ความต่างระหว่างเกย์ไทยกับเกย์ฝรั่ง

Sunday, December 14, 2008

ไม่เพียงแต่ สภาพความเป็นชุมชนเกย์ ที่มีลักษณะแตกต่างกับตะวันตก ความเข้าใจและทัศนคติที่เกย์มีต่อตนเอง ก็แตกต่าง ไปจากเกย์ตะวันตก มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า ความเป็นเกย์ของเกย์ไทยถูกกำหนดโดยโครงสร้างทางวัฒนธรรม ที่เน้นบทบาททางเพศ ระหว่างชายกับหญิงเป็นอย่างมาก
ในสังคมตะวันตก โฮโมเซ็กช่วล หมายถึง บุคคลที่มีความโน้มเอียง ไปในทางชอบเพศเดียวกัน ไบเซ็กช่วล หมายถึงบุคคลที่มีความโน้มเอียงทางเพศต่อทั้งสองเพศ ขณะที่ เฮกเตอโรเซ็กช่วล หมายถึงบุคคลที่ชอบเฉพาะเพศตรงข้าม ส่วนส่วนคำว่า เกย์ และ สเตรท มีนัยในเชิงวัฒนธรรมมากกว่า
ดังนั้น "เกย์" จึงหมายถึงโฮโมเซ็กช่วล และ อาจรวมถึงไบเซ็กช่วลที่ออกมาใช้ชีวิตอย่างเกย์ คือ เที่ยวเกย์คลับ และ ร่วมกิจกรรมกับชุมชนเกย์ ส่วน "สเตรท"ก็คือ คนทั่วไป ที่มีวัฒนธรรมทางเพศอย่างตรงไปตรงมา
ขณะที่สังคมไทย เวลาที่เราสงสัยว่าใครคนใดคนหนึ่งเป็นเกย์ เรามักจะมีภาพว่า เขาแอบชอบเพศเดียวกัน และมีความรู้สึกนึกคิดแบบผู้หญิง เบี่ยงเบนไปจากมาตรฐาน ที่ควรจะเป็นของผู้ชาย ฉะนั้นโดยทั่วไปเกย์แปลว่าไม่ใช่ผู้ชายเต็มตัว ทว่าเมื่อเรามองให้ละเอียดขึ้น เราจะพบว่าการแบ่งแยกเรื่องทางเพศในบ้านเรา สะท้อนค่านิยม กี่ยวกับบทบาททางเพศ ระหว่างหญิงกับชายเป็นอย่างมาก
นอกจากคำว่า เกย์แล้ว เราจะพบคำอื่นๆ เช่น กะเทย สาวประเภทสอง เกย์คิง เกย์ควีน คำว่า กะเทยเป็นศัพท์ดั้งเดิมในภาษาไทย แรกเริ่มหมายถึง บุคคลที่เมื่อดูที่กายภาพแล้ว ปรากฏทั้ง 2 เพศในตัวคนๆเดียวกัน สังคมไทยดั้งเดิม ไม่มีมโนทัศน์เรื่องเกย์ แต่ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างเพศเดียวกัน ไม่มีอยู่ในสังคมดั้งเดิม เพียงแต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างชายกับชายในอดีต ไม่ได้ทำให้เพศชายกลายเป็นเพศอื่น
ในเชิงกายภาพ สังคมไทยดั้งเดิมจึงประกอบไปด้วย 3 เพศ คือ เพศชาย เพศหญิง และเพศกะเทย ต่อมาคำว่า กะเทยใช้ระบุ เพศชาย ที่มีบุคลิกกระเดียดไปในแบบผู้หญิง โดยเฉพาะ คนที่ชอบแต่งตัวคล้ายๆ กับผู้หญิงซึ่งมักจะปรากฏว่า บุคคลเหล่านี้ ก็มักจะมี ความสัมพันธ์ทางเพศกับเพศชาย ซึ่งหมายถึงเพศที่มีองคชาติโดยกำเนิด และ มีบุคลิกอย่างผู้ชาย
คำถาม คือ เพศชายที่มีความสัมพันธ์กับเพศกะเทย หรือ มีความสัมพันธ์กันเองนั้นเป็นอีกเผ่าพันธุ์หนึ่งหรือไม่ สังคมไทยแต่เดิม ไม่มีแนวคิดในเรื่องนี้ การมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันอาจถูกมองว่า เป็นเรื่องวิตถาร แต่ เพศชายก็ยังคงเป็นเพศชาย ไม่ใช่เกย์ ไม่ใช่กะเทยเพราะเราไม่ได้มีมโนทัศน์เกี่ยวกับเกย์
ต่อมาเมื่อเราเอาคำว่า เกย์ มาใช้จากตะวันตก ก็เกิดความสับสน แต่เดิมวัฒนธรรมของเรา ไม่ได้ระบุตัวตนหรืออัตลักษณ์ โดยเอากิจกรรมทางเพศ หรือ วัตถุของการร่วมเพศ มาเป็นเครื่องบ่งชี้ นอกเสียจากลักษณะที่เห็นทางกายภาพ และ การกำหนดบทบาททางเพศ ที่มีอยู่สูง ระหว่าง ผู้หญิง กับ ผู้ชาย แต่นั่นก็ไม่เกี่ยวกับ เรื่องของการร่วมเพศ
ในช่วงแรกๆ ประมาณ 30 กว่าปีที่ผ่านมา เมื่อเราเอาคำว่า เกย์มาใช้จากภาษาอังกฤษในช่วงแรกเกย์จึงถูกมองว่า เป็นกลุ่มเดียวกับกะเทย ดังนั้น เราจึงมีอีกคำ คือ เสือไบ หรือไบเซ็กช่วลใช้เรียกเพศชาย ที่มีลักษณะผู้ชาย แต่ในบางโอกาส อาจสนใจเพศเดียวกัน
ทั้งนี้ สังคมไทย ยังคงถือทัศนคติที่ว่า คนที่มีลักษณะเป็นผู้ชาย ถึงอย่างไรก็ต้องชอบเพศหญิง เพราะเรามีภาพเรื่องบทบาททางเพศ คอยกำกับ ต่อมา มีการสร้างศัพท์ขึ้น โดยขอยืมคำภาษาอังกฤษมาใช้อีก คือการแบ่งแยกระหว่างเกย์คิง กับเกย์ควีน

1 comments:

My Secret Garden said...

งั้นผมก็เป็นผู้ชายที่ชอบชายคับ

บทความที่ลึกซึ้งดี...:)

Blog Archive