"มดดำ"บอก"ฟิล์ม"เครียดจัด หลังเฮียฮ้อพักงานยาว พิธีกรฝีปากจัดสำนึกผิดแพร่ข่าว บอกรับกรรมของตัวแล้ว

Monday, September 20, 2010




เว็บไซต์ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า   เมื่อ 20 ก.ย. ดีเจพิธีกรคนดัง มดดำ-คชาภา ตันเจริญ ให้สัมภาษณ์ที่แฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน หลังตกเป็นข่าวว่า เป็นคนปล่อยข่าวเรื่องฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ทำดาราสาวแอนนี่ บรู๊ค ท้อง ว่า

"คงไม่ได้เป็นคนปล่อยข่าวอะไร อย่างที่บอกมดดำเอาข่าวจากที่เขามีกระแส อยู่ และมีข่าวแบบนี้ออกมาตั้งนานแล้ว ถามว่ารู้เรื่องมาก่อนไหม ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย จนโทร.ไปเช็คกับพี่หนุ่ม-กรรชัย ว่าเรื่องราวเป็นยังไง พี่หนุ่มก็บอกว่ามีข่าวลงในทวิตเตอร์แล้ว ครั้งนี้รู้สึกซีเรียสมาก เพราะคิดว่าเป็นเรื่องชีวิตครอบครัว ซึ่งก่อนหน้านี้หลายคนโทร.ไปหาฟิล์ม ติดต่อไม่ได้ จนในที่สุดเมื่อวานได้คุยกับฟิล์มได้เมื่อวาน ถามว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง เขาก็บอกว่าไม่ไหวจริงๆ ตัวน้องเองก็เครียดมาก "

มดดำกล่าวด้วยว่า "กับฟิล์มได้เคลียร์หมดแล้วยังถามว่าเป็นอะไรยังไง ก็ให้กำลังใจไปเยอะเหมือนกัน และได้บอกฟิล์มว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจไปทำเรื่องอะไรอย่างนั้น มันเป็นข่าว จะไม่ให้พี่พูดก็ไม่ใช่ บอกว่าเดี๋ยวก็ดีขึ้นเวลาที่ตกก็ตกสุดๆ อย่างนี้แหละ ถึงเวลาก็ดีขึ้น ถามว่าสรุปยังไงเขาก็บอกรอตรวจดีเอ็นเออย่างเดียว"


ถามว่า ทราบข่าวเรื่องที่อาร์เอสระงับงานฟิล์มหรือเปล่า มดดำกล่าวว่า "ทราบ รู้มาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เมื่อคืนฟิล์มโทร.มาหาตอน 4 ทุ่ม ทำไมเราไปฟังความฝ่ายเดียวหรือเปล่าทำไมไม่รอให้ฟิล์มกลับมาก่อนดีกว่าไหม เพราะตอนนี้เขาไม่ได้อยู่กทม.กลับไปบ้านที่สระบุรี"


"เท่าที่คุยกับฟิล์มเรื่องที่น้องเขา(แอนนี่) บอกว่าขับรถไปคลอดเองที่โรงพยาบาล แต่ที่ฟังคือคนที่พาไปคลอดคือผู้จัดการของฟิล์ม และคนที่พาไปฝากท้อง คือแม่ของฟิล์ม ซึ่งทำไมเราไม่รออีกสักแป๊บ เผื่อการกลับมาอีกครั้งจะมีหลักฐานอะไร ซึ่งเขาก็พูดตั้งแต่ต้นแล้วว่าถ้าเป็นลูกของเขาก็จะรับ ที่พูดแบบนี้ไม่ได้จะพูดปกป้อง แต่บางทีเราก็รู้สึกผิดที่พูดข่าวนี้ออกไป ซึ่งมันก็เป็นหน้าที่ แต่เท่าที่คุยเขาก็บอกว่าจะไม่พูดอะไรแล้ว เท่าที่รู้จักกับฟิล์มมารู้สึกว่าจะสลดสุดกับเรื่องนี้ พูดว่าตอนนี้ผมก็รับกรรมของผมแล้ว"


