ปัจจุบันต้องยอมรับว่าตลาดของผู้บริโภคที่เป็น'ชายรักชาย'นั้นเป็นตลาดใหญ่และนอกจากสินค้านานาชนิดแล้วธุรกิจบริการต่างๆก็เริ่มขานรับลูกค้ากลุ่มนี้กันมากขึ้น เจาะตลาดสินค้าเกย์ ภาค 2 จึงขอพาท่านไปรู้จักกับธุรกิจบริการหลากหลายแขนงที่หันมาจับกลุ่มลูกค้าเกย์กันอย่างโจ่งแจ้งชัดเจน
ผับชาวสีม่วงเกลื่อนเมือง
ธุรกิจบริการกลุ่มแรกๆที่เห็นช่องทางการสร้างรายได้ จากเป้าหมายซึ่งเป็นชาวสีม่วงเห็นจะได้แก่บรรดาเทคผับต่างๆที่กระจายอยู่ทั่วไป ซึ่งแหล่งใหญ่ได้แก่ สีลม ,สวนลุม ,ตลาด อ.ต.ก. และลำสาลี โดยช่วงแรกๆนั้น เริ่มจากร้านเหล้าที่อยู่ในย่านชาวเกย์แถวถนนสีลมซอย 2 และซอย 4 ทั้งนี้หากไม่นับ 'บาร์โรม' หรือ 'โรม คลับ' ในสีลมซอย 4 ต้นตำรับบาร์ที่ครองใจเกย์ไทยในยุค 20 กว่าปีก่อนแล้วล่ะก็ ผับแรกที่ได้ชื่อว่าเปิดขึ้นเพื่อจับกลุ่มเกย์โดยเฉพาะก็ต้องเป็น 'D.J. Station' ที่สีลมซอย 2 เพราะร้านนี้ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 2534 โดยเน้นไปที่โชว์และการเปิดแผ่นเพลงยอดฮิตแนวแดนซ์กระจาย เพื่อให้บรรดาเกย์ได้ปลดปล่อยตัวเองอย่างสุดฤทธิ์
ถัดมาอีกประมาณ 7 ปี (ประมาณปี 2541) ร้าน'Freeman Dance Arena' ที่สีลมซอย 2/1 ก็ได้เกิดขึ้นตามมา โดยเน้นจุดขายที่โชว์อลังการ และมีนางโชว์ชื่อดังอย่าง'เดย์ ฟรีแมน'เป็นตัวชูโรง โชว์เสร็จก็จะเปิดแผ่นแดนซ์จึงเป็นที่ถูกใจของทั้งเกย์ไทยและเกย์เทศ นอกจากนั้นย่านนี้ยังทยอยเปิดตามๆกันอีกหลายร้าน อาทิ Telephone ร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งฮิตที่สุดในซอย 4 แม้จะเปิดเพลงคึกคัก แต่ไม่ได้มีการเต้นระบำกันอย่างจริงจัง , Balcony ตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้าน Telephone เปิดเพลงสนุกๆ แต่ลูกค้านิยมมั่งเมาท์มากกว่ามาแดนซ์ , JJ. Park ในสีลมซอย 2 ร้านอาหารกึ่งผับ ที่นักร้องมาร้องโชว์ทุกคืน โดยลูกค้าส่วนมากจะเป็นคนไทย , Club Café ร้านเล็กๆตกแต่งสไตล์แขกนิดๆ อยู่ในสีลม ซอย 2 เน้นเปิดแผ่นเพลงเก๋ๆ ,**The Expresso*** สีลมซอย 2 ร้านฮิตของเกย์วัยรุ่น เปิดแผ่นเพลงเต้นรำโดยดีเจสาว ประเภทสอง
นอกจากนั้นย่านสี่แยกคอกวัว ก็เคยถูกจัดให้เป็นแหล่งผับเกย์ยอดฮิตเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันนี้ความนิยมลดลงจนเหลืออยู่ไม่กี่ร้าน ทำเลถัดมาคือ หลังตลาด อ.ต.ก. ซึ่งได้ชื่อเป็นทำเลยอดฮิตของชาวเกย์ ที่ฮิตมาตั้งแต่ 5-6 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน เป็นแหล่งที่ราคาค่อนข้างย่อมเยากว่าย่านสีลมme.shเกย์รุนใหม่จึงย้ายมาเที่ยวแถบนี้กันมาก เป็นที่ตั้งของผับดังๆหลายร้าน เช่น **Larb Jazz (ลาบแจ๊ส) pub & restaurant*** ซึ่งถือว่าเป็นที่รวมวัยรุ่นชาวเกย์ ลูกค้าเต็มร้านตั้งแต่ 3-4 ทุ่มโดยเฉพาะวันศุกร์และวันเสาร์ ช่วงเย็นเปิดเบาๆ ซึ้งๆ แล้วเริ่มสปีดเป็นแดนซ์ในช่วงดึก
**Moke** ร้านน้องใหม่ในย่าน อ.ต.ก. ซึ่งว่ามาแรงสุดๆ แต่งร้านด้วยผ้าม่านสีชมพูสด ยาวลงมาจากเพดานถึงพื้น เก๋ไก๋ชวนนั่ง มีทั้งโชว์ ลิปซิง และแดนซ์กระจาย เรียกลูกค้าให้มานั่งกันแน่นเอียดทุกวัน
**Volcano** เป็นแหล่งแดนซ์ของเกย์วัยราน แต่ก็ผู้จริงหญิงแท้มาเที่ยวบ้างเหมือนกัน ส่วนร้านที่มีเกย์มาเยอะที่สุดในย่าน อ.ต.ก. เห็นจะได้แก่ ICY ซึ่งว่ากันว่าเกย์สาวๆจะเยอะเป็นพิเศษ และเป็นที่นิยมของบรรดาเกย์ขาแด๊นซ์
ส่วนทำเลใหม่ที่ฮิตมาเมื่อ 3-4 ปีมานี้ หนีไม่พ้น ย่านลำสาลีที่จัดอยู่ในประเภท ผับโลว์คอส ของชาวเกย์ เพราะอัตราการดื่มกินจะถูกกว่าในย่านอื่นๆมาก โดยร้านที่เก๋สุดในย่านนี้เห็นจะได้แก่Club Love เป็นสไตล์ร้านอาหารกึ่งผับ และมีโชว์ร้องเพลง ชาวเกย์นิยมมานั่งเม้าท์และโยกตามจังหวะเพลงกันเยอะมาก นอกจากนั้นยังมีร้าน ICK เป็นแนวดิสโก้เธค เปิดเพลงแดนซ์กระจาย ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นเกย์วัยรุ่น และ SEE MAN เป็นอีกร้านที่ชาวเกย์นั่งกันแน่น มีโชว์และเปิดแผ่นแดนซ์กันกระจายตั้งแต่หัวค่ำไปจนดึกดื่น
สำหรับแหล่งบันเทิงของชาวเกย์แหล่งใหม่ล่าสุดได้แก่ย่านสวนลุม ซึ่งแม้จะมีผับในแถบนี้ไม่ถึง 10 ร้านแต่ด้วยทำเลและบรรยากาศก็สามารถเรียกลูกค้าได้อย่างเนืองแน่น โดยร้านที่ขึ้นชื่อสุดในแถบนี้เห็นจะเป็น '70's Bar' ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งนัดพบของชาวเกย์ร้านแรกในย่านสวนลุมแล้ว ว่ากันว่าตอนนี้ถ้าพูดถึงผับเกย์แล้วใครไม่รู้จัก '70's Bar' ก็ถือว่าเชยสุดๆ
