิบมานับถือกันเหมือนญาติ โดยเฉพาะคุณยายแฟนคลับที่ทั้งรักทั้งไว้ใจอีป้าเสียงแหบเป็นอย่างมาก และด้วยความที่อยู่ด้วยกันนาน ทำให้ยายแฟนคลับสนิทกับคุณพี่อึ่งอ่างของอีป้าเสียงแหบไปด้วย งานนี้คุณพี่อึ่งอ่างก็เลยหว่านล้อมขอเงินไปทำทุน โดยบอกว่าจะเอาเงินไปเปิดร้านอาหาร เพราะงานในวงการไม่มั่นคง ถ้าได้ดิบได้ดีเมื่อไหร่จะเลี้ยงดูปูเสื่อยายเป็นอย่างดี ด้านคนแก่คนเฒ่าพอเห็นจะมีคนพอฝากผีฝากไข้ได้ ก็เลยมอบโฉนดบ้านที่กรุงเทพเซ็นให้ไปทำนิติกรรม
      
       แต่ก็เจ๊งไม่เป็นท่า จนต้องปิดกิจการ คุณพี่อึ่งอ่างไม่มีเงินส่งดอกหนี้สิน สุดท้ายก็เลยปล่อยให้เจ้าหนี้ยึดบ้านไปหน้าตาเฉย ความมาแตกวันที่คุณยายแฟนคลับมากรุงเทพ กะจะเข้าไปบ้านของตัวเองซักหน่อย ดันเจอคนอื่นอยู่เต็มบ้าน กว่าจะรู้ความจริงคุณยายแฟนคลับก็หมดเงินไปหลายล้าน เล่นเอายายแฟนคลับถึงช็อกล้มป่วยและตรอมใจตายในที่สุด
      
       ดีนะที่คุณยายแกตายไปก่อน ไม่งั้นงานนี้ “อีตุ๊ดทนทาน” มีเพื่อนติดคุกแน่!

สเปนให้โจ๋วัย 16 แปลงเพศคนแรกของประเทศ

ศาลสเปนอนุญาตให้ศัลยแพทย์ผ่าตัดแปลงเพศให้วัยรุ่นชายไม่ระบุชื่อ วัย 16 ปีในเมืองบาร์เซโลนา โดยการผ่าตัดใช้เวลาทั้งสิ้น 2 ชั่วโมง 30 นาที แต่ต้องดูแลสภาพจิตใจไปอีก 2 ปี..

สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวันที่ 12 ม.ค. ว่า นพ.อีวาน มาเนโน ศัลยแพทย์ชาวสเปน แถลงถึงผลการผ่าตัดแปลงเพศคนไข้ซึ่งเป็นผู้ชาย แต่ไม่ระบุชื่อวัย 16 ปี ให้กลายเป็นเพศหญิงสมบูรณ์แบบเป็นวัยรุ่นคนแรกของประเทศสเปน ซึ่งมีเพียงไม่กี่ประเทศที่ยินยอมให้เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเข้ารับการ ผ่าตัดในเมืองบาร์เซโลนา เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน โดยใช้เวลาทั้งส้ินราว 2 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งผู้ป่วยอาการดีขึ้น

กระนั้น คุณหมออีวานก็ยังต้องผ่าตัดเปลี่ยนฮอร์โมนให้กับคนไข้รวมถึงการดูแลสภาพจิต ใจอีก 2 ปี หลังตัดสินใจยอมเป็นเจ้าของคนไข้ซึ่งสารภาพว่ารู้สึกเป็นผู้หญิงตั้งแต่อายุ 4-5ขวบ อีกทั้งครอบครัวของคนไข้ก็เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมถึงได้รับอนุญาตจากคำสั่งศาลตามกฎหมายของรัฐ

ทั้งนี้ รัฐบาลในแต่ละพื้นที่ปกครองของแคว้นในสเปน ต่างมีระบบประกันสุขภาพกันเอง ซึ่งนอกจากเมืองใหญ่บาร์เซโลนา ยังมีแคว้นคาตาโลเนีย ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ที่รวมกรุงมาดริด และแคว้นอันดาลูเซีย ทางใต้ของประเทศด้วย ที่ครอบคลุมค่าผ่าตัดแปลงเพศ ยกเว้นกรณีนี้เนื่องจากคนไข้เป็นเยาวชนซึ่งทาง รพ.รัฐไม่ยอมรับ กระนั้นก็ยังเหมือนอีกหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลียกับเนเธอร์แลนด์ รวมถึงเยอรมนี ที่ตั้งกฎหมายพิเศษต่อเยาวชน ยกเว้นประเทศไทย ที่แม้เปิดเผยเรืื่องกะเทยหรือสตรีข้ามเพศ แต่กฎหมายก็บังคับให้อายุเกิน 18 ปี รวมถึงต้องเข้ารับตรวจสอบสภาพจิตใจก่อนเข้ารับการผ่าตัด หลังจากนั้นก็ยังต้องคอยติดตามผลทางเชิงจิตวิทยาเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง

ส่วน ที่สหรัฐฯ ก็อนุญาตผู้ที่มีอายุเกิน 16 ปี แม้สมาคมผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกะเทยโลก ในเมืองมินเนียโปลิส รัฐมินเนโซตา ของสหรัฐฯ มีคู่มือแนะนำช่วงวัยที่เหมาะสมสำหรับการเปลี่ยนเพศซึ่งมีหลายประเทศในยุโรป ดำเนินตาม นั่นคืออายุ 18 ปี เพราะเป็นวัยที่ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่ และเริ่มมีประสบการณ์ชีวิตจริงในเรื่องเพศกับเพศตรงข้ามอย่างน้อย 2 ปี.

บอยแบนด์หน้าจิ้งจก อัดถั่วดำ กะเทย หูรูดฉีก

This summary is not available. Please click here to view the post.

แฉดาราชายติดเอดส์!"ช่วงวิทย์"สาวสิ้นไส้

This summary is not available. Please click here to view the post.

เตี้ยตอผุดผีสัมภเวสีเรียกพี่ ฉกผัวนางร้ายชักเย่อสบายตัว

This summary is not available. Please click here to view the post.

