เขาชนไก่ ตอนที่ 28 (ตอนจบ)

Monday, November 24, 2008

ตอนที่ 28
ครูฝึกสั่งให้พวกเรานั่งตากแดดอยู่ตรงนั้นนานพอสมควร อากาศตอนเที่ยงร้อนอบอ้าวมาก ผมนั่งเหงื่อแตกและรู้สึกหงุดหงิดจริงๆ ก็พอดีเหลือบไปเห็นพวกนักศึกษาวิชาทหารชุดใหม่ที่จะมาฝึกต่อจากเรา ครูฝึกสั่งให้พวกเรายืน เตรียมตัวขึ้นรถกลับ ทุกคนรีบตะโกนข่มขวัญพวกที่มาใหม่กันเสียงดังลั่น แบบเดียวกับที่เราเจอมาในวันแรกนั่นเอง
" ตายๆๆๆๆๆ พวกมึงต้องตาย! ตายแน่ๆๆๆ 555555 "
บางคนตะโกนไปก็โชว์แผลที่กบาลมั่ง ที่แขนที่ขาบ้าง ก็เฮฮาดี ผมก็ตะโกนกับเขาด้วย พอตะโกนกันจนหนำใจแล้ว ก็แยกย้ายกันขึ้นรถกลับ
บ่ายโมง รถก็เคลื่อนออกจากเขาชนไก่ มุ่งหน้ากลับสู่กรุงเทพฯ ผมมองต้นไม้แห้งๆ 2 ข้างทางที่เขาชนไก่เป็นครั้งสุดท้าย สำเร็จไปอีกปีแล้ว…..ผมคิดในใจ ไอ้บอมซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ผมเห็นผมมองต้นไม้แล้วยิ้ม ก็แซวผม
" อยากอยู่ต่ออีกหรือเปล่าวะหนุ่ม 7 วันสำหรับนายคงน้อยไป เอาซัก 10 วันเป็นไง "
" ถ้าอยู่ได้ เราก็อยากจะอยู่ เพราะเรารักที่นี่ว่ะ "
ผมตอบยิ้มๆ ไอ้บอมก็ยิ้มตอบ เงียบไปครู่หนึ่ง ผมก็พูดขึ้นมา
" ปีนี้สนุกดีนะ ถึงจะเหนื่อยโคตรๆ แต่ก็สนุก ปีนี้เราได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นอีกเยอะเลย เราได้เพื่อนใหม่มากมาย ได้รู้จักความเป็นลูกผู้ชาย และได้ประสบการณ์มันส์ๆ ที่เราหาไม่ได้จากที่อื่น "
" เราดีใจกับนายด้วยนะ "
ไอ้บอมพูดแล้วหลับตา ผมก็หลับตาลงเหมือนกันเพราะรู้สึกอ่อนเพลียเหลือเกิน ไม่นานผมก็เผลอหลับไป
…………………………………………………….
หัวลำโพง เวลา 3 โมงครึ่ง
ผมลืมตาขึ้น ถึงกรุงเทพฯแล้วสินะ ผมรีบลงจากรถแล้วเอาเป้สนามหนักอึ้งของตนเองมาสะพายไว้ เพื่อนๆ ต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านของตนเอง ส่วนใหญ่ก็ต้องนั่งรถกลับต่างจังหวัดกัน ไอ้บอมบอกกับผมว่า มันจะกลับบ้านต่างจังหวัดเลย ไม่เข้าบ้านที่กรุงเทพฯ ผมเลยต้องแยกกับมันตรงนั้น
" แล้วเจอกันที่มหาวิทยาลัยนะบอม รีบๆ กลับมาล่ะ "
" เออ กลับบ้านดีๆ นะหนุ่ม โชคดีเว้ย "
ไอ้บอมโบกมือลาผม แล้วเดินจากไป ผมยืนมองมันจนมันเดินลับหายไปจากสายตา แล้วหันไปรอบๆ ตัว เพื่อนที่ผมรู้จักกลับไปกันหมดแล้ว ตอนนี้เหลือผมยืนอยู่คนเดียว…….