นักข่าวเปลี่ยนถามเรื่องข่าวลือ "กฤษณ์-มาช่า" เลิกกันแล้ว มดดำกล่าวว่า "จริงๆ เหรอ เห็นกฤษณ์ยังลั้ลลาอยู่ปกติ ทำงานอยู่ด้วยกันเช้า-เย็นยังเห็นคุยโทรศัพท์กันอยู่เลย อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ด้วยความที่กฤษณ์เป็นคนที่หน้าตายสุดๆ เลยไม่ค่อยได้รู้เรื่องกฤษณ์เลยจริงๆ ไม่ค่อยได้คุยเรื่องส่วนตัวกันเท่าไหร่ ก็ยังเห็นอยู่ด้วยกัน เขาเพิ่งไปปฏิบัติธรรมกับพี่ช่ามาที่นครนายก ไม่น่าที่จะเลิก"


ขณะที่ฝั่งแอนนี่นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ผู้บริหารอาร์เอสแถลงข่าว แอนนี่ได้เปลี่ยนเพลงรอสายในโทรศัพท์มือถือของตัวเองใหม่เป็นเพลง "โกหกหน้าตาย" ซึ่งท่อนฮุคของเพลงมีใจความว่า "จริงๆเธอนะเหรอ เธอรู้เต็มอก ไยจึงมาเพ้อพก โกหกหน้าตาย ใจนึงก็รัก จับจิตฝังใจ ใจนึงก็แสนจะแค้นเธอ"

ต่อมา แอนนี่ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่าจะไม่ตรวจ ดีเอ็นเอ และน่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้สำหรับทั้ง 2 ฝ่าย แต่ไม่บอกว่าจะยุติปัญหาดังกล่าวด้วยวิธีการใด
 

รายงานข่าวแจ้งว่าก่อนหน้าจะถูกพักงานฟิล์มยังอยู่ในระหว่างกำกับละครชุด บันทึกกรรมตอน "โค้งสุดท้าย" มีกำหนดแพร่ภาพทางช่อง 3 ซึ่งถ่ายทำไปเกือบจบแล้ว เหลืออีกแค่บางฉากซึ่งยังไม่ทราบว่าจะมีการถ่ายทำอีกเมื่อไหร่

นอกจากนี้ใน http://twitter.com/FilmFamily ยังมีข้อความจากฟิล์ม-รัฐภูมิมาถึงแฟนคลับที่ยังเป็นกำลังใจให้อย่างหนาแน่น ว่า


"ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในตัวฟิล์ม แล้วอย่าร้องไห้ เพราะว่าน้ำตาของทุกคนจะทำให้ผมอ่อนแอลง ตอนนี้ผมเข้มแข็งดี และขอให้รู้ไว้ว่าใจเราตรงกัน"
 

ทางด้านนางจันทร์คำ มีเลข มารดาของแอนนี่ กล่าวที่บ้านพักในอ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ภายหลังบริษัทอาร์เอสฯสั่งระงับงานฟิล์มทั้งหมดว่า รู้สึกสงสาร แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไร เป็นเพราะฟิล์มไม่ยอมไปตรวจดีเอ็นเอตั้งแต่แรกที่บุตรสาวตั้งท้อง ได้บอกกับลูกสาวให้เลิกติดต่อกับฟิล์มทันที เพราะเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้มีการตรวจดีเอ็นเอเกิดขึ้นอีกแล้ว ต่างคนต่างอยู่กันดีกว่า และจะบอกกับแอนนี่ว่าไม่ต้องไปเรียกร้องอะไร ให้จบๆกันไป และแยกทางกันเป็นดีที่สุด

"อยากวอนสังคมให้สงสารแอนนี่ อยากให้มีงานทำ และมีงานแสดงบ้าง จะได้มีรายได้นำเงินมารักษาดิฉันที่ป่วย และที่สำคัญที่สุดจะได้มีเงินเลี้ยงดูหลาน" นางจันทร์คำกล่าว
 

