ตอนที่ 21
ตี 5
ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
เสียงนกหวีดปลุกไอ้ธีระที่กำลังนอนหลับสบายให้ลืมตาตื่นขึ้น มันรีบลุกขึ้นนั่งแล้วเขย่าตัวผมแรงๆ
" เฮ้ย ไอ้หนุ่ม ได้เวลาตื่นแล้วโว้ย "
ผมลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วค่อยๆ ชันกายขึ้นนั่งด้วยความยากลำบาก ในสมองมึนตึ้บไปหมด กี่โมงแล้ววะเนี่ย ยังนอนไม่เต็มอิ่มเลยต้องตื่นซะแล้ว ผมพยายามสลัดความง่วงออกจากตัว แล้วบีบแขนบีบขาเบาๆ อาการปวดตามส่วนต่างๆ ในร่างกายของผมยังไม่หาย ดูท่าจะหนักขึ้นกว่าเดิมด้วย ผมรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว กบาลก็ปวด แขนก็ปวด ขาก็ปวด ตีนก็ปวด ปวดแม่งทั้งตัวเลย แต่ก็จำต้องกัดฟันคลานออกมาจากเต็นท์ตามตูดไอ้ธีระ ที่คลานออกมาจากเต็นท์ก่อนผม แล้ววิ่งไปเข้าแถว
วันนี้เราต้องเดินเข้าป่าไปฝึก " ฐาน 48 ชั่วโมง " คือ 2 วันนับจากนี้ เราต้องใช้ชีวิตอยู่ในป่าจริงๆ และฝึกทำสงครามด้วย เมื่อเราเข้าแถวเสร็จแล้ว ครูฝึกก็เดินตรวจความเรียบร้อยของเราซักครู่ แล้วก็ปล่อยให้ไปแดกข้าว มื้อนี้ต้องทำเวลาในการแดกหน่อยเพราะเราต้องเดินทางเข้าป่าไปอีกไกล ผมก็ก้มหน้าก้มตาแดกๆๆๆ จนอิ่ม เสร็จแล้วก็ไปล้างหม้อกับไอ้ธีระ แล้วจึงนั่งพักรอเวลาเรียกรวมพลอีกครั้ง ช่วงที่พักอยู่นี้ ผมครุ่นคิดถึงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เรื่องระหว่างผมกับไอ้อรรถสิทธิ์ ว่ามันเกิดขึ้นจริงหรือ
ผมรีบเอามือคลำๆ นอกกางเกงบริเวณรูตูด ปรากฏว่ารูตูดของผมยังอยู่ในสภาพดี ไม่โบ๋ไม่กลวง รูตูดยังไม่บาน และผมก็ไม่มีอาการเจ็บตูดเลยซักนิด ผมเอามือออกจากตูดแล้วคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นโดยละเอียดอยู่หลายนาที ในที่สุดผมก็สรุปว่า ผมเจอไอ้อรรถสิทธิ์จริง และได้กอดจูบดูดKกันจริงในห้องน้ำของกองพัน 41 แต่ไม่ได้ทำถึงขั้นเย็ดตูดกัน ผมฝันไปเองว่าผมโดนไอ้อรรถสิทธิ์เย็ดตูด เพราะผมตั้งใจไว้แล้วว่าผมจะไม่ให้ใครมาเย็ดตูดผมตลอดการฝึกที่นี่ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ สามารถฝึกได้ตลอดรอดฝั่ง และเป็นการบำรุงจิตใจให้เป็นลูกผู้ชายด้วย ดีใจจริงๆ ที่รูตูดของผมยังปลอดภัย ! แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจ เลยวิ่งไปที่ห้องน้ำของกองพัน 41 แล้วเข้าไปในห้องน้ำที่เป็นห้องๆ ถอดกางเกงสำรวจรูตูดทุกซอกทุกมุม แล้วผมก็ยิ้มออก เนื่องจากรูตูดของผมยังไม่มีใครมาล่วงล้ำจริงๆ โชคดีไป
