เขาชนไก่ ตอนที่ 18

Monday, November 24, 2008

ตอนที่ 18
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดนรกดังขึ้นอีกครั้ง เป็นเสียงที่นักศึกษาวิชาทหารทุกนายไม่อยากได้ยินเลย หลังจากที่ได้พักกันมานานโข ก็ได้เวลาฝึกในภาคบ่ายอีกแล้ว ผมและเพื่อนๆ รีบวิ่งมายังที่รวมพลแล้วจัดแถวด้วยความรวดเร็ว แต่อาจจะเป็นเพราะพักนานไปหน่อย ทำให้การเข้าแถวเกิดขลุกขลักขึ้น กว่าจะจัดแถวเรียบร้อยก็กินเวลานานพอสมควร ครูฝึกเลยสั่งทำโทษให้วิดพื้นเรียกน้ำย่อยซะ 30 ครั้ง
" ทั้งหมด วิดพื้นท่าเตรียม ปฏิบัติ ! "
ทุกคนลงไปนอนพังพาบ เอามือและปลายตีนยันพื้น แล้วแหกปากว่า
" เตรียม! "
" 30 ครั้ง ปฏิบัติ! "
ทุกคนลงมือวิดพื้นด้วยความรวดเร็วพร้อมกับนับไปด้วย เหงื่อวัยหนุ่มของนักศึกษาวิชาทหารทุกนายไหลย้อยจากหน้า ต้นคอ ผ่านแผ่นอกหนาเนียนหยดลงพื้นเป็นสาย จนพื้นแฉะไปหมด เป็นภาพที่น่าดูมากจริงๆ หลังจากวิดพื้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมและเพื่อนๆ หอบแฮ่กๆ ลิ้นห้อยเหมือนหมาด้วยความเหนื่อย เหงื่อแตกท่วมตัว เสื้อกางเกงแฉะไปหมดเนื่องจากอากาศร้อนHereๆ แต่ทุกคนก็กลับมาฟิตปั๋งกันอีกครั้ง พร้อมสำหรับการฝึกในภาคบ่าย
บ่ายนี้เป็นการฝึก " การรับของทางอากาศ " " ของ " ในที่นี้คือเสบียงที่ถูกส่งมาทางเครื่องบิน สำหรับทหารที่ต้องเดินป่าเป็นเวลานานๆ แล้วขาดแคลนอาหาร ก็จะรับเสบียงจากเครื่องบิน
ขั้นตอนการรับของทางอากาศ ได้แก่
1. จัดกำลังพล แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ
2 สำรวจจุดรับของ
3 เข้าประจำตำแหน่งจุดส่งของ
4 ติดต่อทางวิทยุกับเครื่องบินที่ส่งของมาว่า เราอยู่ตำแหน่งไหน
5 จุดสัญญาณบอกตำแหน่ง
6 รวมพลเมื่อรับของเสร็จ
ครูฝึกอธิบายขั้นตอนเหล่านี้พอคร่าวๆ แล้วก็จัดแบ่งกำลังพลทั้งกองร้อยเป็นส่วนๆ และแบ่งหน้าที่รับผิดชอบให้ ผมและเพื่อนๆ ในกองร้อยอินทรีย์ มีหน้าที่ระวังป้องกันข้าศึกไม่ให้บุกเข้ามา ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่ยืนตามจุดต่างๆ ที่ครูฝึกสั่ง แต่ต้องกระฉับกระเฉง วิ่งให้เร็ว ไปให้เร็ว ไม่ทำเฉื่อยชาให้ครูฝึกเห็น ไม่งั้นจะโดนวิดพื้น การฝึกในวันนี้เป็นแค่การซ้อม ยังไม่ได้รับของจริงๆ จึงต้องใช้ " เครื่องบินมนุษย์ " แทน คือให้นักศึกษาวิชาทหารคนหนึ่งนอนคว่ำ ให้อีก 2 คนยกตัวเขาขึ้น คนหนึ่งยกตรงหน้าอก อีกคนยกตรงสะโพก จนตัวลอย สมมุติให้เป็นเครื่องบิน บินไปบินมาด้วยการแกว่งแขนอีกด้วย มันดูปัญญาอ่อนยังไงไม่รู้ แต่ก็ถือว่าแค่ซ้อม ครูฝึกก็ยืนดู แล้วก็วิจารณ์เครื่องบินแต่ละลำไปเรื่อยๆ ผมยืนอยู่กลางแดดเปรี้ยงๆ รู้สึกร้อนจนอยากจะแก้ผ้า มันร้อนสุดจะบรรยายจริงๆ ยืนแล้วรู้สึกว่าตีนทั้ง 2 ข้างแทบจะลุกเป็นไฟ อาการปวดข้อตีนก็กำเริบหนักขึ้น คราวนี้มันปวดลามไปทั่วถึงฝ่าตีน และนิ้วตีน ผมหน้านิ่วด้วยความปวด พยายามกัดฟันอดทนและคิดว่าไม่ร้อนๆๆ เพื่อให้สบายใจขึ้น แต่ไม่ได้ผลเลย มันกลับระอุไปทั้งตัวจนรู้สึกราวกับว่าควันจะออกมาทางปาก ร่างกายกำลังจะไหม้ โคตรทรมานจริงๆ กำลังยืนคิดอะไรเพลินๆ ก็พอดีครูฝึกเห็นว่าแถวของพวกเราไม่เรียบร้อย ก็เลยตะโกนลั่น
" แถวไม่เรียบร้อย ! หมอบ หมอบลงไป! เร็วๆ "
ทุกคนครางฮือ แต่ก็ต้องหมอบลงไป ผมกัดฟันนอนหมอบราบลงไป Kและไข่ทั้งพวงสัมผัสกับพื้นดินร้อนๆ อีกแล้ว เบื่อครูฝึกจริงๆ เอะอะอะไรก็สั่งหมอบตลอด ผมโดนให้หมอบมาตั้งแต่ปี 3 จนชิน เลยไม่รู้สึกอะไร แต่เพื่อนบางคนขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ผมเห็นแล้วอยากจะบอกพวกเขาจังว่า อดทนไว้เพื่อน อดทนไว้ เดี๋ยวการฝึกก็จบแล้ว
หมอบไปซัก 2 นาที จนไข่เกือบสุก ครูฝึกก็สั่งลุกและให้ฝึกต่อ การฝึกดำเนินไปอย่างเชื่องช้า ผมไม่ต้องทำอะไรมาก ส่วนใหญ่จะยืนเฉยๆ ไม่นานก็ฝึกเสร็จ แล้วครูฝึกก็ให้พัก ตอนนี้บ่ายแก่แล้ว อากาศเริ่มคลายความร้อนลงบ้าง ผมชวนเพื่อนๆ ไปนั่งพักใต้ต้นไม้ ไอ้ธีระและเพื่อนคนอื่นๆ ขอตัวไปเยี่ยว ผมเลยนั่งอยู่คนเดียว
ขณะที่ผมกำลังนั่งขาถ่างแผ่ไข่อยู่ใต้ต้นไม้ และเอาหมวกพัดหน้าอยู่นั้น ไอ้กรก็เดินเข้ามาหาผม แล้วทรุดตัวลงนั่งข้างผม หน้าตามันจ๋อยๆ ผมมองหน้ามันแล้วพูดว่า
" ไงวะกร เป็นไรวะ ทำหน้าแปลกๆ "
ไอ้กรถอนหายใจดัง แล้วพูดช้าๆ
" กูโดนครูฝึกทำโทษว่ะ ให้วิดพื้นตั้ง 30 ที "
" แล้วไงวะ กูก็โดน ใครๆ เค้าก็โดนกันทั้งนั้น ไม่เห็นแปลกเลย "
ไอ้กรมองหน้าผมแล้วพูดต่อ
