วันครู

Friday, January 15, 2010



  มีบทความบทหนึ่งของนักเรียนโรงเรียนราชดำริที่เขียนถึงคุณครูถ้าทุกคนได้ อ่านจะทำให้มีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่สอนต่อไปและมีความภาคภูมิใจที่ยัง มีเด็กเข้าใจในตัวครูเป็นอย่างดี เมื่อคุณครู และเพื่อนอ่านแล้วมีความรู้สึกอย่างไร ขอให้ตอบด้วยนะคะจะได้นำไปบอกนักเรียน ซึ่งบทความนี้เป็นของนางสาวประไพพักตร์ แสวง
             "คุณครูขา" เสียงเรียกสั้นๆแต่แฝงความหมายอันยิ่งใหญ่ ที่เด็กน้อยใช้เรียกบุคคลที่มีสองมือไว้จับชอล์กและสองเท้าไว้ยืนหน้าห้อง หลังจากจบประโยคบุคคลหน้าห้องก็จะหันมาถามความต้องการของเด็กน้อย ข้าพเจ้าก็เป็นีกคนหนึ่งที่เวลามีปัญหากจะใช้ประโยคนี้สำหรับข้าพเจ้ามัน ช่างเป็นประโยคที่วิเศษที่สุด เพราะไม่ว่าข้าพเจ้าจะมีปัญหาอะไรมากมายแค่ไหน เมื่อเอ่ยประโยคนี้ดูเหมือนว่าปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายลงแทบจะในทันที ประเทศไทยนับถือและยกย่องว่าครูคือบุคคลตัวอย่างที่ควรเคารพ ผู้เฒ่าผู้แก่มักสอนบุตรหลานให้ตั้งใจเล่าเรียนโตขึ้นมาจะได้เป็นครูบา อาจารย์ เวลาจะเริ่มเรียนสิ่งใดก็จะต้องมีการไหว้ครูก่อนทุกครั้ง เพื่อระลึกถึงครูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ขอให้คุณของครูช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีต่างๆ เมื่อเอ่ยถึงครูสิ่งที่ข้าพเจ้านึกถึงก็เห็นจะเป็นไม้เรียวขณะเหมาะมือเสียง รองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้น เป็นเสียงที่เตือนให้ข้าพเจ้ารู้ว่าต้องนั่งที่ เตรียมพร้อมหยิบหนังสือวางบนโต๊ะเพื่อเริ่มเรียนวิชาเรียนเมื่อครูเข้ามาใน ห้อง ช่วงเวลาที่ครูสอนสิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้ามักสังเกตุทุกครั้งคือการแต่งตัว ในความคิดของข้าพเจ้าครูเหมือนนางแบบที่ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าตามวัน เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้บรรยากาศในห้องน่าเรียนยิ่งขึ้น แม้บางครั้งเสื้อผ้าที่ครูสวมใส่จะเป็นเพียงเครื่องแบบสีกากีธรรมดา แต่ภายใต้เครื่องแบบธรรมดานี้คือความสง่างามของอาชีพครูที่อาชีพอื่นไม่ สามารถเลียนแบบได้ รอยเปื้อนสีขาวจากฝุ่นชอล์กที่ปรากฎเป็นหลักฐานบนกระโปรงของครูดูอย่างไร ข้าพเจ้าก็ไม่เห็นว่าร่องรอยนั้นสกปรกเลย ตรงกันข้ามข้าพเจ้ากลับเห็นว่ารอยเปื้อนนั่นคือหลักฐานที่ยืนยันถึงความมุ่ง มั่นในการสอนจนลืมแม้กระทั่งกระโปรงที่เปรอะเปื้อน เมื่อใดที่ข้าพเจ้าทำผิด ผิดมากจนเกินจะให้อภัย ครูก็จะมีผู้ช่วยที่ทำให้ข้าพเจ้าขยาดไม่กล้าทำผิดซ้ำสอง นั่นคือ ไม้เรียว ครูผู้ช่วยมักจะฝากรอยบาดแผลให้ข้าพเจ้าจดจำ นับได้ว่าไม้เรียวเป็นผู้มีพระคุณของข้าพเจ้าจริงๆ นั่นคือครูในความทรงจำของข้าพเจ้าแต่ในปัจจุบันข้าพเจ้าแทบจะไม่เห็นครูถือ ไม้เรียวคู่กายเลย มีการออกกฎห้ามใช้ไม่เรียวทำโทษนักเรียน บางโรงเรียนถึงขึ้นเผาไม้เรียวทิ้งข้าพเจ้าเห็นแล้วสุดแสนจะสลดใจ เพราะในความคิดของข้าพเจ้าไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย ไม้เรียวคือไม้สร้างชาติ แต่ระบบการศึกษาไทยปัจจุบันมองการลงโทษเด็กด้วยไม้เรียวเป็นความรุนแรง แปลเจตนาอันบริสุทธิ์ของครูที่ห่วงอาทรศิษย์เป็นเพียงการลงโทษที่หาประโยชน์ ไม่ได้ หากเปรียบไม้เรียวเป็นครูคนที่สองแล้ว ข้าพเจ้าเห็นว่าครูคนที่สองของเด็กไทยปัจจุบันคงหนีไม่พ้นกระดาษบางๆและ ปากกาด้ามละ 5 บาท ไว้จะบันทึกชื่อหักคะแนน หากสังคมไทยยังคงเป็นโรคหวาดกลัวความรุนแรงอันมีประโยชน์ของไม้เรียวอยู่ อย่างทุกวันนี้ เห็นทีครูไทยคงจะต้องเก็บไม้เรียวเข้าตู้ปิดตำนานไม้เรียวสร้างชาติ น่าเสียดายแทนเด็กไทยที่จะ
ไม่ได้เห็นหน้าตาไม้เรียวว่าเป็นอย่างไร น่าเสียดายจริงๆ