สิงห์มอเตอร์ไซด์

ดิฉันอายุ42หน้าตาธรรมดาไม่ถึงกับสวยแต่ก็ไม่ขี้เหร่
สิ่งที่พอจะเชิดหน้าชูตาของดิฉันได้ก็คือผิวที่ขาวและรูปร่างอันอวบอัด
เต้านมใหญ่เต่งตึง เอวคอด บั้นท้ายใหญ่งอนผาย
ชนิดที่หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แถวบ้านมองตาเป็นมันเชียวล่ะ
และที่สำคัญของสงวนในร่มผ้าของดิฉันโหนกนูนเป็นหลังเต่าเลยค่ะ
บ้านดิฉันอยู่ต่างจังหวัด แต่ส่งลูกมาเรียนปริญญาตรีที่กรุงเทพฯ
โดยปกติเวลามาเยี่ยมลูก มักจะต้องยกครอบครัวกันมาเลย
ก็ดิฉันกับสามีต้องไปด้วยกันเสมอ ดิฉันเองไม่สันทัดเรื่องของกรุงเทพฯ
มากี่ครั้งๆ ก็ไปหาหอพักลูกไม่ถูกสักที
ประมาณเดือนธันวาคม เป็นครั้งแรกที่ดิฉันต้องมาเยี่ยมลูกคนเดียวตามลำพัง
สามีติดธุระจำเป็นมาก และก็เป็นการเดินทางครั้งเดียวที่สร้างตำนานแห่ง
การร่วมรัก ที่สุดจะตื่นเต้นประทับใจ ไม่เคยลืมเลือน
และเป็นเรื่องเดียวที่ใช้ประสบการณ์นี้
จินตนาการสำหรับการร่วมรักกับสามีที่สร้างความเสียวไม่รู้จบ
แม้เวลาผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม
หลังจากไปเยี่ยมลูกแล้ว ดิฉันนั่งรถทัวร์ กลับบ้าน
รถทัวร์ถึงอำเภอที่ฉันอยู่เวลา ตี 3 กว่าๆ
รถทัวร์จะถึงเวลานี้เกือบทุกบริษัท เพราะออกจากกรุงเทพฯ เวลาไล่เลี่ยกัน
ดิฉันนอนบนรถทัวร์เต็มอิ่มไปตลอดทาง รู้สึกตัวตื่นก็เมื่อกระเป๋ารถ
ร้องบอกชื่ออำเภอ นั่นแหละถึงได้งัวเงีย เตรียมตัวลงรถ
ดิฉันนัดหมายกับสามีให้มารอรับที่ท่ารถตั้งแต่ตอนออกเดินทางไปกรุงเทพฯแล้ว
เพราะบ้านของดิฉันอยู่***งจากตัวอำเภอออกไปอีกหลายกิโลเมตร
จะได้ไม่ต้องทนหนาวเช่ามอร์เตอร์ไซด์เขาไป เมื่อดิฉันลงรถทัวร์
มีมอร์ไซด์หลายคนเจี้ยวจ้าวไปหมด ขอให้ใช้บริการรถมอร์ไซด์เขา ดิฉันไม่สนใจ
มองหารถสามีที่นัดกันไว้ ไม่เจอ ไม่เห็นทั้งรถ ทั้งคน หรือสามีลืม
หรือยังมาไม่ถึง คิดไปเรื่อยเปื่อย
นานพอสมควรไม่มีวี่แววว่าจะเห็นสามีมารับ
ประกอบกับมีหนุ่มมอร์ไซด์รับจ้างคนหนึ่งเดินตามตื้อฉันขอให้ใช้บริการเขา
ดิฉันคิดว่าไปมอร์ไซด์รับจ้างก็ดี ทนหนาวเอาหน่อย
ดีกว่าจะมานั่งรออยู่อย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง หลังจากที่ตกลงราคากันเสร็จ
ดิฉันก็ก้าวขึ้นนั่งคร่อมด้านหลังคนขับทันที ดิฉันมีกระเป๋าใบเล็กๆ ใบเดียว
จึงไม่เป็นอุปสรรคในการขับขี่ รถมอร์ไซด์วิ่งออกมานอกตัวเมืองนิดหน่อย
ก็รู้ถึงความเปลี่ยวของถนน เป็นธรรมชาติถนนตามชนบท
แม้จะพัฒนาเป็นถนนราดยางแล้ว ดึกๆ อย่างนี้ก็ไม่มีผู้คนสัญจรไปมา
มีเพียงรถมอร์ไซด์ที่ฉันเป็นผู้โดยสาร วิ่งอยู่คันเดียว ฉันรู้สึกหนาวมาก
หนาวจากอากาศหนาว หนาวจากลมที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของรถมอร์ไซด์
ก็ยิ่งเพิ่มความหนาวเข้าไปอีก
ฉันรู้สึกว่ามีสิ่งปกติเคลื่อนไหวอยู่แถวโคนขาด้านซ้าย นั่งนิ่งดูอาการ
แน่เลยมือซ้ายของคนขับมอร์ไซด์นั่นเอง เขาขับรถมอร์ไซด์มือเดียว
มือซ้ายกำลังซอกซอนระหว่างเบาะรถมอร์ไซด์ กับโคนขาของดิฉัน กำลังกะดึบๆ
แทรกเข้ามา คลึงเคล้าหน้าขาฉันอยู่ ดิฉันขยับขาหนีบมือนั้นไว้
เพื่อเตือนให้เจ้าของมือรู้ว่า อย่านะหยุดอยู่แค่นั้น ฉันรู้ตัวแล้ว
อย่าพยายามอีก ไม่ได้ผล มือนั้นไม่ยอมหยุด
กลับพยายามคลึงเน้นให้นิ่มนวลเพื่อหวังสร้างอารมณ์เสียว
ดิฉันต้องเอื้อมมือไปจับข้อมือเขาไว้ พร้อมร้องปรามไปว่า
"พอๆ หยุดคุณกำลังทำอะไรนะ"
"ขอไออุ่นหน่อยครับ ผมหนาว" หนุ่มมอร์ไซด์อ้อน
ยอมรับว่าวันนี้อากาศหนาวจริงๆ ได้ยินเสียงเขาสั่นเครือ คางกระทบกันดังกึกๆ
เขาคงไม่ได้เสแสร้ง ฉันเองยังหนาวจนตัวสั่นเลย
"หนาวก็เอามือซุกเข้าไปในอกเสื้อก็ได้ ทนเอาหน่อยเดี๋ยวก็ถึงแล้ว"
ดิฉันปราม
"มันไม่อุ่นเหมือนตรงนี้" เขาพูดพร้อมกับเอามือซ้ายซุกเข้ามาใหม่
ดิฉันขี้เกียจรำคาญ เลยปล่อยให้มอร์ไซด์ เอามือซุกต่อไป
อีกอย่างหนึ่งไม่เสียหายอะไรกางเกงยังมีขวางอีกชั้นหนึ่ง
หนุ่มมอร์ไซด์คงทำอะไรไม่ได้
หลังจากที่ฉันยอมให้มือเจ้ามอร์ไซด์ซุกอยู่ที่โคนขาได้ไม่นาน
รู้สึกว่ามือเขาไม่ได้ซุกนิ่งๆ เพื่อรอรับไออุ่นอย่างที่เขาอ้าง
แต่กลับบีบนวด คลึงขาฉันเล่น
และขยับใกล้หว่างขาและโคกนูนของดิฉันเข้าไปทุกที รถมอร์ไซด์วิ่งช้าลง ช้าลง
ฉันเริ่มมีอารมณ์ตอบสนอง
ลืมตัวกางขาอ้าออกรับมือหนุ่มมอร์ไซด์โดยไม่รู้สึกตัว
หนุ่มมอร์ไซด์ขยับมือเรื่อยมาจนถึงเป้ากางเกง เขาขยำโคกของดิฉัน
พยายามซอกซอนนิ้วให้สัมผัสร่องฉัน ผ่านเป้ากางเกง ฉันเผลอลืมครางซี้ด ๆ
ออกมา และเบียดตัวให้เต้านมอวบไปสัมผัสแนบแน่นกับหลังเขาโดยไม่รู้ตัว
มันเสียวมาก รู้ว่าน้ำเงี่ยนของฉันออกมามากแล้ว
ก็ไม่ได้ให้สามี***มาอาทิตย์กว่าๆ มาเจอมือใหม่ ลีลาใหม่เข้า
เหมือนน้ำมันอ๊อกเทน กับไฟ เจอปับก็ลุกพรึ้บ ไม่รอช้าเลย
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าซิบกางเกงถูกรูดออกเมื่อไหร่
รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ไอ้หนุ่มมอร์ไซด์ ครางว่า
"โอว ของ พี่ใหญ่จังเลย เต็มมือดี" ไม่รอช้า เจ้ามอร์ไซด์ จอดรถข้างทาง
ลากรถลงไปหลบที่พุ่มไม้ ฉันเดินตามเขาไปเหมือนคนถูกสะกดจิต
เจ้ามอร์ไซด์รีบกระวีกระวาด มาโอบกอดร่างอวบของดิฉัน และกระซิบที่ข้างหูว่า