ผู้สื่อข่าวสระบุรี เดินทางไปยังบ้านสวนริมน้ำแม่น้ำป่าสัก ต.เมืองเก่า อ.เสาไห้ จ.สระบุรี บ้านพัก"ฟิล์ม รัฐภูมิ" เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน แต่ไม่พบฟิล์ม มีเพียงนายเสริมศักดิ์ โตคงทรัพย์ อายุ 58 ปี หรือพ่อตุ๊ บิดาของฟิล์ม  ออกมาต้อนรับพร้อมนำชมภายในบ้านที่จัดทำเป็นสวนสมุนไพร สวนผลไม้ริมแม่น้ำป่าสัก มีเรือเจ๊ตสกี สปีดโบ๊ท สกีน้ำ ที่ฟิล์มใช้เล่นในแม่น้ำป่าสักทุกครั้งที่กลับมาพักผ่อนบ้านสวนริมน้ำหลัง นี้
 

นายเสริมศักดิ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องขึ้นมาก็ยังไม่ได้เจอกันเลย แต่ติดต่อกันทางโทรศัพท์ ล่าสุดฟิล์มมาที่บ้านสวนริมน้ำป่าสักแห่งนี้เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อร่วมงานทอดผ้าป่าวัดในหมู่บ้าน "ตอนนี้พ่อตุ๊ รู้สึกสงสารและเป็นห่วงลูก มาก แต่เชื่อว่าลูกจะสามารถแก้ปัญหาได้ เนื่องจากมีผู้ใหญ่คอยให้คำปรึกษาและดูแลอยู่ โดยเฉพาะบริษัทอาร์เอส.ต้นสังกัดของฟิล์ม แต่ก็ยอมรับว่าเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ฟิล์มเคยบอกว่ามีผู้หญิงโทรศัพท์มาบอกว่าท้องกับฟิล์มได้ 3 เดือน ก็รู้สึกตกใจเหมือนกันแต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร ก็ให้ฟิล์มดูแลและช่วยเหลือเบื้องต้น หลังจากนั้นเรื่องทั้งหมดก็เงียบไป กระทั่งมาเป็นข่าวหลังจากทราบว่าผู้หญิงคนดังกล่าวก็เป็นดาราเหมือนกัน"นาย เสริมศักดิ์กล่าว
 

นายเสริมศักดิ์กล่าวว่า รู้สึกสงสารเห็นใจทั้งฟิล์มและแอนนี่ ตอนนี้ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายอะไรได้มากนัก ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของต้นสังกัดและผู้จัดการส่วนตัว อย่างไรก็ตาม อยากให้ทั้งสองคนคิดและตรึกตรองใช้เหตุผล ไม่อยากให้ใช้อารมณ์และความรู้สึกเป็นการตัดสินใจ
 

"ผมและครอบครัวพร้อมจะรับผิดชอบและเลี้ยงดู หากแอนนี่จะเห็นแก่เด็กและทำความจริงให้ปรากฏ หากเป็นลูกของคนทั้งสองจริง ผมก็จะดีใจมาก เพราะอยากมีหลานอยู่แล้ว เนื่องจากเหงามาก พี่ชายของฟิล์มที่แต่งงานไปนานแล้ว ก็ยังไม่มีหลานให้ แต่ตอนนี้เป็นห่วงจิตใจของลูกชายมาก" พ่อฟิล์มกล่าว

ก่อนหน้านี้ เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ บิ๊กบอสค่ายอาร์เอส ต้นสังกัดของพระเอกนักร้อง ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ แถลงข่าวเมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 20 ก.ย. ถึงอนาคตการทำงานของนักร้องหนุ่ม หลังจากมีข่าวครึกโครมถึงความสัมพันธ์กับ แอนนี่ บรู๊ค ดาราสาว จนมีลูกชายวัย 3 เดือนด้วยกัน ว่า ส่วนตัวแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องของคนสองคนที่รู้ดีที่สุด ไม่มีอะไรซับซ้อน ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีใครรู้ความจริง มีแค่คนสองคนที่รู้ แต่ในความเห็นส่วนตัวแนะนำให้ตรวจดีเอ็นเอ ถ้าเป็นลูกฟิล์มจริงฝ่ายชายก็ต้องรับผิดชอบ