***กันตชิต มหัตถนาพาณิช***เจ้าของร้าน'เซเว่นตี้ บาร์' ย่านสวนลุม เล่าถึงความเป็นมาก่อนที่ร้านนี้จะกลายเป็นแหล่งนัดพบยอดฮิตที่สุดแห่งหนึ่งของชาวเกย์ในปัจจุบัน ว่า
" ความจริงร้านนี้เปิดมาเกือบ 5 ปีแล้วนะ ช่วงแรกลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิงผู้ชายทั่วไป แต่เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีลูกค้ากลุ่มชายรักชายมากันเยอะ คือตอนแรกเป็นแบบลูกค้าผู้หญิงเขาชวนเพื่อนที่เป็นเกย์มาเที่ยว พอเกย์มานั่งแล้วก็ติดใจบรรยากาศวันหลังเลยชวนเพื่อนๆกลุ่มเกย์มากินข้าวฟังเพลง แล้วก็บอกกันปากต่อปากเลยกลายเป็นแหล่งนัดพบของคนกลุ่มนี้ พอมากันมากๆก็เริ่มล้น เขาก็ขยับไปนั่งร้านข้างๆ ทำให้ย่านนี้เป็นแหลงเที่ยวของชาวเกย์อีกแหล่งหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นเพราะย่านนี้มันใกล้กับสีลมด้วย คือช่วงหัวค่ำเขาก็จะมานั่งที่นี่ ดึกๆหน่อยพอเครื่องเริ่มร้อนค่อยไปต่อที่สีลม"
เจ้าของร้าน'เซเว่นตี้ บาร์ ยังแสดงความเห็นถึงปัจจัยที่ทำให้ผับสำหรับชาวเกย์เป็นธุรกิจที่เฟี่องฟูอย่างมากในปัจจุบัน ว่า " ผมว่าเป็นไปได้ที่ผับสำหรับชาวเกย์จะทำรายได้ได้มากกว่าผับสำหรับลูกค้าหญิงชายทั่วไปเพราะลูกค้ากลุ่มนี้เขามีอัตราการใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ คือเขาเที่ยวบ่อยกว่าผู้หญิงผู้ชายธรรมดา อย่างผู้หญิงผู้ชายอาจจะไปเที่ยวผับกันเดือนละ 1-2 ครั้ง หรืออย่างมากก็มานั่งกันช่วงวันศุกร์ แต่กลุ่มเกย์นี่เฉลี่ยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง คือเที่ยวกันเกือบทุกคืน (หัวเราะ) ส่วนใหญ่ก็มากันศุกร์-เสาร์ นอกจากนั้นยังมีวันธรรมดาอีก 1-2 วัน อาจเป็นเพราะพวกนี้ชอบความสนุกสนาน บางคนก็ขี้เหงา แล้วก็พลังเหลือเฟือ ถึงแม้ตอนเช้าจะมีงานเช้าขนาดไหน เขาก็เที่ยวกันได้จนดึกดื่น อีกอย่างคงเป็นเพราะเขามีกำลังซื้อสูง คือเกย์ส่วนใหญ่จะมีพลังขับให้ต้องประสบสำเร็จในหน้าที่การงาน พวกนี้ก็จะมีตำแหน่งหน้าที่และรายได้สูง อีกทั้งไม่มีภาระเรื่องครอบครัว ไม่ต้องดูแลลูกเมีย ทำให้มีเงินเหลือพอที่จะจับจ่ายเพื่อซื้อความสุขให้ตัวเอง"
บัตรเครดิต เอกสิทธิ์เพื่อชาวเกย์
ปัจจุบัน ธุรกิจบริการด้านการเงินอย่างบัตรเครดิต ก็เริ่มปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงของสังคม โดยหันมาบุกตลาดลูกค้ากลุ่มชายรักชาย ซึ่งเป็นกลุ่มที่พร้อมจะจับจ่ายและมีกำลังซื้อสูง โดยผู้ที่กล้าเข้ามารุกตลาดกลุ่มนี้เป็นรายแรก จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากบริษัทบัตรเครดิตที่มีลุคทันสมัย เปรี้ยวจี๊ดโดนใจอย่าง บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี
โดยเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาเคทีซีได้เปิดตัว ' บัตรเครดิตเคทีซี–ไอแอม ไทเทเนียม มาสเตอร์การ์ด' เพื่อเอาใจกลุ่มชายรักชายโดยเฉพาะ แม้ผู้บริหารของเคทีซีจะออกตัวว่าบัตรเครดิตรุ่นนี้เป็นบัตรที่มุ่งตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนเมืองรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบสุขนิยม (Metro Living Lifestyle) แต่หากพิจารณาจากภาพลักษณ์ที่สื่อออกมาในภาพยนตร์โฆษณา รูปร่างหน้าตาของบัตร รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆที่ผู้ถือบัตรจะได้รับแล้ว บอกได้คำเดียวว่า 'ใช่เลย'
บัตรนี้ตอกย้ำคอนเซ็ปต์ความเป็นตัวตน หรือ 'Me' ที่ชัดเจน โดยเน้นความเป็นตัวของตัวเองที่กล้าจะแตกต่าง ซึ่งถ่ายทอดออกมาอย่างเด่นชัดผ่านรูปลักษณ์ของบัตร งานโฆษณาและสิทธิประโยชน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์เดียวกันคือ "Stand up …say I am" หรืออีกนัยหนึ่ง " ลุกขึ้นมาก...บอกว่า นี่แหล่ะตัวฉัน"
ซึ่งในส่วนของบัตรนั้นถูกดีไซน์ให้แปลกใหม่ฉีกแนว สามารถสะท้อนแสงได้ในที่มืด