"ขอ***หน่อยทูนหัว ทนไม่ไหวแล้ว อูยยคนอะไรหุ่นน่า***จริง
***ของผมโด่จะหักแล้ว จับดูซิ" ฉันไม่ตอบ ไม่มีวิญญานอยู่กับตัวละมั้ง
แต่ของเขาใหญ่จริงอย่างที่เขาพูด เพราะแค่กอดดิฉันดันร่างดิฉันทั้งกางเกง
ยังรู้สึกได้ว่าท่อน***เขาใหญ่ เขารีบจัดแจงรูดกางเกงของฉันลงถึงแค่เข่า
เพราะฉันไม่ยอมให้เอาลงมากกว่านี้ เขากุลีกุจอ มือไม้สั่นไปหมด
ไม่รู้ว่าสั่นเพราะอากาศหนาว หรือสั่นเพราะเห็นโคกที่โหนกนูนของดิฉัน
เสียงเขาครางซีดๆ ตลอดเวลา ฉันเองก็ไม่น้อยไปกว่าเขา
น้ำเงี่ยนของดิฉันซึ่งปกติมากอยู่แล้ว คราวนี้มากกว่าที่เคยมีเป็นทวีคูณ
เขาเอาปากประกบปากดิฉัน ดูดปากกันอย่างเมามัน ดิฉันครางเสียงอยู่ในลำคอ
กอดรัดตอบเขา ลิ้นพันกันเป็นพัลวัน ไม่ต้องแปรงฟันกันละ นึกถึงสามี
นึกถึงที่เคยร่วมกันจินตนาการกับสามี ว่าอยากให้***ใหญ่ๆ แข็งๆ
มาช่วย***ให้ โอ ที่รักจ๋าจินตนาการกำลังเป็นจริงแล้ว
เขาดัน***ทั้งๆที่ยังไม่ได้ถอดกางเกง (ก็ยังไม่มีเวลาถอด)
มาชนโคกของดิฉัน เขาเอามือจับเนินของดิฉันขยำขยี้ทั้งกางเกงใน
"โอว ทูนหัว โคกนูนของเธอใหญ่จริงๆ ผีสางเทวดา มาเป็นพยานด้วยเถิด
ถ้าเป็นเมียฉัน ฉันจะ***ทุกวันไม่ให้รูแห้งเลย" เขาบ่นพึมพำพอได้ยิน
ฉันไม่ตอบ จะตอบได้ไง แค่บิดตัว และคราง
ตามสัมผัสของเจ้าหนุ่มมอร์ไซด์ก็สุดเสียวแล้ว
เขารูดตัวลงไปที่โคกของดิฉัน จมูกสูดดมร่องของดิฉันผ่านกางเกงใน
ดังฟืดใหญ่ เขาทำอย่างนี้หลายๆครั้ง
"หอมเหลือเกิน ของเธอหอมจริงๆ เป็นบุญของผมจริงๆ ขอกางเกงในเป็นที่ระลึกนะ"
เขาพูดพลางจมูกคลอเคลียที่โหนกดิฉันตลอดเวลา
ฉันคิดว่าผู้ชายเป็นอย่างนี้ทุกคนรึเปล่า สามีฉันก็ชอบที่จะทำอย่างนี้
ชอบใช้ปากเลียดิฉันมากๆๆๆๆๆ ถ้าวันไหนไม่ได้ใช้ปาก พาล***จะไม่แข็งเอาเลย
เจ้ามอร์ไซด์พยายามจะถ่างขาแบะดิฉันออกอีก แต่ทำไม่ได้
ติดกางเกงที่รูดไว้เพียงหัวเข่า กางเกงในก็ยังไม่ยอมถอด
เขาคงอยากจะยั่วยุฉันให้นานๆ โธ่ ไม่ต้องยั่วยุหรอก
แค่นี้ก็น้ำเงี่ยนทะลักเต็มอยู่แล้ว ดิฉันคิด เขารูดกางเกงในดิฉันออก
ดิฉันช่วยขยับตัวเพื่อให้รูดได้ง่ายขึ้น
เขาเอานิ้วมือแหย่เข้าไปในร่องที่ฉ่ำเยิ้มของดิฉัน ถูขึ้นถูลงช้าๆ
จังหวะดีมาก เมื่อนิ้วเขามาถูกปุ่มกระสัน ดิฉันเด้งตูดรับมือเขาเต็มที่
มือทั้งสองของดิฉันขยำเส้นผมของเขาไว้แน่น เขาเอามือแหย่เข้าไปในรูดิฉัน
ซึ่งมีน้ำเต็มไปหมด
"น้ำเงี่ยนมากเหลือเกินทูนหัว" เขาคราง เอาจมูกไปถูๆ ที่ปากรู
สูดดมฟอดใหญ่ ปากก็พร่ำว่าหอมๆ (ฉันไม่ได้อาบน้ำมาตั้งแต่ตอนหัวค่ำแล้ว
เจ้ามอร์ไซด์ครางว่าหอมๆ ได้อย่างไร แต่ฉันใช้น้ำยาทำความสะอาดห
ยี่ห้อเครื่องสำอางชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง ได้ผลจริงๆ สามีดมได้ทุกวัน
แม้ไม่ได้***ก็ตาม เรียกว่าดมก่อนนอนกันเลยทีเดียว หน้าตาไม่สนใจจะดมแต่ห
คนอะไรก็ไม่รู้) เขาชักมือออกจากร่องดิฉัน เอานิ้วมือที่เปื้อนน้ำหดิฉัน
ไปอมรูดเอาน้ำ ทำปากแปล้บๆ บ่นพึมไม่หยุด หอม หวาน มัน
เขายืนขึ้นทำท่าจะถอดกางเกงออก ฉันรีบผลักอกเขาพร้อมร้อง
"พอแล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว เดี่ยวมีคนมาเห็นเข้า ฉันจะเอาหน้าไว้ไหน
ใกล้บ้านฉันแล้วด้วย" เขาไม่ยอม อ้อนฉันอีกพรรคใหญ่ กอดรัด
เอา***อันแข็งทื่อ ถูหฉัน ***เขาใหญ่และแข็งจริงๆ
ฉันไม่เคยเจออย่างนี้มานานแล้ว ฉันรีบนุ่งกางเกง เงี่ยนก็เงี่ยน
อยากก็อยากอย่างที่สุด แต่ความกลัวก็ยังมี อายฟ้าดิน
แม้ตอนนี้จะยังไม่สว่างก็ตาม ตี 4 กว่าๆ หน้าหนาวบรรยากาศทั่วไปยังมืดอยู่
ใครเขาจะออกมาเดินกันตอนนี้ ทุกคนคงนอนคลุมโปงสบายอยู่ในห้อง
