เรื่องเตือนใจ ในคืนหนึ่ง

Thursday, March 25, 2010

วันหนึ่งในวันที่เบื่อหน่าย ผมตื่นเช้าขึ้นมา ณ โรงแรมในจังหวัดซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชื่อดัง ผมมาประชุม3 วันตามที่หน่วยงานส่งมา หลังอาบน้ำเสร็จผมก็แต่งตัวเพื่อไปประชุม ระหว่างแต่งตัวผมก็นึกไปถึงชีวิตตอนนี้ ผมมีงาน มีบ้าน มีครอบครัว พ่อ แม่ หลานๆ ลูกของพี่ครอบครัวเราอบอุ่น ช่วยเหลือกันเสมอแม้เราจะโตแล้ว เป็นลักษณะครอบครัวใหญ่ ผมมีกลุ่มเพื่อนสนิท เรานัดเจอกิน เที่ยว เล่น เป็นครั้งคราว และผมมีแฟนผู้ชายที่ไม่ได้เปิดเผยมากนักแต่เราแลกแหวนทองไว้แทนใจกัน 1วงที่นิ้วนางข้างซ้ายของผม บางครั้งผมก็แอบไปกุ๊กกิ๊กนอกใจแฟนบ้างถ้าเบื่อๆแฟน ผมมีเงินเก็บ มีเงินใช้เพียงพอสำหรับกิน สำหรับเที่ยว คุณคงบอกว่าชีวิตผมครบดีแล้วซิแต่ผมรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปบางอย่างอยู่ตลอด เวลา ชีวิตผมมันงั้นๆเสมอในความคิดของผม ชั่งเหอะคืนนี้ผมจะออกเที่ยวหน่อยกำจัดความเบื่อหน่ายทิ้งไป

ตกเย็นหลังจากประชุม เสร็จผมก็กลับบ้านถอดเสื้อผ้าออกแต่งตัวใหม่ ชุดที่ดูเท่และลำลองซักนิด ว่าจะไปเดินเตร็ดเตร่ที่ห้างใกล้ๆโรงแรมซักหน่อย ผมรู้ว่าที่นี่มันแหล่งเกย์ดีๆนี่เอง ถ้าผมเจอน่ารักคืนนี้ก็ไม่น่าเบื่อเกินไป

หลังจากทานอาหารอร่อยๆ และกาแฟเย็นไป 1 แก้ว ผมก็ออกเดินเตร็ดเตร่ ระหว่างเดินเที่ยวมีคนเหล่ผมบ้าง ผมเหล่เค้าบ้างแต่มันไม่คลิ๊กเท่าไหร่ หลังจากเดินจนทั่วแล้วผมก็ยังไม่ถูกใจ ผมก็เดินออกไปนอกห้างบ้าง ระหว่างที่เดินไปนั้นผมเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่เหมือนคอยอะไรซักอย่าง รูปร่างหน้าตาดีทีเดียวใส่ชุดเท่ๆ ตอนแรกผมไม่คิดอะไรก็คิดว่าเค้าเป็นเด็กหนุ่มทั่วไป แต่พอเค้าหันมามองบ่อยๆ และ ยิ้มให้ นั่นแหละผมก็บอกได้ว่าคนนี้แหละสำหรับคืนนี้ของผม

เราเดินคุยกันไปเค้าขอตังค์ผม ผมต่อรองตอนแรกเค้าไม่ยอมไปๆมาๆก็ยอมจนได้ ผมยินดีจะทำให้เค้าเองเพราะเค้าเป็นผู้ชายแท้ๆ ระหว่างทางเดินผ่าน 7/11 ผมให้เงินเค้าไปซื้ออุปกรณ์และเครื่องดื่มเอามาปลุกอารมณ์ซักหน่อย เค้าหายเข้าไปพักนึงจึงเดินออกมาแล้วเราก็เดินเข้าโรงแรม