บทกลอน ...แด่คุณครู ด้วยดวงใจ


สิบหก มกรา มาบรรจบ                        ขอน้อมนบวันทาครูผู้สอนศิลป์
ประสาสตร์ศิษย์ประนอมสาสน์เป็นอาจิณ  ศิลปินรินความรู้สู่ความดี
กี่ล้านถ้อยกี่ร้อยคำที่คอยสอน            กี่ล้าผ่อนกี่อ่อนล้ามิกล้าหนี
เพื่อชนชีพเพื่อชนชาติเพื่อความดี        พร้อมยอมพลีด้วยศรีศักดิ์รักชีพครู
อภิวาทวันทาครูบาเจ้า                         ทุกค่ำเช้าที่เฝ้าพร่ำย้ำให้รู้
ที่สอนสั่งยั้งให้คิดมิตร-ศัตรู                  ศิษย์ได้อยู่ให้รอดฝั่งปลูกฝังไป
ยกพานแก้วที่แพร้วเพริดเลิศค่าล้ำ     เพื่อเตือนย้ำคำครูผู้ยิ่งใหญ่
วางเทียนธูปส่องสว่างหนทางไกล       วางดอกไม้เคียงคู่ควรบูชา
ทั้งเข็มแขมให้แหลมคมให้สมค่า           ครูดุว่าควรค่าจำ นำห่วงหา
ให้โอนอ่อนผ่อนตนจำนรรจา                ดอกมะเขือเพื่อเตือนว่ากตัญญู
อีกหญ้าแพรกยิ่งเจริญจรุงเรื่อง           ถึงทั้งเมืองเป็นเพียงหญ้าน่าอดสู
ยิ่งทอดยอดเจริญงามยิ่งนาดู              ครูคือผู้ "สร้างคนดี" ที่ยืนยัง
"ถึงจะสูงเทียมฟ้าอย่าดูถูก                  ครูเคยปลูกวิชามาแต่หลัง
ศิษย์ไร้ครูอยู่ได้ไม่จีรัง                      อย่าโอหังคิดหลู่ครูของตน"
จึงนบน้อมพนมไหว้ใจจริงแท้               ระลึกแด่คุณ-คุณครู ทุกแห่งหน
ที่สร้างค่าสร้างคนให้เป็นคน                น้อมใจดลวันทาบูชาครู





0 comments:

Blog Archive