หรือไม่ก็ลุกมานั่งผิงไฟ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ตามวิสัยคนชนบท
ฉันไม่รอช้าเดินขึ้นไปบนถนนราดยาง เจ้ามอร์ไซด์คงหมดปัญญา
จำต้องจูงรถขึ้นมาบนถนน เมื่อมาถึงที่ฉันยืนอยู่เขาพูดว่า
"จะแกล้งผมให้บ้าหรืออย่างไร เมียผมท้องผมไม่ได้*** มาหลายเดือนแล้ว
อยากเต็มที่ ดูท่อน***ผมสิ ขอเถอะนะทูนหัว" เขาไม่วายที่จะอ้อน
ดิฉันให้เขารีบติดเครื่องยนต์ ขึ้นขับ ดิฉันขึ้นนั่งตำแหน่งเดิม
ดูไปเขาก็น่ารักดี ไม่ดื้อ ไม่รั้น สุภาพ ถ้าเขาจะข่มขืนให้ได้
ดิฉันคงไม่มีปัญญาจะขัดขืนแน่นอน เพราะเขาหุ่นสูงใหญ่บึกบึน
อีกอย่างอารมณ์ฉันก็กระเจิงแล้ว พร้อมที่จะลุยไปทุกที่
ไม่ว่าตรงนั้นจะเป็นต้นงิ้ว กระทะทองแดง หรือวิมานแมนแดนสวรรค์
แต่อีกเสี้ยวหนึ่งของความคิด ใกล้จะถึงบ้านแล้ว อารมณ์กระเจิงเต็มที่แล้ว
เดี๋ยวไปขึ้น***กับสามีที่บ้านก็ได้
เอาแต่นอนป่านนี้คงยังไม่รู้ว่าเมียตัวเอง มาถึงไหน
และกำลังจะโดน***ท่อนใหญ่เสียบรู เดี๋ยวเถอะไปถึงบ้าน จะเอาให้เข็ด
ดิฉันต้องสะดุ้งอีกทีเมื่อรู้สึกว่ามือเจ้ามอร์ไซด์
ล้วงถึงโคกดิฉันอีกแล้ว ปล่อยไปเถอะ เสียวดีเหมือนกัน
ฉันเร่งให้เขารีบบึ่งรถเร็วๆ จะได้ไปถึงบ้าน จะติดไฟให้ผิง
ดิฉันว่าไปยังงั้นแหละ เรื่องอะไรจะบริการถึงขนาดนั้น
เงี่ยนอยู่ยังงี้ถึงบ้าน จ่ายค่าโดยสาร แล้วคงไล่มอร์ไซด์กลับ
ขึ้นไป***กับสามีให้มันๆดีกว่า เจ้าหนุ่มมอร์ไซด์คงรู้ทันพูดว่า
"ผมส่งคุณถึงบ้าน คุณก็คงลืมผมนะแหละ จะรีบไป***กับผัวนะไม่ว่า"
เมื่อมาถึงบ้าน ยังไม่สว่างเลย รถมอร์ไซด์จอดที่ประตูรั้วหน้าบ้าน
ไฟในบ้านทุกดวงปิดสนิท เอ!จะมีคนอยู่รึเปล่านะ ทำไมมืดๆ อย่างนี้
เจ้ามอร์ไซด์เหมือนรู้ใจ ขอเข้าไปส่งข้างในรั้วบ้าน เพราะเห็นบรรยากาศมืดๆ
เดินตามหลังดิฉันมาติดๆ ดิฉันเริ่มคุ้นกับความมืดแล้ว
มองเห็นประตูบ้านสลัวๆ เดินไปเคาะประตู ส่งเสียงเรียก
"พี่ๆ เปิดไฟ เปิดประตู ฉันมาแล้ว" เงียบ ไม่มีเสียงตอบ ดิฉันเรียกซ้ำๆ
อยู่สักครู่ เจ้ามอร์ไซด์ รีบขยับมาหาฉันที่ประตู
ก้มลงไปดูที่ประตูแล้วบอกฉันว่า
"สามีคุณไม่อยู่หรอก ประตูใส่กุญแจ" ฉันยังไม่ได้คิด ยังไม่ได้ทำอะไรเลย
เจ้ามอร์ไซด์ วางกระเป๋าฉันลง กอดรัดร่างอวบของดิฉันทันทีแล้ว
ดันร่างอวบอัดของดิฉันให้พิงฝาบ้าน
"ทูนหัวจ๋า ได้***แน่แล้ว ใด้น้ำชะโลมหัว***แล้ว ขอผมเถอะนะ" เขาคราง
ฉันไม่ตอบโต้เขาหรอก ปากเขาประกบดูดแลกลิ้นทีปากดิฉัน
มือเขาพยายามถอดกางเกงดิฉัน คราวนี้เขาถอดพร้อมกางเกงในเลย
ดิฉันต้องช่วยขยับบิดบั้นท้ายเพราะสะโพกของดิฉันใหญ่
ทำให้เขาถอดได้ง่ายขึ้น ดิฉันเอามือจิกผมเขาไว้
เหมือนกลัวว่าเขาจะผละจากดิฉันไป ดิฉันดึงขาออกจากกางเกงข้างหนึ่ง
ลมหนาวพัดมาวูบหนึ่ง เย็นเข้าไปถึงรู
ก็ตอนนี้ไม่มีอะไรปิดบังโคกอันโหนกนูนอีกแล้ว
เจ้ามอร์ไซด์รีบทำธุระของตัวเองทันที เดี๋ยวเดียวช่วงล่างเขาก็ล่อนจ้อน
กริยาท่าทางเขาน่ารัก มือไม้สั่นเทา ครางอยู่ไม่ขาดปาก โคกคุณใหญ่
คุณหอมเหลือเกิน ตะกละตะกลามแต่ก็สุภาพ นิ่มนวล มันเร้าอารมณ์ดี
เขาไม่รอช้า ไม่ปล่อยให้ดิฉันถ่างขารอนาน อารมณ์ดิฉันกระเจิงเต็มที่
อะไรจะเกิดก็ให้เกิด ถ้าสามีมาตอนนี้ จะได้เชิญให้ร่วมขึ้นสวรรค์ด้วยกันเลย
คิดว่าคงไม่มีปัญหาอย่างที่เคยเรียนไว้ตอนต้นๆ นะแหละ
เวลาร่วมรักกับสามีก็จะร่วมกันจินตนาการ ไปต่างๆ นาๆ
ถึงกับเคยไปเช่าโรงแรมม่านรูดหาความสุขกัน พ่อเจ้าพระคุณของฉัน
จะเรียกบ๋อยให้มาช่วย***ฉันโน่นแหละ
เอาเข้าจริงฉันเองต่างหากที่ห้ามเขาไว้ ใจฉันไม่กล้าพอ