พอเข้ามาในห้องผมก็เริ่มทันที เค้ามีท่าทีอิดออดเล็กน้อย เค้าไม่จูบปาก ไม่เล้าโลม นอนเฉย ผมชักเริ่มเซ็ง ผมจึงไปที่อวัยวะสำคัญไม่ว่าอย่างไงถ้ามันใหญ่ผมก็พอรับได้ แต่มันไม่แข็งเลยนี่จึงทำให้ผมเซ็งสุดๆ พูดกับเค้าตรงๆว่า เราทำอะไรกันไม่ได้เลยผมให้เงินตามที่ตกลงกันไว้แล้วแยกกันก็แล้วกัน เค้าขอตัวเข้าห้องน้ำแป๊บนึงบอกเพื่อทำอารมณ์ ผมไปยืนใส่เสื้อผ้าที่หน้ากระจก ซักพักเค้าเดินออกมาเข้ามากอดด้านหลัง แต่ผมบอกว่าไม่เป็นไรหรอกแล้วค่อยเจอกันใหม่แล้วกัน ตอนนั้นแหละที่เค้าใช้แขนข้างที่เอื้อมมากอดคอผมรัดคอจนแน่น ถึงตอนนี้ผมค่อนข้างแปลกใจนึกว่าเค้าโกรธ ผมดิ้นสะบัดหลุดเดินหนีเค้าออกมายืนอีกฝั่งของห้อง ซักพักเค้าจึงเอาใบมีดโกนออกมาและบอกเงียบๆและให้ผมถอดสร้อยคอทอง กระเป๋าตังค์ และแหวนทองที่นิ้วนางข้างซ้ายโยนให้เค้า ถ้าผมไม่ทำตามเค้าจะเชือดผมด้วยใบมีดโกนที่ถือมา แน่นอนมีดคมมากเพราะเค้ากำจนเลือดซิบๆที่ฝ่ามือ

หลังจากผมโยนทั้ง สร้อยคอ แหวน โทรศัพท์มือถือและกระเป๋าตังค์ให้เค้า เค้าก็เก็บแหวน สร้อยคอ หยิบเฉพาะเงินในกระเป๋าแล้วทิ้งกระเป๋าไว้ เค้าเดินไปที่โทรศัพท์โรงแรมแล้วดึงสายโทรศัพท์ออก เพื่อป้องกันผมโทรเรียกประชาสัมพันธ์ แล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของผมหยิบเอาเข็มขัดมาทั้งสองเส้นที่ผมพกมา ทั้งๆที่ถือใบมีดโกนที่แหลมคมชี้มาที่ผมตลอด เค้าบอกให้ผมนอนลงเพื่อให้เค้ามัดมือมัดเท้า พอมัดเสร็จแล้วเค้าก็จะออกไปพร้อมทรัพย์สินของผมแต่โดยดี การมัดมือและเท้าก็เพื่อไม่ให้ผมโทรไปแจ้งยามก่อนที่เค้าจะออกจากโรงแรมไป ได้ ทันทีที่เค้าพูดจบผมจึงนึกถึงข่าวเกย์ถูกปาดคอตายสยองในโรงแรมขึ้นมาทันที ไม่มีทางที่ผมจะมั่นใจในความปลอดภัยได้หากถูกมัดมือและเท้าเสียแล้ว และช่วงจังหวะนั้นเองที่ทำให้ผมตัดสินใจได้ว่า ชีวิตคือสิ่งที่ผมเบื่อหน่ายจริงหรือไม่

ระหว่างที่ผมต่อรอง ไม่ยอมถูกมัดมือและเท้า เค้าพยายามเอาซิมออกจากมือถือผม เมื่อมือทั้งสองข้างของเค้าจับโทรศัพท์จังหวะนั้นผมก็วิ่งเข้าห้องน้ำไป ทันที เค้าตกใจและวิ่งตามมาอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ทันแล้วเพราะผมล๊อคห้องน้ำได้ทัน เค้าพยายามถีบประตูแต่ไม่ทันจึงขู่ผมว่าจะนั่งรออยู่ข้างนอกทั้งคืน จะรอเชือดผมจนได้ไม่ว่าผมเปิดประตูเมื่อไหร่