ภาพกราฟฟิคหน้าบัตรเป็นรูปปั้นเดวิดผลงานของไมเคิลแองเจโล รูปปั้นเปลือยของชายหนุ่มที่ถูกกล่าวขานว่ารูปงามที่สุดในโลก ซึ่งสื่อถึงความเชื่อมั่น ความเข้มแข็ง ขณะที่ปีกนกสีขาวสื่อถึงความอิสระในการเลือกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแบบฉบับของตัวเองที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร บ่งบอกความมั่นใจ และสะท้อนความเป็นตัวตนและความปรารถนาอันแรงกล้าได้อย่างลงตัว
สำหรับสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิตเคทีซี–ไอแอมใบนี้ก็สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของชาวสีม่วง ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดสำหรับการใช้บริการในฟิตเนสและสปา , สถานบันเทิง เช่น ร้านเซเว่นตี้ส์ บาร์ ร้านสีลมซอย 2 และร้านดีเจ สเตชั่น ซึ่งเป็นแหล่งนัดพบของชายรักชาย รวมทั้งร้านเบดซัปเปอร์คลับ ที่จัดให้มีค่ำคืนของชาวเกย์หรือเกย์ไนท์ในทุกสัปดาห์ , ดื่มด่ำกับกาแฟและอาหารเลิศรสที่ร้านกาแฟสไตล์เก๋อย่าง กลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่, สถานที่พักผ่อนสุดหรู อย่าง โรงแรมเมโทรโพลิแทน , ดูแลผิวพรรณให้สดใสที่ กอร์จัส แอพเพียแรนซ์ และเลือกช็อปเสื้อผ้าและเครื่องประดับดีไซน์เก๋จากหลากหลายแบรนด์ เช่น แลบซีรี่ส์, มิสซิกส์ตี้ ,ดีเซล ,เอเอ็นอาร์ , เธียเตอร์ และยูบิลลี่ ไดมอนด์ นอกจากนั้นยังมีส่วนลดจากร้านฮาบิแทต ที่มีชื่อในเรื่องเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่มีดีไซน์ไม่ซ้ำ
ซึ่งการออกบัตรเครดิตรุ่นนี้ของเคทีซีนั้นถือว่าประสบความสำเร็จทางตลาดและได้รับความสนใจอย่างมากจากกลุ่มชายรักชาย ด้วยสิทธิประโยชน์ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้ และกลยุทธ์ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่แสดงการยอมรับและให้ความสำคัญกับพวกเขา ทำให้สามารถซื้อใจลูกค้าชาวสีม่วงได้อย่างไม่ยากเย็น
**เอ ***เป็นหนึ่งในอีกหลายๆคนที่ให้การตอบรับบัตรเครดิตสำหรับกลุ่มชายรักชาย โดยให้ความเห็นว่า เป็นการบริการทางการเงินที่ตรงใจเพราะสิทธิประโยชน์ต่างๆที่ได้รับนั้นสอดคล้องการใช้ชีวิตของเขา
" ผมว่าโอเคนะ คือการใช้บัตรเครดิตมันคือไลฟ์สไตล์ แล้วร้านที่เคทีซีเลือกคอนแทคด้วยมันก็ตรงกับใจเรา อย่างผมชอบเที่ยวผับ เวลาจ่ายเงินเอาบัตรตัวนี้มาใช้เราก็ได้ส่วนลด หรือเวลาไปเดินซื้อเสื้อผ้าที่สยามก็ได้ส่วนลดอีก มันก็ดีกว่าเราไปใช้บัตรตัวอื่น "
ท่องเที่ยว-ประกันภัย โอกาสเติบโตสูง
ส่วนสินค้าสำหรับคนกลุ่มชายรักชายที่มีโอกาสจะเติบโตและยังมีช่องว่างทางการตลาดอยู่ในขณะนี้ก็คือธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องด้วยปัจจุบันยังไม่มีผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวเข้ามาจับตลาดกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็น สายการบิน บริษัททัวร์ หรือธุรกิจโรงแรม ในขณะที่กลุ่มเกย์มักชื่นชอบการท่องเที่ยวและมีเงินเหลือมากพอที่จะจับจ่ายเพื่อการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวภายในประเทศหรือต่างประเทศ
" นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ถือว่าเป็นตลาดใหญ่มาก จะเห็นได้ว่าในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ ออสเตรเลีย หรืออเมริกา ธุรกิจท่องเที่ยวของเขาจับนักท่องเที่ยวกลุ่มชายรักชายมานานแล้วเพราะเขารู้ว่ากลุ่มนี้นิยมการท่องเที่ยวและกล้าที่จะใช้จ่าย ผู้ใหญ่ในการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเองก็พูดถึงเหมือนกันว่าตลาดนี้มีความสำคัญแต่ยังไม่ใครกล้าหรือมีความชัดเจนว่าจะทำตลาดกับกลุ่มนี้ ซึ่งอาจเป็นเพราะยังมีอคติทางเพศอยู่" *** วิทยา แสงอรุณ ***คอลัมนิสต์ชื่อดัง ซึ่งเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของเกย์ และการเจาะตลาดสินค้าเกย์ลงในนิตยสารหลายฉบับ ตั้งข้อสังเกตถึงการเจาะตลาดการท่องเที่ยวของกลุ่มชายรักชายในเมืองไทยไว้อย่างน่าสนใจ