ไอ้หนุ่มหน้าตี๋ใส่แว่นหนาเตอะ ใส่หมวกเบเร่ต์สีเขียว ฝุ่นจับเขรอะ เสื้อกางเกงสีเขียวเลอะเทอะไปทั้งตัว คาดเข็มขัดสนามที่มีกระติกน้ำเหน็บอยู่ด้วย หัวเข็มขัดสีเหลืองหม่นๆ เพราะไม่ได้ขัดมาถึง 7 วัน บนหลังแบกเป้สนามอันหนักอึ้ง หัวรองเท้าก็ขาดวิ่นไม่มีชิ้นดีแถมลอกกว่าเดิมด้วย ไอ้หนุ่มคนนี้คือผมเอง ผมเอาตีนซ้ายมาเตะตีนขวา เสียงดัง กุบ! แล้วคิดถึงช่วงเวลา 7 วันที่ผจญภัยในเขาชนไก่ ผมต้องเตะตีนเสียงดัง กุบ! แบบนี้เป็นร้อยๆ ครั้งเพื่อจัดแถวให้เป็นระเบียบ….อา…… คิดแล้วภูมิใจจริงๆ ที่ผมผ่านการฝึกทั้ง 7 วันนั้นมาได้ด้วยดี ถึงจะโดนทำโทษมาอย่างหนัก แต่ผมก็อดทนยอมโดนลงโทษแต่โดยดี ผมคิดถึงช่วงเวลาที่โดนลงโทษให้ทำท่า 69 วิดพื้นเป็นสิบๆ ครั้ง และสก๊อตจัมป์อีกนับครั้งไม่ถ้วน เป็นช่วงเวลาที่แสนจะทรมานเสียจริงๆ ตลอด 7 วันที่ฝึกนี้ ไม่มีวันไหนที่ไม่โดนทำโทษ!
เวลาโดนทำโทษ เหงื่อผมจะหยดลงพื้นเป็นสาย เหนื่อยสายตัวแทบขาด อ่อนเพลียจนเกือบจะหมดแรง นอนตอนกลางคืนก็เมื่อยไปทั้งตัวจนแทบทนไม่ไหว ปวดตีนจนตีนแทบหลุด ปวดแขน ปวดขา ปวดกบาลอีกสารพัด ไม่รู้ผมรอดมาได้ยังไง โคตรคนจริงๆ หนักกว่าปี 3 ไม่รู้กี่เท่า
นี่แหละมั๊ง " ความทุกข์ที่เกินทน จะหลอมคนให้ทนทาน "
ตอนนี้ผมเป็นคนที่ทนทานแล้วแน่นอน !
ผมรู้สึกหิวน้ำ จึงเอากระติกน้ำออกมาจากเอว เปิดฝากระเดือกน้ำลงคอจนหมด ไม่ต้องประหยัดน้ำอีกแล้ว ดื่มให้แม่งหมดไปเลย พอผมดื่มหมดกระติก ก็เอากระติกเหน็บเอวไว้ตามเดิม พลันก็ได้ยินเสียงๆ หนึ่งที่คุ้นหู ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
" อยู่กรุงเทพฯ แล้ว ยังต้องดื่มน้ำจากกระติกอีกเหรอวะทหาร ! "
ผมหันไปดูหน้าเจ้าของเสียง แล้วก็ร้องลั่นด้วยความดีใจ
" ไอ้ระ เพื่อนรัก! กูนึกว่ามึงกลับไปแล้วซะอีก "
ผมรีบวิ่งเข้ามาหาไอ้ธีระ พอถึงแล้วก็เอามือตบไหล่มันเพราะกอดไม่สะดวกเนื่องจากทั้งมันและผมต่างก็แบกเป้สนามพองโตอยู่บนหลัง ไอ้ธีระวางกระป๋องโค้กลงกับพื้น ปลดเป้สนามออกวางกับพื้น ผมก็ทำตาม แล้วเรา 2 คนก็โผเข้ากอดกัน ผมกอดมันแน่นราวกับกลัวมันจะหนีผมไป ไอ้ธีระและผมกอดกันโดยไม่รังเกียจกลิ่นตัวของกันและกันเลย เราทั้งคู่ต่างถือว่านี่เป็นกลิ่นของชายชาติทหารที่เพิ่งผ่านการฝึกมาหมาดๆ เป็นกลิ่นของลูกผู้ชายของแท้! ไม่น่ารังเกียจซักนิด ไอ้ธีระสูดกลิ่นตัวของผมเข้าไปจนเต็มปอด แล้วพูดว่า
" ตัวมึงหอมดีว่ะ หอมกลิ่นของลูกผู้ชาย "
" ตัวมึงก็หอม หอมHereๆ เลย โอยกูไม่ไหวแล้ว ไอ้ระ กูมีความสุขเหลือเกิน "