ผมเดินออกจากห้องน้ำอย่างสบายใจ พอดีสวนกับไอ้โต้ง ผมรีบหลบหน้ามันเพราะขี้เกียจคุยกับไอ้Hereนี่ แล้ววิ่งกลับมาที่เต็นท์ ใส่เสื้อนอกและเตรียมสัมภาระไว้พร้อม เตรียมเดินทางไกล ไม่นานครูฝึกก็เป่านกหวีดเรียกรวม แล้วทั้งหมดก็ถือปืนเดินเข้าป่าเป็นแถวยาวเหยียด
ผมเดินออกจากห้องน้ำอย่างสบายใจ พอดีสวนกับไอ้โต้ง ผมรีบหลบหน้ามันเพราะขี้เกียจคุยกับไอ้Hereนี่ แล้ววิ่งกลับมาที่เต็นท์ ใส่เสื้อนอกและเตรียมสัมภาระไว้พร้อม เตรียมเดินทางไกล ไม่นานครูฝึกก็เป่านกหวีดเรียกรวม แล้วทั้งหมดก็ถือปืนเดินเข้าป่าเป็นแถวยาวเหยียด
เราเดินไปเรื่อยๆ ตอนเช้าอากาศยังไม่ร้อนมากนัก เดินไปซักครู่ดวงอาทิตย์ก็โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมา ผมเดินถือปืนก้าวฉับๆ ตามตูดไอ้ธีระไปอย่างไม่รู้จักเหนื่อย ถึงแม้จะปวดตีนมากๆ เดินไปพักไป กว่าจะมาถึงฐานก็เกือบๆ 11 โมง นักศึกษาวิชาทหารทุกคนแทบจะหมดสภาพเลยเพราะเดินมาไกลมาก บางคนถึงกับทรุดลงนั่งกับพื้นดิน หอบแฮ่กๆ ลิ้นห้อย เหงื่อไหลไคลย้อย หมดแรงไปตามๆ กัน ผมก็โคตรเหนื่อยแต่ก็อดทนไว้ คิดซ้ำๆ ว่า " ความทุกข์ที่เกินทน จะหลอมคนให้ทนทาน " ถ้าอยากเป็นเกย์ที่ทนทาน ต้องอดทนให้ได้
ครูฝึกสั่งรวมพล แล้วแบ่งหน้าที่รับผิดชอบให้แต่ละคน ดังนี้
กองร้อยอินทรีของผม ประกอบด้วยนศท. 50 นาย แบ่งหน้าที่ดังต่อไปนี้
1. ส่วนบก. ( บัญชาการ ) 10 นาย
2. ส่วนโจมตี 20 นาย แบ่งเป็นโจมตี 1 10 นาย และโจมตี 2 อีก 10 นาย ส่วนโจมตี มีหน้าที่เข้ายึดพื้นที่ เข้าโจมตีข้าศึก และต้องวางในระยะที่สามารถทำการยิงได้โดยทันทีทันใด
3. ส่วนสนับสนุน 10 นาย มีหน้าที่ให้ความคุ้มครองในการถอนตัวของส่วนโจมตี
4. ส่วนระวังป้องกัน 10 นาย มีหน้าที่แจ้งการเข้ามาของข้าศึกให้ฝ่ายเราทราบแต่เนิ่นๆ และระวังป้องกันให้กับส่วนโจมตีและส่วนสนับสนุน
2. ส่วนโจมตี 20 นาย แบ่งเป็นโจมตี 1 10 นาย และโจมตี 2 อีก 10 นาย ส่วนโจมตี มีหน้าที่เข้ายึดพื้นที่ เข้าโจมตีข้าศึก และต้องวางในระยะที่สามารถทำการยิงได้โดยทันทีทันใด
3. ส่วนสนับสนุน 10 นาย มีหน้าที่ให้ความคุ้มครองในการถอนตัวของส่วนโจมตี
4. ส่วนระวังป้องกัน 10 นาย มีหน้าที่แจ้งการเข้ามาของข้าศึกให้ฝ่ายเราทราบแต่เนิ่นๆ และระวังป้องกันให้กับส่วนโจมตีและส่วนสนับสนุน