ธุรกิจประกันภัยก็เป็นธุรกิจหนึ่งที่ยังมีช่องว่างสำหรับลูกค้าทีเป็นกลุ่มชายรักชาย เนื่องข้อกำหนดเกี่ยวกับผู้ที่จะรับสิทธิประโยชน์ในกรมธรรม์นั้นยังไม่ครอบคลุมไปถึงคู่รักที่เป็นชายรักชาย โดยปัจจุบันหากผู้ทำประกันเสียชีวิตผู้ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามข้อกำหนดของบริษัทประกันภัยก็คือญาติพี่น้อง ทั้งที่ในความเป็นผู้ทำประกันที่เป็นชายรักชายอาจจะต้องการให้สิทธิประโยชน์ตกแก่คู่รักของตนก็ได้ และแม้ว่ากฎหมายจะไม่ได้ระบุว่าห้ามผู้ทำประกันระบุชื่อคนที่ไม่ใช่ญาติเป็นผู้รับสิทธิประโยชน์ แต่บริษัทประกันก็มักจะร่างข้อกำหนดเหล่านี้ขึ้นมาเอง นอกจาก นั้นบริษัทประกันภัยบางแห่งยังไม่รับทำประกันให้กลุ่มชายรักชายเพราะมองว่าคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชไอวี ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วอัตราการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มชายจริงหญิงแท้มีมากกว่าคนกลุ่มนี้ด้วยซ้ำ
" ปัจจุบันบริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทการเงินก็ต้องการจับตลาดกลุ่มนี้เหมือนกัน แต่ทุกภาคส่วนในองค์กรต้องวางนโยบายในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ว่าฝ่ายการตลาดต้องการทำแต่ผู้ใหญ่ไม่ต้องการ หากเป็นอย่างนั้นมันก็ไปไม่รอด เมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมาก็มีบริษัทประกันภัยสนใจเข้ามาทำแต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ลงตัว" วิทยา กล่าว
โฆษณาไม่กล้าเปิดตัวตรงๆ
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันสินค้าสำหรับกลุ่มชายรักชายนั้นยังไม่มีความพร้อมในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ โดยเฉพาะสื่อที่จะทำการประชาสัมพันธ์ก็ยังไม่เข้มแข็งพอ เนื่องจากยังไม่เข้าใจและยังมีอคติเดิมๆอยู่ ดังนั้นการจะโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าในกลุ่มนี้จึงมักทำแบบอ้อมๆมากกว่า เช่น ตัวพรีเซนเตอร์เป็นผู้ชายเซ็กซี่ซึ่งสามารถดึงดูดใจได้ทั้งผู้หญิงและกลุ่มเกย์ แต่หากดูบริบทจริงๆจะรู้ว่าสินค้าต้องการสื่อถึงกลุ่มชายรักชายมากกว่า
สังเกตได้ว่าโฆษณาที่สื่อถึงกลุ่มที่เป็นชายรักชายนั้นมักเป็นภาพผู้ชายที่โชว์สรีระ บรรยายถึงเสน่ห์อันเย้ายวน หรือความโรแมนติก ซึ่งจะต่างจากการนำพรีเซนเตอร์ชายมาดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงซึ่งจะเน้นถึงความแข็งแกร่งของเพศชายที่สามารถปกป้องหญิงสาวได้ ข้อความโฆษณาก็ไม่ได้พูดว่าเสน่ห์ของชายหนุ่มทำให้สาวๆหลงใหล แต่จะพูดว่าเป็นการสร้างเสน่ห์ดึงดูดใจให้แก่ตัวคุณ หรือสร้างความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งทั้งภาพและข้อความจะสื่อให้เห็นว่าโฆษณาชิ้นนี้กำลังพูดกับลูกค้าที่เป็นชายรักชายอยู่
" คือเขารู้ว่ากลุ่มชายรักชายชอบผู้ชายบุคลิกแบบไหน คำพูดแบบไหนที่โดนใจคนกลุ่มนี้ อย่างตอนนี้ก็มีบริษัทบัตรเครดิตที่สนใจเข้ามาทำตรงนี้ แต่การโฆษณาประชาสัมพันธ์อาจจะไม่ได้สื่อออกมาตรงๆ" **วิทยา **ให้ความเห็นเกี่ยวกับโฆษณาของสินค้ากลุ่มชายรักชายที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ล่าสุด โฆษณาที่กล้าหาญประกาศตัวตนของสินค้าและสร้างความฮือฮาให้แก่วงการเป็นอย่างมากเห็นจะได้แก่โฆษณา 'บัตรเครดิตเคทีซี-ไอแอม ไทเทเนียม มาสเตอร์การ์ด' ซึ่งออกอากาศทางทีวี และเป็นที่ยอมรับว่าสามารถสื่อได้ตรงใจชาวสีม่วง ด้วยการดำเนินเรื่องที่สื่อให้เห็นว่าแม้คนทั่วไปจะไม่เข้าใจในสิ่งชาวสีม่วงเป็น แต่เขาเข้าใจในตัวตน รสนิยม รวมถึงความต้องการของคนเหล่านี้ ที่สำคัญเขาให้การยอมรับในสิ่งที่คนเหล่านี้เลือกและสิ่งที่คนเหล่านี้เป็น ภาพสื่อให้เห็นถึงรสนิยมที่ดี ความพิถีพิถันในการเลือกสรรสิ่งต่างๆ และการดูแลตัวเองทั้งในเรื่องสุขภาพและรูปร่างหน้าตา เพื่อที่จะบอกว่าบัตรใบนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะเติมเต็มชีวิตของคุณ
แต่ทั้งนี้ แม้ตัวโฆษณากล้าที่จะสื่อสารตรงๆ แต่ในส่วนของผู้บริหารและทีมประชาสัมพันธ์กลับยังละล้าละลังที่จะประกาศจุดยืนที่ชัดเจนของตัวสินค้า โดยเลี่ยงไปใช้คำว่าเป็นบัตรเครดิตที่มุ่งตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนเมืองรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบสุขนิยม (Metro Living Lifestyle) ซึ่งอาจเป็นเพราะกลัวจะเกิดกระแสต่อต้านจากคนที่ยังไม่เปิดใจรับกลุ่มชายรักชาย
อย่างไรก็ดี คงปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มเกย์ถือเป็นลูกค้าใหญ่กลุ่มหนึ่งในตลาดปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมี brand loyalty หรือความจงรักดีต่อสินค้าอย่างเหนียวแน่น ทำให้เป็นที่ต้องการของผู้ผลิตสินค้าและบริการ แต่ปัญหาสำคัญอยู่ที่ว่าผู้ประกอบเองกล้าพอหรือไม่ที่จะก้าวเข้าไปจับตลาดกลุ่มนี้โดยที่ไม่มัวห่วงภาพพจน์หรือยึดติดกับอคติทางเพศแบบเดิ