" แต่กูโดนทำโทษต่อหน้าเพื่อนว่ะ ครูฝึกแม่งทำโทษกูคนเดียว มันบอกว่ากูอืดอาดที่สุดในส่วนนั้น เลยให้กูวิดพื้นโชว์เพื่อนกูตรงนั้นเลย กูยอมรับว่ากูอายเพื่อนว่ะ เป็นถึงหัวหน้ากองพัน แต่กลับโดนทำโทษต่อหน้าเพื่อนทั้งส่วน กูเห็นเพื่อนบางคนแม่งมองกูวิดพื้น แล้วยิ้มเยาะเย้ยกูด้วย กูอาย "
ผมหัวเราะแล้วตบไหล่มันเบาๆ แบบแมนๆ
" โธ่ไอ้ห่า มึงคิดมากไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย กูก็เคยโดนแบบมึง โดนมามากกว่ามึงด้วย โดนทำโทษต่อหน้าเพื่อนๆ เหมือนมึงน่ะแหละ ตอนที่กูเรียนปี 3 ที่ศูนย์ฝึกร.ด. ใหญ่ แถววิภาวดีน่ะ ครูฝึกแม่งเรียกกู แล้วสั่งทำโทษกูต่อหน้าเพื่อนนักศึกษาวิชาทหารตั้ง 5 คน ให้วิดพื้นตั้ง 20 ที แต่กูก็ยอมโดนทำโทษโดยดี แล้วไงวะ เพื่อนกูไม่เห็นจะล้อหรือเยาะเย้ยอะไรกูเลย ทุกคนเห็นเป็นเรื่องปกติและคิดว่ากูแค่พลาดไปก็เท่านั้น มึงรู้อะไรมั๊ย กูน่ะโดนทำโทษมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว โดนครูฝึกด่ามาก็เยอะ แต่กูทำยังไงรู้มั๊ย "
ผมหยุดพูด ไอ้กรเลยถามผม
" ทำไงวะ "
" อดทนไงวะ กูอดทนลูกเดียว "
ผมพูดแล้วยิ้มอย่างขมขื่น ไอ้กรมองตาผมแล้วพูดต่อ
" มึงไม่อายเหรอวะ "
" อายทำไมวะ เพื่อนกันทั้งนั้น กูเชื่อนะว่า นักศึกษาวิชาทหารทุกคน ไม่มีคนไหนที่ไม่เคยโดนทำโทษ จริงๆ นะSad อย่าคิดอะไรมาก กูโดนทำโทษมามากกว่ามึงเยอะ "
ไอ้กรยิ้มให้ผม
" คุยกับมึงแล้วกูสบายใจขึ้นเยอะเลย มึงเป็นคนที่เข้มแข็งมากกว่าที่กูคิดไว้ตอนแรกซะอีก กูชอบคนแบบมึง "
" กูถือคติ อดทนเข้าไว้ ปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น สุดท้ายทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ด้วยดี "
ผมพูดด้วยเสียงดังฟังชัด ไอ้กรคลำหัวไหล่ผมเบาๆ แล้วเขยิบมานั่งติดกับผม ปากก็พูดไปด้วย
" มึงนี่เท่ห์จริงๆ ว่ะ อย่างนี้สิถึงจะเรียกว่าเป็นลูกผู้ชาย เข้าใจล่ะ กูจะอดทนให้ได้แบบมึงนะ "
ผมตบหลังไอ้กรแรงๆ แล้วตอบว่า
" เยี่ยม! เพื่อนรัก มึงก็เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งเหมือนกันนี่Sad สู้ๆ นะมึง กูรู้มึงทำได้อยู่แล้ว หัวหน้ากองพัน "
ไอ้กรยิ้มให้ผม แล้วเรา 2 คนก็นั่งคุยกันต่อ ไม่นานเพื่อนๆ ของผมก็กลับมาจากเยี่ยว ทุกคนจึงนั่งล้อมวงคุยกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งครูฝึกเป่านกหวีดเรียกรวม
……………………………………………….