บ่ายเบี่ยงไปว่ายังไม่พร้อม ไว้โอกาสหน้า และนี่โอกาสมาถึงแล้ว
อารมณ์ฉันพร้อมเต็มที่จะปล่อยให้หลุดลอยไปได้ไง (หรือคุณว่าไง)
เขายกขาดิฉันขึ้นข้างหนึ่ง ดิฉันยืนขาเดียวตูดใหญ่พิงฝาบ้านไว้
คราวนี้รูฉันอ้าเต็มที่ ฉันซีดปากไม่หยุด เขารีบนั่งยองๆ
ก้มหัวเข้าไปดูดรูดิฉัน ลิ้นซุกซอน ตระหวัดรัดรึงสองแคมของดิฉัน
เขาดูดจุดกระสันดิฉันเสียงดัง จ๊วบๆ เจาะแจะๆ พร้อมกับเสียงคราง
เขาดูดจุดกระสันของฉัน เหมือนดูดนม
"หคุณหอมจัง น้ำเงี่ยนคุณหอมที่สุดเลย อยากดูดทุกวัน"
ดิฉันได้ยินถึงกับเสียวขึ้นมาทันทีในรูขมิบ มือไม้เกร็งไปหมด
จิกหัวเขาอย่างลืมตัว กลั้นลมหายใจ ขย้ำผมเขาเต็มที่
พร้อมกดหน้าเขาเข้าแนบโคกดิฉัน เจ้ามอร์ไซด์เหมือนรู้ใจ เร่งจังหวะเลีย
ดูด อย่างกระชั้นถี่ บางโอกาสตวัดลิ้นเลยไปถึงรูตูด โอย เสียวอย่าบอกใคร
จะเสียวกว่า***กับผัวด้วยซ้ำไป
"ฉันทนไม่ไหวแล้ว…คุณๆ…ๆ…ๆ…เร็วๆ…เร่งหน่อย…แรงๆ..หน่อย….เออยังงั้นแหละ… ทำไมเก่งจัง…เก่งที่สุดเลย…โอว…ยังงั้นแหละ…แรงๆ…ๆๆ…ๆๆเร็วๆๆ
"เสียงดิฉันขาดเป็นห้วงๆ "อย่าหยุดนะ อย่า…..หยุด อย่า…..…หยุด !
โอ้ยยย...เสร็จแล้ววว.." ดิฉันแหกปากร้องพร้อมจิกหัวเขากดให้แนบโคกเต็มๆ
โดยลืมนึกไปว่าไม่ได้***กันในห้อง น้ำเงี่ยนดิฉันทะลักใส่ปากเขา
ใครว่าผู้หญิงเมื่อเวลาถึงจุดสุดยอด แบบสุดๆๆ ไม่มีน้ำออกมา
เรื่องนี้ดิฉันเถียงคอเป็นเอ็นเลย ตัวดิฉันนี่แหละ มีน้ำออกมา เป็นน้ำใสๆ
เคยถามสามีว่ารสชาติเป็นไง สามีว่าไม่มีกลิ่น ไม่มีรส สามีชอบมาก
ออกมาเท่าไหร่ๆ ๆ พี่เค้าดูดกินหมดเลย แต่ออกไม่ทุกครั้ง
เฉพาะตอนที่ได้อารมณ์สุดๆ ดิฉันนะเจอบ่อยเลย ครั้งนี้ก็เหมือนกัน
เจ้ามอร์ไซด์คงแปลกใจ ว่าน้ำอะไรออกมามากมายขนาดนี้ รีบทะลึ่งลุกขึ้นมา
จับมือดิฉัน ไปลูบไล้บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำรักของฉัน
"น้ำอะไรทูนหัว เต็มหน้าผมหมดเลย" ดิฉันไม่ตอบแต่ จุ๊บเขาที่ริมฝีปาก
เป็นรางวัลแทน ดิฉันยังไม่ทันฟื้นตัวเลย
เจ้ามอร์ไซด์รีบกดหัวดิฉันให้นั่งลง แล้วเอา***มาจ่อที่ปากดิฉัน โอย
อะไรกันนี่ ดิฉันคิด เขาบอกให้ดิฉันอม***ให้เขา โธ่ดิฉันไม่ชอบเลย
***ของสามีดิฉันยังไม่เคยอมเลย เวลาสามีเอา***มาให้อม
บอกสามีว่าเอา***ไปให้เมียน้อยอมให้ ดิฉันไม่ยอมอมให้หรอกไม่ชอบ
สามีก็ไม่เซ้าซี้ มาคราวนี้จะเอาไง ถ้าไม่อมเดี่ยวเขาจะหาว่าเราเชยแหลก
คนรุ่นไหนวะ ถ้าจะอมก็ไม่รู้อมยังไง อ๊วกแตกแน่ เคยเห็นแต่ในหนังเอกซ์
ไม่เคยเลยจริงๆ พับผ่า ดิฉันไม่มีเวลาคิดหรอก เขาดุนดุ้น***
ที่ทั้งยาวทั้งใหญ่และแข็ง มาตรงปากดิฉัน ฉันเอื้อมมือไปจับมันไว้
พ่อเจ้าพระคุณ***ใหญ่ ใหญ่ จริงๆ เพิ่งได้สัมผัสนี่แหละ(ดูๆ
อะไรก็ดีกว่าของสามีไปหมดเลย มิน่าผู้ชายถึงชอบมีใหม่ ชอบมีเล็กมีน้อย
เพราะของคนอื่นดีกว่าของเมียตัวเอง) ดิฉันเอามือรูดเข้ารูดออก
เขาร้องเตือนดิฉันให้อม***ให้เร็วๆ เขาเงี่ยนมากแล้ว
ดิฉันเองถึงแม้ว่าเพิ่งเสร็จไปไม่กี่นาที พอเห็น*** ทั้งแข็ง ทั้งใหญ่
น้ำเงี่ยนก็ออกเต็มแคมไปหมด ดิฉันมีอารมณ์อีกแล้วนะซี ตัดสินใจกลั้นลมหายใจ
อ้าปากกว้างๆ ดิฉันยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยจริงๆ
เจ้าดุ้น***นั่นก็เข้ามาเต็มปากไปหมด มันคับปากดิฉัน
เขาร้องบอกให้ดิฉันเก็บฟันหน่อย เขาเกร็งไปหมด ฉันไม่ได้ทำอะไรหรอก แค่อมๆ
เขาก็กดหัวดิฉันไว้ ดันเข้าดันออก ดิฉันจะอ๊วกให้ได้ แต่ก็จำต้องทน
ไม่กี่ที รู้สึกว่าเขาเร่งจังหวะเร็วมาก เกร็งไปหมด
อาการอย่างนี้ดิฉันรู้ว่าน้ำจะแตกแน่ ดิฉันกลั้นหายใจไว้
จริงดังคาดมีน้ำข้นๆ อุ่นๆพุ่ง โอ มันพุ่งแรงมาก พุ่งถึงหลอดลมดิฉันเลย