ผับชาวสีม่วงเกลื่อนเมือง
ธุรกิจบริการกลุ่มแรกๆที่เห็นช่องทางการสร้างรายได้ จากเป้าหมายซึ่งเป็นชาวสีม่วงเห็นจะได้แก่บรรดาเทคผับต่างๆที่กระจายอยู่ทั่วไป ซึ่งแหล่งใหญ่ได้แก่ สีลม ,สวนลุม ,ตลาด อ.ต.ก. และลำสาลี โดยช่วงแรกๆนั้น เริ่มจากร้านเหล้าที่อยู่ในย่านชาวเกย์แถวถนนสีลมซอย 2 และซอย 4 ทั้งนี้หากไม่นับ 'บาร์โรม' หรือ 'โรม คลับ' ในสีลมซอย 4 ต้นตำรับบาร์ที่ครองใจเกย์ไทยในยุค 20 กว่าปีก่อนแล้วล่ะก็ ผับแรกที่ได้ชื่อว่าเปิดขึ้นเพื่อจับกลุ่มเกย์โดยเฉพาะก็ต้องเป็น 'D.J. Station' ที่สีลมซอย 2 เพราะร้านนี้ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 2534 โดยเน้นไปที่โชว์และการเปิดแผ่นเพลงยอดฮิตแนวแดนซ์กระจาย เพื่อให้บรรดาเกย์ได้ปลดปล่อยตัวเองอย่างสุดฤทธิ์
ถัดมาอีกประมาณ 7 ปี (ประมาณปี 2541) ร้าน'Freeman Dance Arena' ที่สีลมซอย 2/1 ก็ได้เกิดขึ้นตามมา โดยเน้นจุดขายที่โชว์อลังการ และมีนางโชว์ชื่อดังอย่าง'เดย์ ฟรีแมน'เป็นตัวชูโรง โชว์เสร็จก็จะเปิดแผ่นแดนซ์จึงเป็นที่ถูกใจของทั้งเกย์ไทยและเกย์เทศ นอกจากนั้นย่านนี้ยังทยอยเปิดตามๆกันอีกหลายร้าน อาทิ Telephone ร้านอาหารกึ่งผับ ซึ่งฮิตที่สุดในซอย 4 แม้จะเปิดเพลงคึกคัก แต่ไม่ได้มีการเต้นระบำกันอย่างจริงจัง , Balcony ตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้าน Telephone เปิดเพลงสนุกๆ แต่ลูกค้านิยมมั่งเมาท์มากกว่ามาแดนซ์ , JJ. Park ในสีลมซอย 2 ร้านอาหารกึ่งผับ ที่นักร้องมาร้องโชว์ทุกคืน โดยลูกค้าส่วนมากจะเป็นคนไทย , Club Café ร้านเล็กๆตกแต่งสไตล์แขกนิดๆ อยู่ในสีลม ซอย 2 เน้นเปิดแผ่นเพลงเก๋ๆ ,**The Expresso*** สีลมซอย 2 ร้านฮิตของเกย์วัยรุ่น เปิดแผ่นเพลงเต้นรำโดยดีเจสาว ประเภทสอง
นอกจากนั้นย่านสี่แยกคอกวัว ก็เคยถูกจัดให้เป็นแหล่งผับเกย์ยอดฮิตเมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันนี้ความนิยมลดลงจนเหลืออยู่ไม่กี่ร้าน ทำเลถัดมาคือ หลังตลาด อ.ต.ก. ซึ่งได้ชื่อเป็นทำเลยอดฮิตของชาวเกย์ ที่ฮิตมาตั้งแต่ 5-6 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน เป็นแหล่งที่ราคาค่อนข้างย่อมเยากว่าย่านสีลมme.shเกย์รุนใหม่จึงย้ายมาเที่ยวแถบนี้กันมาก เป็นที่ตั้งของผับดังๆหลายร้าน เช่น **Larb Jazz (ลาบแจ๊ส) pub & restaurant*** ซึ่งถือว่าเป็นที่รวมวัยรุ่นชาวเกย์ ลูกค้าเต็มร้านตั้งแต่ 3-4 ทุ่มโดยเฉพาะวันศุกร์และวันเสาร์ ช่วงเย็นเปิดเบาๆ ซึ้งๆ แล้วเริ่มสปีดเป็นแดนซ์ในช่วงดึก
**Moke** ร้านน้องใหม่ในย่าน อ.ต.ก. ซึ่งว่ามาแรงสุดๆ แต่งร้านด้วยผ้าม่านสีชมพูสด ยาวลงมาจากเพดานถึงพื้น เก๋ไก๋ชวนนั่ง มีทั้งโชว์ ลิปซิง และแดนซ์กระจาย เรียกลูกค้าให้มานั่งกันแน่นเอียดทุกวัน
**Volcano** เป็นแหล่งแดนซ์ของเกย์วัยราน แต่ก็ผู้จริงหญิงแท้มาเที่ยวบ้างเหมือนกัน ส่วนร้านที่มีเกย์มาเยอะที่สุดในย่าน อ.ต.ก. เห็นจะได้แก่ ICY ซึ่งว่ากันว่าเกย์สาวๆจะเยอะเป็นพิเศษ และเป็นที่นิยมของบรรดาเกย์ขาแด๊นซ์
ส่วนทำเลใหม่ที่ฮิตมาเมื่อ 3-4 ปีมานี้ หนีไม่พ้น ย่านลำสาลีที่จัดอยู่ในประเภท ผับโลว์คอส ของชาวเกย์ เพราะอัตราการดื่มกินจะถูกกว่าในย่านอื่นๆมาก โดยร้านที่เก๋สุดในย่านนี้เห็นจะได้แก่Club Love เป็นสไตล์ร้านอาหารกึ่งผับ และมีโชว์ร้องเพลง ชาวเกย์นิยมมานั่งเม้าท์และโยกตามจังหวะเพลงกันเยอะมาก นอกจากนั้นยังมีร้าน ICK เป็นแนวดิสโก้เธค เปิดเพลงแดนซ์กระจาย ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นเกย์วัยรุ่น และ SEE MAN เป็นอีกร้านที่ชาวเกย์นั่งกันแน่น มีโชว์และเปิดแผ่นแดนซ์กันกระจายตั้งแต่หัวค่ำไปจนดึกดื่น
สำหรับแหล่งบันเทิงของชาวเกย์แหล่งใหม่ล่าสุดได้แก่ย่านสวนลุม ซึ่งแม้จะมีผับในแถบนี้ไม่ถึง 10 ร้านแต่ด้วยทำเลและบรรยากาศก็สามารถเรียกลูกค้าได้อย่างเนืองแน่น โดยร้านที่ขึ้นชื่อสุดในแถบนี้เห็นจะเป็น '70's Bar' ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งนัดพบของชาวเกย์ร้านแรกในย่านสวนลุมแล้ว ว่ากันว่าตอนนี้ถ้าพูดถึงผับเกย์แล้วใครไม่รู้จัก '70's Bar' ก็ถือว่าเชยสุดๆ