ระหว่างอยู่ในห้องน้ำ ตกใจกับเหตุการณ์เฉียดตายที่เจอ หันซ้ายหันขวาหาทางหนี ถ้าเค้าพังประตูเข้ามา ตาก็หันไปเห็นซองใบมีดโกนวางที่เคาเตอร์ห้องน้ำ ที่ซองมันมีสติ๊กเกอร์เล็กๆบอกราคาและสัญลักษณ์ของ 7/11 เค้าคงซื้อตอนเข้าไปซื้อเบียร์และถุงยาง นี่ผมหยิบยื่นเงินให้มัจจุราชเดินเข้ามาในชีวิตผมเองหรือนี่ ผมนี่โง่จริงๆ แสดงว่าเค้าเตรียมตัวมาปล้นผมจริงๆ เค้าเป็นมิจฉาชีพที่ดูผมเป็นเหยื่อตั้งแต่แรกพบ และยิ้มนั้นอาจจะเป็นยิ้มที่ดีใจเพราะเจอเหยื่อแล้วในคืนนี้

15 นาทีผ่านไป ด้านนอกเงียบเสียงผมจึงแง้มประตูออกไปดู ประตูห้องผมเปิดอยู่ไม่มีคนในห้องแล้ว ผมรีบปิดห้องทันทีต่อสายโทรศัพท์แล้วคิดจะโทรไปที่โอเปอร์เรเตอร์เพื่อแจ้ง อะไรซักอย่าง เสียงโทรศัพท์ดังแค่ตื๊ดเดียว ก็มีเสียงปลายสายรับผมจุกในคอพูดอะไรไม่ออกไม่รู้จะแจ้งเค้าว่าไงดี จึงบอกเค้าว่าไม่มีอะไรแล้ววางหูไปเฉยๆ แค่ได้ยินว่ายินดีให้บริการก็รู้สึกว่าความปลอดภัยในชีวิตผมกลับมาแล้ว

ผมเดินไปชะโงกดูนอกหน้าต่าง คิดว่าอาจเห็นเค้าวิ่งหนีไปทางไหน ก็มองไม่เห็นและทุกอย่างที่ถนนเบื้อล่างก็ดำเนินไปตามปกติ คืนนี้สิ่งที่ผมสูญเสียไปคือ เงิน 5,000 บาท สร้อยคอทองคำ 1 บาท แหวนทองเกลี้ยง 3 สลึง และโทรศัพท์มือถือ 1เครื่อง รวมๆแล้วเยอะพอสมควร แต่โชคดีที่เค้าทิ้งกระเป๋าผมไว้บัตร ATM ของผมสามารถเนรมิตทุกอย่างที่ผมเสียไปในคืนนี้ได้ทันทีที่ร้านทองเปิดพรุ่ง นี้ แต่สิ่งที่ผมได้กลับคืนมาคือ ชีวิต

ชีวิตที่ผมไม่เคยพึงพอใจ ชีวิตที่ผมบอกว่าไม่มีอะไรดีและน่าเบื่อหน่าย สุดท้ายผมก็เข้าใจว่า การมีชีวิตอยู่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่มี นั่นทำให้ผมหาอะไรต่อมิอะไรได้อีกหากผมยังมีลมหายใจอยู่ เพียงแค่ผมรู้ในสิ่งที่ผมอยากจะได้เท่านั้น มันไม่อยากหรอกแค่คิดว่า อะไรที่อยากทำก่อนตายเท่านั้น ผมก็มีแรงผลักดันในการอยู่ต่อแล้ว ผมควรขอบคุณเหตุการณ์ในคืนนี้ ไม่ว่าอะไรที่เจอในชีวิตต่อจากนี้ ก็ไม่หนักไปสำหรับผมที่ต้องเผชิญแล้ว ขอแค่ผมมีชีวิตอยู่ ผมก็คิดว่าผมจะทำให้สิ่งที่ไม่ดีสิ่งที่ไม่มีให้เปลี่ยนเป็นดีขึ้นและมีได้ ในอนาคตครับ.
Join My Group
 Email to  : biboythai-subscribe@yahoogroups.com
หนังสือเกย์มือสองราคาถูก ซีดีเบื้องหลังถ่ายแบบ อัลบั้มลับเฉพาะนายแบบ
www.sanamluangonline.com

0 comments:

Blog Archive