ดิฉันรีบเบี่ยงหัวออก เขาพยายามกดหัวดิฉันไว้ เขาเห็นท่าไม่ดี
รีบชักดุ้น***เขาออกจากปากดิฉัน เอามือมารูดเข้ารูดออก เร่งใหญ่เลย
ปากก็ครางซีดๆ โอยๆ เสียว เสียว เสียวที่สุดเลย
เจ้าน้ำอสุจิของเขาพุ่งใส่หัว ใส่หน้าดิฉันเต็มไปหมด น้ำเขามากจริงๆ
พุ่งแรงด้วย
ดิฉันนั่งบ้วนน้ำลายปิ๊ดๆ เขาพยุงฉันให้ลุกขึ้น มาจูบที่ปากฉัน
"ไหนน้ำ***อยู่ตรงไหน ผมจะดูดเอาออกมาใส่ปากผม"
ว่าแล้วเขาก็ดูดปากดิฉันยกใหญ่ น้ำ***ที่ติดอยู่ตามหน้าตาดิฉัน
เขาเอาหน้าเขามาเกลือกกลิ้ง ละเลงเล่นบนหน้าดิฉัน กลิ่นคาวๆยังไงชอบกล
ดิฉันไม่กล้าแสดงอาการให้เขารู้หรอกว่าดิฉันรู้สึกอย่างไร
เพราะยังประทับใจในความเป็นชายที่เขามอบให้ฉันเมื่อสักครู่นี้
และตอนนี้ดิฉันก็มีอารมณ์อีกแล้ว เขาเอา***มาดุนโคกดิฉัน
***เขายังแข็งปั๋งไม่ยอมอ่อนตัวเลย พับผ่าคนอะไรเก่งอย่างนี้
ต้องขอบคุณพ่อเจ้าพระคุณของดิฉันที่ไม่อยู่บ้าน รึว่าเขาไปอยู่กับเมียน้อย
ดิฉันไม่ติดใจหรอก ไปไหนก็ไปเถอะดิฉันก็มีความสุขเหมือนกัน
ดิฉันเอื้อมมือไปจับ***เขา ยังไม่อ่อนตัวจริงๆ เขายกขาฉันขึ้นอีกครั้ง
ผลักฉันให้พิงฝาบ้านไว้ ตอนนี้รูของดิฉันก็อ้าออกพร้อมจะรับ***เขาเต็มที่
น้ำเงี่ยนเอ่อล้นออกมานอกเลย เขาเอามือไปสำรวจที่ปากรูของดิฉัน
คงสำรวจว่าพร้อมหรือยัง (ถามจริงๆ เถอะผู้ชายนะก่อน***ไม่จับหได้ไหม
ใครรู้บ้างช่วยตอบที) ดิฉันแอ่นหรับมือเขาเต็มที่
"โอย เสียว เสียวมากเลย รีบๆ เอา***เข้าเร็ว อยากอีกแล้ว.."
ดิฉันร้องบอกเจ้ามอร์ไซด์ เหมือนจะแกล้งฉัน เขาไม่สนใจต่อคำร้องขอของดิฉัน
ปล่อยขาฉันลง มือทั้งสองของเขากลับสนใจถอดเสื้อฉัน
"ขอดูนมใหญ่หน่อยทูนหัว ยังไม่ได้ดูเต้าอวบ ยังไม่ได้ ดูดนมเลย
กลับไปจะนอนหลับได้ไง" ฉันรีบอำนวยความสะดวกให้กะเขา แม้อากาศจะหนาว
ก็ต้องตามใจเขา เดี๋ยวเขาเปลี่ยนใจ ยกเลิกการกระทำ และกลับไปตอนนี้
เหมือนที่ฉันแกล้งเขาในตอนแรก ฉันก็อดนะซี ฉันปลดตะขอบราเซียร์
ถอดเสื้อให้เขา พอเขาเห็นหน้าอกฉัน แล้วทำตาโต
"นี่คนมีลูกแล้ว นมสวยขนาดนี้เชียวหรือ"
ฉันไม่ฟังเสียงรีบดันหัวเขาให้เข้าไปซบที่หน้าอกฉัน เขาทำหน้าที่ลูก
ได้อย่างดี ดูดนมซ้ายที ขวาที ฉันบอกให้เขาพอ หนาวแล้ว เดี๋ยวจะสว่างก่อน
***หดีกว่า เขาไม่ยอม มีเงื่อนไขว่า ต้องให้ฉันอม***เขาก่อน
ไม่งั้นไม่มีอารมณ์ ฉันทำตัวเป็นคนว่าง่าย รีบนั่งยองๆ
อ้าปากไปงับเอา***เขาเต็มที่
ลืมนึกไปว่าเขาเพิ่งน้ำแตกไปเมื่อสักครู่นี้เอง
น้ำอสุจิเขายังมีค้างคาอยู่ที่*** ทำไงได้ฉันอ้าปากงับเอาของ เขาแล้ว
เลยต้องเลยตามเลย ดูดเลียทำความสะอาด***ให้เขาอย่างสุขใจ
เขาครางเสียงกระเส่า กดหัวฉันไว้ เออน้ำ***ก็อร่อยเข้าท่าดี
วันหลังต้องอมให้สามีมั่งละ คนกำลังมีอารมณ์เงี่ยนนี่ทำได้ทุกอย่างจริงนะ
เขาดึงดิฉันให้ลุกขึ้น จับขาดิฉันยกไว้ข้างหนึ่ง ดันให้ดิฉันพิงฝาบ้านไว้
ค่อยๆ เอา***ยัดใส่ตรงรูดิฉัน ฉันกลัวว่าเขาจะเอาเข้าไม่ตรงห
รีบแอ่นหรับโดยพลัน คุณพระช่วย อาา..มันตึงในรูไปหมด
ตึงเหมือนดิฉันเป็นสาวๆ โดนสามี***วันแรกเลยเลย
หจะแหกรึเปล่า(ฉันทำรีแพร์) นี่ไม่ได้ดูถูกว่าของสามีไม่ใหญ่นะ
แต่่ทอน***ของเขามันใหญ่กว่าสามีมากมันตึงจริงๆ
ไม่เคยเจออย่างนี้มานานหลายปีแล้ว ดิฉันรีบขยับบั้นท้ายผายเด้งใส่ไปหาเขา
กลัวหลุดนะ (ฉันเคยทำกับสามีท่านี้หลุดง่ายจะตายไป) เมื่อเข้าได้ที่แล้ว
ฉันรีบเด้งเข้าดันออกทันที เจ้ามอร์ไซด์แทบไม่ต้องทำอะไร
กอดรัดดิฉันแทบหายใจไม่ออก ทั้งดิฉันและเขาครางกันไม่ได้ศัพท์