***กันตชิต มหัตถนาพาณิช***เจ้าของร้าน'เซเว่นตี้ บาร์' ย่านสวนลุม เล่าถึงความเป็นมาก่อนที่ร้านนี้จะกลายเป็นแหล่งนัดพบยอดฮิตที่สุดแห่งหนึ่งของชาวเกย์ในปัจจุบัน ว่า
" ความจริงร้านนี้เปิดมาเกือบ 5 ปีแล้วนะ ช่วงแรกลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิงผู้ชายทั่วไป แต่เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีลูกค้ากลุ่มชายรักชายมากันเยอะ คือตอนแรกเป็นแบบลูกค้าผู้หญิงเขาชวนเพื่อนที่เป็นเกย์มาเที่ยว พอเกย์มานั่งแล้วก็ติดใจบรรยากาศวันหลังเลยชวนเพื่อนๆกลุ่มเกย์มากินข้าวฟังเพลง แล้วก็บอกกันปากต่อปากเลยกลายเป็นแหล่งนัดพบของคนกลุ่มนี้ พอมากันมากๆก็เริ่มล้น เขาก็ขยับไปนั่งร้านข้างๆ ทำให้ย่านนี้เป็นแหลงเที่ยวของชาวเกย์อีกแหล่งหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นเพราะย่านนี้มันใกล้กับสีลมด้วย คือช่วงหัวค่ำเขาก็จะมานั่งที่นี่ ดึกๆหน่อยพอเครื่องเริ่มร้อนค่อยไปต่อที่สีลม"
เจ้าของร้าน'เซเว่นตี้ บาร์ ยังแสดงความเห็นถึงปัจจัยที่ทำให้ผับสำหรับชาวเกย์เป็นธุรกิจที่เฟี่องฟูอย่างมากในปัจจุบัน ว่า " ผมว่าเป็นไปได้ที่ผับสำหรับชาวเกย์จะทำรายได้ได้มากกว่าผับสำหรับลูกค้าหญิงชายทั่วไปเพราะลูกค้ากลุ่มนี้เขามีอัตราการใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ คือเขาเที่ยวบ่อยกว่าผู้หญิงผู้ชายธรรมดา อย่างผู้หญิงผู้ชายอาจจะไปเที่ยวผับกันเดือนละ 1-2 ครั้ง หรืออย่างมากก็มานั่งกันช่วงวันศุกร์ แต่กลุ่มเกย์นี่เฉลี่ยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง คือเที่ยวกันเกือบทุกคืน (หัวเราะ) ส่วนใหญ่ก็มากันศุกร์-เสาร์ นอกจากนั้นยังมีวันธรรมดาอีก 1-2 วัน อาจเป็นเพราะพวกนี้ชอบความสนุกสนาน บางคนก็ขี้เหงา แล้วก็พลังเหลือเฟือ ถึงแม้ตอนเช้าจะมีงานเช้าขนาดไหน เขาก็เที่ยวกันได้จนดึกดื่น อีกอย่างคงเป็นเพราะเขามีกำลังซื้อสูง คือเกย์ส่วนใหญ่จะมีพลังขับให้ต้องประสบสำเร็จในหน้าที่การงาน พวกนี้ก็จะมีตำแหน่งหน้าที่และรายได้สูง อีกทั้งไม่มีภาระเรื่องครอบครัว ไม่ต้องดูแลลูกเมีย ทำให้มีเงินเหลือพอที่จะจับจ่ายเพื่อซื้อความสุขให้ตัวเอง"
บัตรเครดิต เอกสิทธิ์เพื่อชาวเกย์
ปัจจุบัน ธุรกิจบริการด้านการเงินอย่างบัตรเครดิต ก็เริ่มปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงของสังคม โดยหันมาบุกตลาดลูกค้ากลุ่มชายรักชาย ซึ่งเป็นกลุ่มที่พร้อมจะจับจ่ายและมีกำลังซื้อสูง โดยผู้ที่กล้าเข้ามารุกตลาดกลุ่มนี้เป็นรายแรก จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากบริษัทบัตรเครดิตที่มีลุคทันสมัย เปรี้ยวจี๊ดโดนใจอย่าง บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี
โดยเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาเคทีซีได้เปิดตัว ' บัตรเครดิตเคทีซี–ไอแอม ไทเทเนียม มาสเตอร์การ์ด' เพื่อเอาใจกลุ่มชายรักชายโดยเฉพาะ แม้ผู้บริหารของเคทีซีจะออกตัวว่าบัตรเครดิตรุ่นนี้เป็นบัตรที่มุ่งตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนเมืองรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบสุขนิยม (Metro Living Lifestyle) แต่หากพิจารณาจากภาพลักษณ์ที่สื่อออกมาในภาพยนตร์โฆษณา รูปร่างหน้าตาของบัตร รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆที่ผู้ถือบัตรจะได้รับแล้ว บอกได้คำเดียวว่า 'ใช่เลย'
บัตรนี้ตอกย้ำคอนเซ็ปต์ความเป็นตัวตน หรือ 'Me' ที่ชัดเจน โดยเน้นความเป็นตัวของตัวเองที่กล้าจะแตกต่าง ซึ่งถ่ายทอดออกมาอย่างเด่นชัดผ่านรูปลักษณ์ของบัตร งานโฆษณาและสิทธิประโยชน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์เดียวกันคือ "Stand up …say I am" หรืออีกนัยหนึ่ง " ลุกขึ้นมาก...บอกว่า นี่แหล่ะตัวฉัน"
ซึ่งในส่วนของบัตรนั้นถูกดีไซน์ให้แปลกใหม่ฉีกแนว สามารถสะท้อนแสงได้ในที่มืด
ภาพกราฟฟิคหน้าบัตรเป็นรูปปั้นเดวิดผลงานของไมเคิลแองเจโล รูปปั้นเปลือยของชายหนุ่มที่ถูกกล่าวขานว่ารูปงามที่สุดในโลก ซึ่งสื่อถึงความเชื่อมั่น ความเข้มแข็ง ขณะที่ปีกนกสีขาวสื่อถึงความอิสระในการเลือกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแบบฉบับของตัวเองที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร บ่งบอกความมั่นใจ และสะท้อนความเป็นตัวตนและความปรารถนาอันแรงกล้าได้อย่างลงตัว
สำหรับสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิตเคทีซี–ไอแอมใบนี้ก็สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของชาวสีม่วง ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดสำหรับการใช้บริการในฟิตเนสและสปา , สถานบันเทิง เช่น ร้านเซเว่นตี้ส์ บาร์ ร้านสีลมซอย 2 และร้านดีเจ สเตชั่น ซึ่งเป็นแหล่งนัดพบของชายรักชาย รวมทั้งร้านเบดซัปเปอร์คลับ ที่จัดให้มีค่ำคืนของชาวเกย์หรือเกย์ไนท์ในทุกสัปดาห์ , ดื่มด่ำกับกาแฟและอาหารเลิศรสที่ร้านกาแฟสไตล์เก๋อย่าง กลอเรีย จีนส์ คอฟฟี่, สถานที่พักผ่อนสุดหรู อย่าง โรงแรมเมโทรโพลิแทน , ดูแลผิวพรรณให้สดใสที่ กอร์จัส แอพเพียแรนซ์ และเลือกช็อปเสื้อผ้าและเครื่องประดับดีไซน์เก๋จากหลากหลายแบรนด์ เช่น แลบซีรี่ส์, มิสซิกส์ตี้ ,ดีเซล ,เอเอ็นอาร์ , เธียเตอร์ และยูบิลลี่ ไดมอนด์ นอกจากนั้นยังมีส่วนลดจากร้านฮาบิแทต ที่มีชื่อในเรื่องเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่มีดีไซน์ไม่ซ้ำ
ซึ่งการออกบัตรเครดิตรุ่นนี้ของเคทีซีนั้นถือว่าประสบความสำเร็จทางตลาดและได้รับความสนใจอย่างมากจากกลุ่มชายรักชาย ด้วยสิทธิประโยชน์ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้ และกลยุทธ์ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่แสดงการยอมรับและให้ความสำคัญกับพวกเขา ทำให้สามารถซื้อใจลูกค้าชาวสีม่วงได้อย่างไม่ยากเย็น
**เอ ***เป็นหนึ่งในอีกหลายๆคนที่ให้การตอบรับบัตรเครดิตสำหรับกลุ่มชายรักชาย โดยให้ความเห็นว่า เป็นการบริการทางการเงินที่ตรงใจเพราะสิทธิประโยชน์ต่างๆที่ได้รับนั้นสอดคล้องการใช้ชีวิตของเขา
" ผมว่าโอเคนะ คือการใช้บัตรเครดิตมันคือไลฟ์สไตล์ แล้วร้านที่เคทีซีเลือกคอนแทคด้วยมันก็ตรงกับใจเรา อย่างผมชอบเที่ยวผับ เวลาจ่ายเงินเอาบัตรตัวนี้มาใช้เราก็ได้ส่วนลด หรือเวลาไปเดินซื้อเสื้อผ้าที่สยามก็ได้ส่วนลดอีก มันก็ดีกว่าเราไปใช้บัตรตัวอื่น "
ท่องเที่ยว-ประกันภัย โอกาสเติบโตสูง
ส่วนสินค้าสำหรับคนกลุ่มชายรักชายที่มีโอกาสจะเติบโตและยังมีช่องว่างทางการตลาดอยู่ในขณะนี้ก็คือธุรกิจท่องเที่ยว เนื่องด้วยปัจจุบันยังไม่มีผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวเข้ามาจับตลาดกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็น สายการบิน บริษัททัวร์ หรือธุรกิจโรงแรม ในขณะที่กลุ่มเกย์มักชื่นชอบการท่องเที่ยวและมีเงินเหลือมากพอที่จะจับจ่ายเพื่อการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวภายในประเทศหรือต่างประเทศ
" นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ถือว่าเป็นตลาดใหญ่มาก จะเห็นได้ว่าในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ ออสเตรเลีย หรืออเมริกา ธุรกิจท่องเที่ยวของเขาจับนักท่องเที่ยวกลุ่มชายรักชายมานานแล้วเพราะเขารู้ว่ากลุ่มนี้นิยมการท่องเที่ยวและกล้าที่จะใช้จ่าย ผู้ใหญ่ในการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเองก็พูดถึงเหมือนกันว่าตลาดนี้มีความสำคัญแต่ยังไม่ใครกล้าหรือมีความชัดเจนว่าจะทำตลาดกับกลุ่มนี้ ซึ่งอาจเป็นเพราะยังมีอคติทางเพศอยู่" *** วิทยา แสงอรุณ ***คอลัมนิสต์ชื่อดัง ซึ่งเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของเกย์ และการเจาะตลาดสินค้าเกย์ลงในนิตยสารหลายฉบับ ตั้งข้อสังเกตถึงการเจาะตลาดการท่องเที่ยวของกลุ่มชายรักชายในเมืองไทยไว้อย่างน่าสนใจ
ธุรกิจประกันภัยก็เป็นธุรกิจหนึ่งที่ยังมีช่องว่างสำหรับลูกค้าทีเป็นกลุ่มชายรักชาย เนื่องข้อกำหนดเกี่ยวกับผู้ที่จะรับสิทธิประโยชน์ในกรมธรรม์นั้นยังไม่ครอบคลุมไปถึงคู่รักที่เป็นชายรักชาย โดยปัจจุบันหากผู้ทำประกันเสียชีวิตผู้ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามข้อกำหนดของบริษัทประกันภัยก็คือญาติพี่น้อง ทั้งที่ในความเป็นผู้ทำประกันที่เป็นชายรักชายอาจจะต้องการให้สิทธิประโยชน์ตกแก่คู่รักของตนก็ได้ และแม้ว่ากฎหมายจะไม่ได้ระบุว่าห้ามผู้ทำประกันระบุชื่อคนที่ไม่ใช่ญาติเป็นผู้รับสิทธิประโยชน์ แต่บริษัทประกันก็มักจะร่างข้อกำหนดเหล่านี้ขึ้นมาเอง นอกจาก นั้นบริษัทประกันภัยบางแห่งยังไม่รับทำประกันให้กลุ่มชายรักชายเพราะมองว่าคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชไอวี ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วอัตราการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มชายจริงหญิงแท้มีมากกว่าคนกลุ่มนี้ด้วยซ้ำ