"อาร์เอสจะระงับงานของฟิล์มทุกชิ้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อให้ฟิล์มไปแก้ไขและจัดการปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้เรียบร้อยเสียก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน"


นายสุรชัย กล่าวว่า งานที่ฟิล์มถูกระงับมีหลักๆ 3 งาน คือ อัลบั้มล่าสุด เฟซทูเฟซ ที่ร่วมงานกับศิลปินเกาหลี บราวน์ อาย เกิร์ล รวมทั้งระงับคิวการถ่ายภาพยนตร์บางกอก กังฟู ซึ่งตนมีความคิดอาจเปลี่ยนตัวนักแสดงนำ และระงับการบินไปร่วมงานคอนเสิร์ตเอเชีย ซอง ที่ประเทศเกาหลี


ทั้งนี้ นายสุรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากแอนนี่แถลงข่าว เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 ก.ย.) ฟิล์มได้โทรศัพท์มาหา โดยมีอาการเครียดมาก พร้อมกับร้องไห้ฟูมฟาย ขอโทษตนและขอโทษภรรยาของตน ตนก็ได้บอกว่า เป็นลูกผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับ ตนก็ได้แนะนำให้ไปตรวจดีเอ็นเอ ส่วนทางฝ่ายหญิงจะตรวจหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องของเขา แต่เราต้องเดินหน้าทำความจริงให้กระจ่าง


"เมื่อวานได้โทรบอกเรื่องที่ระงับงานทั้งหมด ซึ่งฟิล์มก็ยอมรับในการตัดสินใจครั้งนี้" นายสุรชัย กล่าว


ประธานเจ้า หน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากเกิดเรื่องฟิล์มได้โทรศัพท์พูดคุยกับตนเป็นระยะ โดยฟิล์มยืนยันว่าที่แอนนี่แถลงข่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริงของฟิล์ม ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญ


เมื่อนักข่าว ถามถึงอนาคตในวงการบันเทิงของนักร้องหนุ่ม นายสุรชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องของประชาชนตัดสินใจ ว่าจะให้โอกาสฟิล์มหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องของทางอาร์เอสตัดสินใจ แต่ส่วนตัวรู้สึกหนักใจ ส่วนเรื่องสัญญาฟิล์มกับอาร์เอสนั้นไม่ใช่ประเด็น ฟิล์มเป็นเหมือนลูกตน เช่นเดียวกับนักร้องอาร์เอสทุกคน ทำดีก็ชม ทำไม่ดีก็ติด ทำผิดก็ต้องตี


"เฮีย ฮ้อ"ทวิตเปรยผู้ชายทำให้เด็กออกมาต้องรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า หลังการแถลงข่าว เมื่อเวลา 14.00 น. นายสุรชัย ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ว่า "เรื่องของฟิล์ม-แอนนี่เป็นเรื่องส่วนตัวของ 2 คนไม่มีใครจะรู้ข้อเท็จจริงได้และจะเชื่อใครได้หรือ? ควรทำเรื่องราววันนี้ให้ดีถูกต้องเหมาะสมที่สุด ทำพลาดแล้วมีโอกาสแก้ไขต้องทำ ไม่ยากเลยเพียงแต่จะมีความจริงใจบริสุทธิ์ใจหรือไม่อย่าทำผิดซ้ำสร้างบาปให้ เด็ก อย่างน้อยเขาควรได้รู้ว่าใครเป็นพ่อ"

"ผู้ชายคนนึง หากมีส่วนทำให้เด็กคนนึงเกิดมาก็ควรต้องรับผิดชอบ แต่หากผู้ชายคนนึงต้องยอมรับสิ่งนี้โดยที่ยังคาใจก็น่าเห็นใจ ความจริงจะปกป้องทุกคน"

0 comments:

Blog Archive