ต่างคนต่างเกร็ง ต่างคนต่างกระเด้าก้นใส่กัน เสียงดังเจาะแจะ เจาะแจะ
เพราะน้ำเงี่ยนฉันมาก แล้วเขาก็ถอน***ออกจบร่างดิฉันหันหน้าเข้าข้างฝา
ท่านี้สามีจะชอบเอาดิฉันมากเพราะสามีชอบดูหนั่นเนื้อสะโพกของดิฉันไหวตามแรงเด้า
เจ้าหนุ่มมอร์ไซด์ก้เช่นกัน " อูยย..คุณทำบุญด้วยอะไรถึงได้ตูดใหญ่
นมใหญ่อย่างนี้ ..วันนี้จะ***ให้น้ำหมด***เลย"เขาตะลึงมอง
มือก็ลูบไล้ที่สะโพกอวบผาย ปากเขาก็พึมพึม
จนดิฉันต้องร้องขอท่อน***อีกครั้ง"เอา***ใส่เร็วๆ
ฉันมีอารมณ์แล้ว...อยากได้***..."
เจ้ามอไซด์ไม่รอช้าจบ***ท่อนใหญ่แหย่เข้ารูดิฉันทันที
ครั้งนี้มันเข้าง่ายก็ในรูดิฉันเต็มไปด้วยน้ำเงี่ยน
แล้วก้มหน้าก้มตากระแทกใส่อย่างเมามัน ไม่กี่อึดใจ จริงๆ เร็วมาก
น้ำเขาก็ทะลักฉีดเข้าในรูของดิฉัน พร้อมๆ
กับน้ำของดิฉันก็ออกมาชะโลมหัวถอกของเขาอีก ดิฉันอดแปลกใจไม่ได้
ปกติเวลาร่วมกับสามีดิฉันไม่ใช่คนจะถึงจุดสุดยอดง่ายๆ
เลยบางทีหลังจากที่สามีหลั่งแล้ว
ยังต้องให้สามีช่วยกระตุ้นด้วยการเขี่ยเม็ดแตดต่ออีกหน่อยหนึ่งถึงจะสำเร็จ
หรือไม่ก็ไม่ถึงจุดสุดยอดเอาดื้อๆงั้นแหละ แต่วันนี้เป็นไงไม่รู้
ถึงจุดสุดยอดเร็วมาก และถึงจุดสุดยอดพร้อมๆกับคู่ตัวเอง
ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทุกครั้งกับสามี ก็สุขสมเต็มที่นะซี
เมื่อน้ำรักออกหมดจนหยดสุดท้ายแล้ว ต่างคนต่างหอบ หายใจแรง
ยืนอยู่ในท่านั้นนานแสนนาน ดิฉันภาวนาว่า อย่าเพิ่งสว่างเลย ปากจูบปาก
คลึงเคล้าคลอเคลียกัน ดิฉันเองไม่เคยมีอารมณ์ อย่างนี้มานานแล้ว
มันเป็นอารมณ์ดิบที่ไม่ได้กลั่นกรองเลย ปล่อยให้อารมณ์ ออกมาเต็มที่
นี่ดิฉันจะไปค้นหาอารมณ์เหล่านี้จากที่ไหนได้อีก หแช่*** ***แช่ห
อยู่อย่างนั้นไม่นานเขากระชิบว่า
"***อีกไหม" พร้อมขยับก้นสาว***ออกมายาวๆแล้วซอยเข้าช้าๆ
เขาทำแค่นั้นแหละน้ำรักฉันก็ออกมา พร้อมที่จะบรรเลงเพลงรักอีก
ฉันไม่ตอบคำถามเขา แต่เอามือโอบกอดก้นเขาไว้แน่น
ค่อยๆล้มตัวลงนอนบนพื้นซีเมนต์ ระมัดระวังไม่ให้***หลุดจากรู โอ!
พื้นเย็นมาก เย็นจริงๆ
แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับคนกำลังเงี่ยนจัดอย่างดิฉัน เขาเองก็ไม่ย่อท้อ
ล้มตัวลงนอนทับดิฉัน ทุกอริยาบทดำเนินไปด้วยอาการทนุถนอม
กลัว***หลุดจากรู แม้ครั้งที่ 3 ***เขาก็ไม่ยอมอ่อนเลยจริงๆ
เมื่อนอนถึงพื้นแล้ว ขาฉันถ่างเต็มที่ยกขึ้นตระหวัดรัดเอวเขาไว้
แล้วเอามือกดที่ก้น เป็นสัญญาณเตือนให้เขาเริ่มบรรเลงเพลงรัก
ฉันตอบสนองอารมณ์เขาเต็มที่ ยกก้นรับตามจังหวะที่เขาดันก้นลงมา
โคกโหนกนูน กับท่อน***ดุ้นใหญ่ปะทะกัน ตามจังหวะกระแทกอันร้อนแรง
พลังมหาศาลจากชู้รักดูจะไม่รู้จักหมดสิ้น
ต่างคนต่างร้องครางไม่เป็นภาษามนุษย์ เขาก็กระเด้าหนักๆ อย่างต่อเนื่อง
เสียงดังเจาะแจะ เจาะแจะ น้ำเงี่ยนฉันมากจริงๆ อารมณ์ของฉันกระเจิง
หนังเอกซ์ ที่แอคชั่นดีๆ มาเจอบทฉันตอนนี้ ชิดซ้ายไปเลย
เป็นอันว่าฉันเสร็จสมอารมณ์หมายกับมอร์ไซด์รับจ้าง 3 ครั้งซ้อน
เเละเป็นความสำเร็จ 3 ครั้งที่ตรึงใจ ไม่เคยลืมเลย
ทุกวันนี้ฉันยังค้นหาอารมณ์อย่างนี้ไม่เจอ
ฉันจ่ายค่าเหมามอร์ไซด์ ให้ไป 100 บาท เจ้ามอร์ไซด์ก็รับเอาหน้าตาเฉย
กล่าวขอบคุณ และจากฉันไป ลืมถามชื่อเสียงเจ้ามอร์ไซด์คันนั้นด้วยซ้ำ
ฉันนั่งรอสามีอยู่ที่หน้าบ้านจนสว่าง
สามีมาถึงบ้าน 7 โมงกว่าๆ ฉันเพลียมาก พอเปิดบ้านได้
พ่อเจ้าพระคุณไม่ยอมฟังเสียง จับดิฉัน***เลย
ยอมรับว่าเขาเป็นคนช่างสังเกตุมาก พอแก้ผ้าดิฉันได้ ไม่ลืมที่จะดูด เลีย
ร่องดิฉัน เขาดูด เลียหดิฉันได้สักพักหนึ่ง เขาก็เงยหน้าขึ้นมาถามฉันว่า