" ปัจจุบันบริษัทประกันชีวิตหรือบริษัทการเงินก็ต้องการจับตลาดกลุ่มนี้เหมือนกัน แต่ทุกภาคส่วนในองค์กรต้องวางนโยบายในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ว่าฝ่ายการตลาดต้องการทำแต่ผู้ใหญ่ไม่ต้องการ หากเป็นอย่างนั้นมันก็ไปไม่รอด เมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมาก็มีบริษัทประกันภัยสนใจเข้ามาทำแต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ลงตัว" วิทยา กล่าว
โฆษณาไม่กล้าเปิดตัวตรงๆ
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันสินค้าสำหรับกลุ่มชายรักชายนั้นยังไม่มีความพร้อมในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ โดยเฉพาะสื่อที่จะทำการประชาสัมพันธ์ก็ยังไม่เข้มแข็งพอ เนื่องจากยังไม่เข้าใจและยังมีอคติเดิมๆอยู่ ดังนั้นการจะโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าในกลุ่มนี้จึงมักทำแบบอ้อมๆมากกว่า เช่น ตัวพรีเซนเตอร์เป็นผู้ชายเซ็กซี่ซึ่งสามารถดึงดูดใจได้ทั้งผู้หญิงและกลุ่มเกย์ แต่หากดูบริบทจริงๆจะรู้ว่าสินค้าต้องการสื่อถึงกลุ่มชายรักชายมากกว่า
สังเกตได้ว่าโฆษณาที่สื่อถึงกลุ่มที่เป็นชายรักชายนั้นมักเป็นภาพผู้ชายที่โชว์สรีระ บรรยายถึงเสน่ห์อันเย้ายวน หรือความโรแมนติก ซึ่งจะต่างจากการนำพรีเซนเตอร์ชายมาดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงซึ่งจะเน้นถึงความแข็งแกร่งของเพศชายที่สามารถปกป้องหญิงสาวได้ ข้อความโฆษณาก็ไม่ได้พูดว่าเสน่ห์ของชายหนุ่มทำให้สาวๆหลงใหล แต่จะพูดว่าเป็นการสร้างเสน่ห์ดึงดูดใจให้แก่ตัวคุณ หรือสร้างความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งทั้งภาพและข้อความจะสื่อให้เห็นว่าโฆษณาชิ้นนี้กำลังพูดกับลูกค้าที่เป็นชายรักชายอยู่
" คือเขารู้ว่ากลุ่มชายรักชายชอบผู้ชายบุคลิกแบบไหน คำพูดแบบไหนที่โดนใจคนกลุ่มนี้ อย่างตอนนี้ก็มีบริษัทบัตรเครดิตที่สนใจเข้ามาทำตรงนี้ แต่การโฆษณาประชาสัมพันธ์อาจจะไม่ได้สื่อออกมาตรงๆ" **วิทยา **ให้ความเห็นเกี่ยวกับโฆษณาของสินค้ากลุ่มชายรักชายที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ล่าสุด โฆษณาที่กล้าหาญประกาศตัวตนของสินค้าและสร้างความฮือฮาให้แก่วงการเป็นอย่างมากเห็นจะได้แก่โฆษณา 'บัตรเครดิตเคทีซี-ไอแอม ไทเทเนียม มาสเตอร์การ์ด' ซึ่งออกอากาศทางทีวี และเป็นที่ยอมรับว่าสามารถสื่อได้ตรงใจชาวสีม่วง ด้วยการดำเนินเรื่องที่สื่อให้เห็นว่าแม้คนทั่วไปจะไม่เข้าใจในสิ่งชาวสีม่วงเป็น แต่เขาเข้าใจในตัวตน รสนิยม รวมถึงความต้องการของคนเหล่านี้ ที่สำคัญเขาให้การยอมรับในสิ่งที่คนเหล่านี้เลือกและสิ่งที่คนเหล่านี้เป็น ภาพสื่อให้เห็นถึงรสนิยมที่ดี ความพิถีพิถันในการเลือกสรรสิ่งต่างๆ และการดูแลตัวเองทั้งในเรื่องสุขภาพและรูปร่างหน้าตา เพื่อที่จะบอกว่าบัตรใบนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะเติมเต็มชีวิตของคุณ
แต่ทั้งนี้ แม้ตัวโฆษณากล้าที่จะสื่อสารตรงๆ แต่ในส่วนของผู้บริหารและทีมประชาสัมพันธ์กลับยังละล้าละลังที่จะประกาศจุดยืนที่ชัดเจนของตัวสินค้า โดยเลี่ยงไปใช้คำว่าเป็นบัตรเครดิตที่มุ่งตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนเมืองรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบสุขนิยม (Metro Living Lifestyle) ซึ่งอาจเป็นเพราะกลัวจะเกิดกระแสต่อต้านจากคนที่ยังไม่เปิดใจรับกลุ่มชายรักชาย
อย่างไรก็ดี คงปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มเกย์ถือเป็นลูกค้าใหญ่กลุ่มหนึ่งในตลาดปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมี brand loyalty หรือความจงรักดีต่อสินค้าอย่างเหนียวแน่น ทำให้เป็นที่ต้องการของผู้ผลิตสินค้าและบริการ แต่ปัญหาสำคัญอยู่ที่ว่าผู้ประกอบเองกล้าพอหรือไม่ที่จะก้าวเข้าไปจับตลาดกลุ่มนี้โดยที่ไม่มัวห่วงภาพพจน์หรือยึดติดกับอคติทางเพศแบบเดิ
1 comments:
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
Post a Comment