พอเราเข้าแถวเรียบร้อยแล้ว ก็เดินกลับฐานเพื่อแดกข้าว มื้อนี้ผมแดกกับไอ้บอม จำไม่ได้ว่าแดกอะไร แต่กับข้าวก็ซ้ำๆ ไม่มีอะไรใหม่ ผมแดกข้าวด้วยมือคล่องแล้ว แต่ก็ยังไม่วายช้ากว่าไอ้บอม พอแดกอิ่มแล้วก็ล้างหม้อ ก่อนจะวิ่งไปเยี่ยวที่ห้องน้ำสังกะสี แล้วกลับมานั่งพักกับไอ้ธีระ รอเวลาฝึกในตอนกลางคืน ระหว่างนั้นผมก็ถอดรองเท้าถุงเท้าออก แล้วนั่งนวดตีนไปด้วย ตีนของผมเริ่มบวมมากขึ้นๆ ปวดด้วย ส้นตีนก็แตกเป็นริ้วๆ มากกว่าเมื่อเช้าเนื่องจากวันนี้เดินและวิ่งมากเกินไป ฝ่าตีนนี้แดงก่ำเลย นิ้วตีนก็งอแทบไม่ได้ ผมพยายามนั่งลูบตีนอย่างทะนุถนอม พลางคิดในใจว่า อย่าเป็นอะไรไปนะ ไม่งั้นกูตายแน่ๆ ขาดตีนก็เหมือนขาดใจ ในการเข้าค่ายครั้งนี้ ตีนเป็นอวัยวะที่สร้างปัญหาให้ผมมากที่สุดเลยทีเดียว
" โอ้โห ตีนคนหรือตีนควายวะเนี่ย ไอ้Hereหนุ่ม แม่งบวมHereๆๆ เลย "
ไอ้ธีระพูดหลังจากที่จ้องตีนผมอย่างพินิจพิจารณา ผมยิ้มเหนื่อยๆ มือก็นวดฝ่าตีนไปด้วย
" ตีนคนสิวะ ไอ้Hereกูปวดชิบหายเลย นวดเท่าไหร่ๆ ก็ไม่หายปวด แม่งงงง "
ไอ้ธีระตบหัวเข่าผมดังฉาดแล้วพูดว่า
" มึงเอายานวดตีนมามั๊ย "
ผมขมวดคิ้วนิดนึง
" ไม่ได้เอามาว่ะ "
" ไอ้Hereมึงนี่ไม่รอบคอบเลย รู้ทั้งรู้ว่าต้องใช้ตีนฝึกหนักอย่างนี้ เสือกไม่เตรียมยานวดมาอีก เอาเถอะ กูเอามาเยอะ เดี๋ยวคืนนี้กูจะแบ่งให้มึงนวดด้วย "
" จริงดิวะ โหเพื่อน มึงใจมากเลย ขอบใจมึงมากนะ กูรักมึงที่สุดเลยว่ะ "
ไอ้ธีระเอามือบีบต้นแขนของผมแล้วพูดเสียงเบาลง
" ไม่เป็นไร เพื่อนขาดเหลืออะไร ถ้ากูมี กูก็ต้องแบ่งให้ แต่กูมีข้อแลกเปลี่ยนนะSad "
" ข้อแลกเปลี่ยนอะไรวะ "
ผมถามด้วยความสงสัย ไอ้ธีระยิ้มแปลกๆ
" มึงต้องให้อะไรกูอย่างนึง แลกกับยานวดตีนที่กูจะให้มึงยืม "
ผมฟังแล้วก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นกว่าเดิม รีบถามต่อ
" มึงจะเอาอะไรจากกู "
" เดี๋ยวถึงเวลา มึงก็รู้เอง กูยังไม่เอาคืนนี้หรอก กูเอาคืนพรุ่งนี้ "
ผมจ้องหน้ามัน พลางคิดในใจว่า มันจะเอาอะไรจากกูวะ
" มึงจะเอาเงินกูรึเปล่าวะ ไอ้ระ "
ผมแกล้งถามลองเชิงมัน ไอ้ธีระรีบตบไหล่ผมแรงๆ แล้วพูดเสียงดัง
" ไม่ใช่เว้ย ไม่ใช่ มึงไม่ต้องกังวล กูไม่เอาเงินเพื่อนฝูงหรอก กูเอาอย่างอื่น "
" อะไรวะ "
ไอ้ธีระยังคงยิ้มอย่างมีเลศนัยเหมือนเดิม ไม่ว่าผมจะเค้นถามมันมากขนาดไหน มันก็พูดแต่ว่า
" เดี๋ยวคืนพรุ่งนี้ มึงก็รู้เอง "

0 comments:

Blog Archive