"ไปทำอะไรมา ทำที่ไหน ***กับใคร บอกมานะ ไม่งั้นบีบคอให้ตายคามือเลย"
ฉันลืมไปว่า ***กับมอร์ไซด์ น้ำ***ออกใส่หฉันถึง 2 ครั้ง
ยังไม่ได้ทำความสะอาดเลย
แค่ปัสสะวะจะช่วยชำระล้างน้ำรักที่มากมายออกได้อย่างไร ฉันจนด้วยเกล้า
จำนนด้วยหลักฐาน และก็กลัวตั้งท้องด้วย(สามีทำหมัน)คุกเข่ากราบขออภัย สามี
แล้วเล่าเรื่องให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ
เหมือนกับที่ท่านได้อ่านมาถึงตรงนี้แหละ แทนที่พ่อเจ้าพระคุณจะโกรธ
สามีชอบใจ พาฉันทำทุกขั้นตอนเหมือนที่มอร์ไซด์ ทำ
ผิดแต่ทำในห้องนอนเท่านั้น
พ่อเจ้าพระคุณได้ครั้งเดียวก็นอนหลับไปถึงเที่ยงไม่ยอมตื่น ฉันสารภาพตรงๆ
ว่าไม่มีอารมณ์เลย แต่ก็ต้องเสแสร้งเอาใจ
ทุกวันฉันอม***ให้สามีได้แล้ว สามียุให้ฉันไปหาเจ้ามอร์ไซด์คันนั้นอีก
จริงๆนะไม่เคยเจอะเจอเลย เป็นคนแถวอำเภอฉันรึเปล่าก็ไม่รู้
ถ้ามอร์ไซด์รับจ้างคันนั้นยังอยู่และมีโอกาสอ่านเจอเรื่องนี้
ไปพบฉันบ้างนะ….ที่เดิมจะให้พากันรุม***ฉันให้สะใจไปเลย
รับรองไม่ทวงกางเกงในคืนแน่นอน
และอยากหาประสบการณ์ให้มีอารมณ์สุดๆ เหมือนกับมอร์ไซด์ รับจ้างคันนั้น