ในการจัดฐาน กองบก. จะอยู่ตรงกลาง ที่เหลือก็จัดแถวเป็นรูปวงกลมล้อมรอบกองบก. ผมมีหน้าที่เป็นส่วนโจมตี 2 ที่จริงอยากเป็นส่วนบก. มากกว่า เพราะไม่มีหน้าที่อะไรมาก ส่วนโจมตีคงต้องได้ทำอะไรเหนื่อยๆ เยอะแน่นอน พอครูฝึกแบ่งหน้าที่กันครบทุกคนแล้ว ก็ช่วยกันถางไม้หนามมาทำกำแพงบังแดดของแต่ละคนเพื่อกันร้อน แล้วจึงได้เวลาแดกข้าวกลางวัน มื้อนี้เราต้อง " ประกอบอาหารแบบชาวป่า " คือทำแดกกันเอง ถ้ายังจำกันได้จากภาค 1 คงจะทราบว่า ผมเป็นคนที่ทำกับข้าวไม่เป็น! ตอนนี้ก็ยังคงทำไม่เป็นอยู่ ก็เลยอาสาไปหาน้ำมาให้เพื่อนๆ แทน ผมรีบไปรองน้ำจากตู้น้ำดื่มที่ครูฝึกเตรียมมาให้พวกเราโดยเฉพาะ ( นึกว่าจะต้องไปตักเอาตามลำธารซะอีก ก็สบายไป ) แล้วเอากลับมาให้เพื่อนๆ ครูฝึกให้ของสดมาหลายอย่าง ทั้งผัก หมู ข้าวสาร ปลาแห้ง และเครื่องปรุงเช่น น้ำปลา น้ำมันพืช คนอื่นๆ ช่วยกันหาฟืนเอามาก่อไฟ ต้มน้ำ ไอ้สันติกับไอ้ปกป้องรับหน้าที่เป็นพ่อครัว มันทำผัดผักหมู และแกงผักอะไรก็ไม่รู้ ส่วนไอ้บอมก็หุงข้าว พอทำเสร็จแล้วก็เอามาแบ่งกันแดก แกงรสชาติไม่อร่อยเท่าไหร่ ข้าวก็นิ่มไปนิด แต่ผมกับไอ้ธีระซึ่งไม่ค่อยได้ช่วยทำกับข้าวเท่าไหร่ ก็อดไม่ได้ที่จะชมตามมารยาท
" โห อร่อยHereๆ มึง 2 ตัวทำเก่งว่ะ "
ไอ้สันติกับไอ้ปกป้องยิ้มกริ่ม
" ไม่ต้องมายอกูเลยไอ้Here กูรู้พวกกูทำกับข้าวไม่อร่อยหรอก แค่พอแดกได้เท่านั้น "
เมื่อทุกคนแดกเสร็จ ก็นั่งพักให้ข้าวเรียงเม็ด แล้วก็เริ่มปฏิบัติภารกิจ ครูฝึกสั่งให้ส่วนโจมตี 10 นาย ( มีผมติดร่างแหไปด้วย ) และส่วนสนับสนุน 6 นาย เรียกรวมกันว่าหน่วยลาดตระเวน ไปหาข่าวในพื้นที่ ที่จริงก็ไม่มีอะไรมากเพราะภารกิจหลักในการหาข่าวตกเป็นของหัวหน้าส่วนโจมตี ผมเป็นแค่ผู้ติดตาม ก็แค่เดินๆ ตามเขาไป ไม่นานก็เดินกลับฐาน ผมเมื่อยขามากแต่ก็อดทน เข้ามานั่งในที่ของตนเอง รอข้าศึกมาบุก ซักพักก็ได้ยินเสียงระเบิด ตูม! สมมุติให้เป็นระเบิดของข้าศึก ถ้าไประเบิดที่ตรงหน้าของใครต้องยิงปืนปากเปล่าตอบโต้ ระเบิดไปอยู่ตรงหน้าไอ้บอม กับไอ้ปกป้อง คนละครั้ง มัน 2 คนก็แหกปาก ปังๆๆๆ เสียงดัง นอกนั้นก็ไประเบิดที่คนอื่นๆ แต่ไม่ได้มาระเบิดตรงหน้าผม พอระเบิดหมดก็นั่งเงียบๆ กันต่อ ครูฝึกสั่งห้ามพูดคุยกัน ผมก็เลยนั่งมองหน้าเพื่อนๆ รอบตัวไปเรื่อยๆ พยายามสอดส่ายสายตาหาคนหล่อๆ แต่ก็ไม่ค่อยมีเพราะส่วนใหญ่จะหน้าHereๆ กันทั้งนั้น ตัวดำ ผอมสูง ปากหนา หน้าผากกว้าง ตูดปอด บางคนก็เตี้ยล่ำมะขามข้อเดียว หน้าตาไทยแท้ แมนๆ กันทุกคน ไม่มีออกสาวเลยแม้แต่คนเดียว
กองร้อยอินทรีนี่ เป็นกองร้อย " ลูกผู้ชาย " อย่างแท้จริง ผมดีใจครับที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกองร้อยนี้
กำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ มีใครก็ไม่รู้วิ่งพรวดพราดเข้ามาในฐาน ทุกคนตกใจ ไอ้สันติที่สติดีกว่าเพื่อนพอเห็นปั๊บก็รีบยิงปืนปากเปล่าสกัดเอาไว้ก่อนทันที
" ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ "
ไอ้หนุ่มคนนั้นเลยโดนจับเป็นเชลย ผมมองหน้าเชลยหนุ่มอย่างสนใจ หน้าตาหล่อไม่เบา สูง หุ่นดี กล้ามใหญ่ไม่ใช่เล่น เป้าก็ตุง แถมแมนมากๆ ที่กล้าวิ่งเข้ามาในฐานที่พวกเราคุมอยู่อย่างไม่กลัวตาย ครูฝึกชมไอ้สันติที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที และทำให้กองร้อยอินทรีของเราจับเชลยได้ตั้ง 1 คน ครูฝึกถามเชลยคนนั้นว่ามาจากไหน มันบอกว่ามาจากกองร้อยฉลามขาว ครูฝึกจึงควบคุมตัวไว้ซักครู่ ก่อนจะปล่อยตัวไป
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรอีกเลย ผมและเพื่อนๆ ได้แต่นั่งเฉยๆ ก็ดีที่ได้พักบ้าง ผ่านไปราวๆ ครึ่งชั่วโมง ยามที่ตรวจการณ์อยู่รอบนอกวิ่งมาแจ้งครูฝึกว่า กองร้อยฉลามขาวแค้นอินทรีมากที่จับคนของเขาไป 1 คน ทำให้ฉลามขาวต้องอับอายขายหน้า จึงประกาศจะ " แก้แค้น " ครูฝึกนำเรื่องนี้มาประกาศให้ทุกคนได้ทราบ และสั่งให้ระวังตัวไว้ด้วย
ตกเย็น ก็ได้เวลาแดกข้าวอีก กับข้าวก็คือของที่เหลือจากมื้อกลางวันนั่งเอง แต่ก็ไม่มีใครคิดอะไรมาก พากันยัดๆ ข้าวเข้าปากไปจนท้องอิ่ม แล้วจึงแยกย้ายกันไปเยี่ยว และยืดเส้นยืดสายกันบ้าง เสร็จแล้วก็มานั่งเล่นที่ฐาน ผมนั่งพูดคุยกับไอ้ธีระ ไอ้บอม และไอ้กร หัวหน้ากองพัน อย่างเพลิดเพลิน รอเวลาฝึกในภาคค่ำ
" กูร้อนจริงๆ ว่ะ เหงื่อเต็มหลังเลย อยากอาบน้ำ "
ไอ้กรพูดขึ้น ผมกับไอ้ธีระมองตาอย่างรู้กันเนื่องจากเคยพูดเรื่องนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ผมพูดว่า
" กูก็เหมือนกัน ร้อนHereๆ อยากอาบน้ำจะแย่ เมื่อปีที่แล้วเคยได้อาบน้ำเกือบทุกวัน ปีนี้ยังไม่ได้อาบเลยซักครั้งเดียว กูเหนียวตัวไปหมดแล้วว่ะ "
ไอ้ธีระมองหน้าไอ้กร แล้วพูดขึ้นมาบ้าง
" มึงรู้มั๊ยว่า เค้าจะให้พวกเราอาบน้ำตอนไหน "
ไอ้กรส่ายหน้า
" กูก็ไม่รู้ แต่เค้าต้องให้เราอาบแน่ๆ ฝึก 7 วันไม่ได้อาบน้ำเลยนี่ตายแน่ๆ สังคังแดกชิบหายกันพอดี "
" กูอยากอาบน้ำว่ะ "
" กูอยากอาบน้ำว่ะ "
ผมพูดแล้วอมยิ้ม ไอ้บอมกับไอ้ธีระก็แอบอมยิ้มด้วย ตอนอาบน้ำนี่เป็นช่วงเวลาที่เรา 3 คนรอคอยมานานแต่ก็ยังมาไม่ถึงซักที อยากเห็นภาพของนศท. หนุ่มๆ อาบน้ำใส่กางเกงในตัวเดียวเป็นที่สุด คงจะเป็นภาพที่น่าดูมากๆ เลย เรา 3 คนไม่ทันสังเกตุว่า ไอ้กรก็แอบอมยิ้มเช่นกัน…..
0 comments:
Post a Comment