ช่องโหว่สถานที่ซื้อบริการ"รักร่วมเพศ"ต้นตอฆาตกรรมอาจารย์ม.เกษตรฯ

Friday, December 18, 2009




คดีฆาตกรรมนายสราวุฒิ เลิศมาลัยมาลย์ อายุ 36 ปี อาจารย์ภาคบัญชี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บริเวณสวนหย่อม ริมคลองสวนสาธารณะรถไฟ ติดถนนกำแพงเพชร 3 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. โดยมีผู้ไปพบศพเมื่อเวลา 00.30 น. ของวันที่ 5 ธ.ค. ในสภาพ นอนคว่ำหน้าจมกองเหลือในพงหญ้า สวมเสื้อยืดคอกลมสีเทาเข้ม ใส่กางเกงผ้าร่มขาสั้นสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลเปิดที่กกหูขวา ใกล้กันพบเหล็กแป๊บแบบตัน เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว ยาวประมาณ 50 ซม. รองเท้าแตะแบบสวมยี่ห้อแอดด้า สีดำ 1 คู่ ซองถุงยางอนามัยแกะแล้ว 1 ชิ้น และถุงยางอนามัยใช้แล้ว1 อัน
      
       นอกเหนือจาากพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุแล้ว ในกระเป๋ากางเกงของผู้ตาย ยังพบกระดาษชำระและถุงยางอนามัยที่ยังไม่ได้ใช้งานอีก 3 ชิ้น และห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 100 เมตร มีรถยนต์โตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ภศ 5191 กทม. ของผู้ตายจอดทิ้งไว้ โดยภายในรถพบคราบเลือดเพียงเล็กน้อย
      
       เบื้องต้น ตำรวจสายสืบสน.บางซื่อ ภายใต้การนำของพ.ต.ท.ศุภัทร ศุภกำเนิด สว.สส.สน.บางซื่อ ยังสับสนในประเด็นการเสียชีวิตของอาจารย์หนุ่มผู้นี้ เพราะพยานในที่เกิดเหตุต่างให้การไปคนละทิศละทาง โดยเฉพาะหลักฐานที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ "เหล็กแป๊บตัน"ยาวราว 50 ซม. ซึ่งโดยปกติ บริเวณดังกล่าวไม่น่าจะมีเหล็กแป๊บตกหรือวางไว้บริเวณนั้น ประเด็นการสังหารเพื่อชิงทรัพย์ จึงถูกนำมาวิเคราะห์มากที่สุด
      
       ในขณะเดียวกัน บริเวณสถานที่เกิดเหตุ เป็นที่ทราบกันดีในหมู่"ไม้ป่าเดียวกัน" ว่า เป็นสถานที่ซึ่งจะหาซื้อบริการรักร่วมเพศได้ไม่ยากนัก แต่สถานที่ดังกล่าวนั้น ค่อนข้างเป็นตลาดล่าง ไม่ใช่ตลาดไฮโซเหมือนย่านสีลม หรือบาร์เกย์ย่านต่างๆ ประเด็นจึงอยู่ที่ว่า ทำไม อาจารย์สราวุฒิ จึงไปถูกฆาตกรรมบริเวณนั้น และนี่ เป็นข้อสงสัยที่ทีมสืบสวนสน.บางซื่อ กับทีมสืบสวนของบก.สส.บก.น.2 ภายใต้การกำกับดูแลของ พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผกก.สส.บก.น.2 และพ.ต.ท.ภิรมย์ สวนทอง รอง ผกก.สส.บก.น.2 จะต้องทำให้กระจ่าง
      
       ตำรวจเริ่มปะติดปะต่อพยานหลักฐาน โดยพุ่งเป้าไปที่ประเด็นการซื้อ-ขายบริการรักร่วมเพศ แต่ในทางกลับกัน ข้อมูลทางญาติของผู้ตาย กลับไม่ปรากฏว่า มีเรื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมรักร่วมเพศของผู้ตายแม้แต่น้อย เรื่องนี้ ยิ่งทำให้การดำเนินสืบสวนเพื่อหาตัว"ฆาตกร" เพิ่มความยากขึ้นไปอีกทอดหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนยังไม่ทิ้งประเด็นการซื้อ-ขายบริการรักร่วมเพศทิ้ง ทั้งยังคงเพิ่มน้ำหนักในประเด็นดังกล่าวยิ่งขึ้น
      
       หลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนของกก.สส.บก.น.2 ได้ลงพื้นที่โดยรอบที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามพยานแวดล้อม โดยเฉพาะกลุ่มคนรักร่วมเพศที่มักมามั่วสุมบริเวณดังกล่าว จนได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นชายรูปร่างสูง ผมยาว นอกจากนี้ ยังได้ตรวจสอบคดีทำร้ายร่างกาย และคดีชิงทรัพย์ที่เกิดขึ้น ในย่านดังกล่าวด้วย ซึ่งพบว่า ก่อนเกิดเหตุกับนายสราวุฒิ ผู้ตายนั้น มีผู้เสียหายเป็นชายถูกตีด้วยท่อนเหล็ก และชิงทรัพย์มาแล้ว 3 ครั้ง แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าแจ้งความ เนื่องจากเกรงว่า จะเกิดความอับอาย แต่มีอยู่รายหนึ่งที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเปาโลฯ ทีมสืบสวนจึงเข้าไปสอบปากคำจนพบว่า ผู้ต้องสงสัยคดีนี้ มีรูปพรรณสัณฐานตรงกัน จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐานและประสานพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ขออนุมัติหมายจับชายตามภาพสเก็ตช์ของพยาน
      
       หลัง คดีผ่านพ้นไปได้ 5 วัน ลุเข้าค่ำวันที่ 10 ธ.ค. ชุดสืบสวนจึงสามารถตามจับกุม นายวิษณุ บัวลอย อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 1 ต.โนนสูง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ผู้ต้องหารายนี้ได้ในพื้นที่จ.สลกนคร หลังผู้ต้องหาก่อเหตุแล้ว หลบไปกบดานยังบ้านเกิด พร้อมหลักฐานของกลางสำคัญ มีโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และกระเป๋าเอกสารอีก 1 ใบ
       

       ผู้ต้องหารายนี้ รับสารภาพกับตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้เข้ามาพูดคุยเรื่องเซ็กส์ โดยบอกว่าจะขอให้ไปหลับนอนด้วย จึงได้เสนอราคาไป 2,000 บาท แต่ผู้ตายกลับลวนลาม โดยไม่ได้พูดถึงเรื่องเงิน จึงบันดาลโทสะใช้เหล็กท่อนตีเข้าไปศีรษะผู้ตาย 2 ครั้ง จนล้มลงไป และยอมรับว่า ที่ทำไปเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ เมื่อเห็นว่าผู้ตายแน่นิ่งไป จึงใช้โทรศัพท์ของผู้ตายโทรแจ้งตำรวจที่หมายเลข 191 และนำเงินที่ได้บางส่วนไปบริจาคให้กับเด็กพิการ ก่อนนำโทรศัพท์มือถือไปขายที่บ้านเกิด ทั้งนี้ เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้ว 3-4 ครั้ง
      
       "ผม ทำงานเป็นพนักงานแผนกสโตร์ของบริษัทแห่งหนึ่ง และไม่ได้เป็นเกย์หรือพวกรักร่วมเพศที่มาขายบริการในบริเวณที่เกิดเหตุ แต่ตั้งใจมาดักชิงทรัพย์เหยื่อในบริเวณนี้โดยเฉพาะ หากเหยื่อทำทีเข้ามาขอซื้อบริการ ก็จะลวงเข้าไปริมบึง แล้วทำร้ายร่างกายก่อนชิงทรัพย์ไป โดยทำมาแล้ว 4 ครั้ง ส่วนเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาก็จะนำไปใช้ส่วนตัว และแบ่งช่วยเหลือคนชรา หรือคนพิการ เพราะความสงสาร และที่เหยื่อไม่กล้าไปแจ้งความ ก็เพราะกลัวอับอายที่มาซื้อบริการรักร่วมเพศ"นายวิษณุ ให้การในวันที่ตำรวจพาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ
       

       ในการทำแผนประกอบการรับสารภาพในจุดที่สอง ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหา พาผู้ตายข้ามรั้วลวดหนามเข้าไปตกลงราคากันบริเวณริมบึง เมื่อผู้ตายเผลอผู้ต้องหา ก็ผลักผู้ตายจนล้มลงไป แล้วหยิบเหล็กแป๊บที่ซ่อนไว้ใต้พุ่มไม้ขึ้นมาตีผู้ตายจนแน่นิ่งไป
      
       อย่าง ไรก็ตาม ยังมีสถานที่ซื้อ-ขายบริการของบรรดารักร่วมเพศ อยู่อีกหลายสถานที่ แต่ละที่ล้วนเป็นสถานที่ล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรมได้ง่าย เพราะสถานที่เหล่านั้น จะต้องเปลี่ยว และปลอดผู้คนพอสมควร เนื่องจากตัว"ผู้ซื้อ" เกิดจะเกิดความอับอาย จึงต้องไปยังสถานที่ที่รู้กันในหมู่รักร่วมเพศเท่านั้น ฉะนั้น จึงต้องเป็นหน้าที่ของฝ่ายตำรวจ ที่จะหาทางดูแลป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะเดียวกันนี้ขึ้นอีกในหลายพื้นที่ เพราะการเฝ้าระวังและป้องกัน ย่อมได้ผลดีกว่าและคุ้มค่ากว่า"การปราบปราม"เป็นเท่าตัว




0 comments:

Blog Archive