ไอ้ธีระหลับตาพริ้ม
" มึงรักกูมั๊ย หนุ่ม มึงรักกูมั๊ยวะ ตอบกูเร็วๆ "
ผมรีบหอมแก้มมันดังฟอด! แล้วตอบมัน
" รักสิวะ กูรักมึงมากจริงๆ กูรักมึงไอ้ระ มึงได้ยินมั๊ย กูรักมึงโคตรๆ กูไม่อยากจากมึงไปเลย "
" ในที่สุดมึงก็พูดออกมาจนได้ กูอยากฟังคำนี้จากปากมึงมานานแล้ว เพื่อน "
ผมหอมแก้มไอ้ธีระอีกฟอด! โดยไม่แคร์สายตาของคนที่เดินผ่านไปมาแถวนั้นเลย แล้วพูดอีก
" ไม่ใช่เพื่อนเว้ย กูอยากเป็นมากกว่านั้น แต่เสียดาย กูคงไม่มีโอกาสเป็นมากกว่านั้นแล้ว กูอยากเป็นแฟนมึง ไอ้Here มึงเข้าใจมั๊ย กูอยากเป็นแบบนั้น "
ไอ้ธีระคลายจากอ้อมกอดของผม ตาของมันแดงด้วยความปลื้มปีติ
" กูก็เสียดาย เราอยู่ไกลกันเหลือเกิน ไม่งั้นเราคงได้คบกันจริงจังกว่านี้ แต่กูสัญญา กูจะไม่ลืมมึงเลย กูจะไม่ลืมว่าครั้งหนึ่งในชีวิตกูได้มีแฟนชื่อหนุ่ม เราคบกัน 7 วัน แต่เหมือนรู้จักกันมา 7 ปี "
" แค่นี้กูก็มีความสุขแล้วว่ะ เออ ขอเบอร์มึงหน่อยนะ ว่างๆ กูจะโทรไปคุยกับมึง แค่ได้ยินเสียงมึง กูก็มีความสุขแล้ว "
เราแลกเปลี่ยนเบอร์กัน พอเสร็จแล้ว ไอ้ธีระก็แบกเป้ขึ้นหลังตามเดิม แล้วบอกผมว่า
" กูต้องไปแล้วนะ ลาก่อน อย่าลืมโทรมานะเว้ย "
" กูไม่ลืมหรอก เดินทางกลับบ้านดีๆ นะมึง กูรักมึงนะ "
" กูก็รักมึง บาย "
ไอ้ธีระพูดแล้วหันหลังกลับ มันเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ผมก็ตะโกนเรียกมัน
" เดี๋ยวก่อน ไอ้ระ "
ไอ้ธีระหันกลับมา ผมรีบเดินมาหยุดตรงหน้ามัน แล้วโดยที่ไม่มีใครคาดคิด ผมก็ประกบปากของผมกับปากของมันทันที ไอ้ธีระสะดุ้ง แต่ก็ไม่ถอนปากออก ลิ้นนุ่มๆ ของผมสอดเข้าไปในปากของไอ้ธีระ แล้วลิ้นนุ่มๆ ของไอ้ธีระก็สอดเข้ามาในปากของผมเช่นกัน………
ผมอยากจะหยุดเวลาไว้ตรงนี้จริงๆ ไม่อยากให้ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ต้องผ่านไปเลย เรายืนจูบกันนานเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ ทุกอย่างเหมือนความฝัน และสุดท้ายความสุขก็มลายหายไปราวกับสายลม……….
ไอ้ธีระไปจากผมแล้ว แต่ความรู้สึกดีๆ ที่ผมมีต่อมันจะไม่มีวันสูญสิ้น…….
เรื่องราวของมิตรภาพ ความรัก ความประทับใจที่เกิดขึ้น ณ เขาชนไก่ ได้ถูกบันทึกลงในหัวใจทั้งสี่ห้องของผมจนเต็มล้น ผมเก็บความทรงจำดีๆ เหล่านี้ไว้ในส่วนลึกของหัวใจ และเก็บภาพการฝึกอันหฤโหดนี้ไว้ในสมอง
ผมจะไม่มีวันลืมผองเพื่อนทุกคน ครูฝึกทุกนาย และบรรดาการฝึกที่สุดแสนจะทรหดนี้เลย…..ตราบชั่วชีวิต

0 comments:

Blog Archive