ผมไม่ได้ชอบเขา ผมชอบเงินของเขา

Thursday, October 16, 2008


ชายหนุ่มคิ้วเข้ม ผิวขาว วัย 24 กำลังมองมาที่ผม ผมกำลังมองดูใบหน้าที่มีเคราเขียวๆ ขึ้นบางๆ และดวงตาคมๆ คู่นั้น เหมือนเขากำลังจะบอกว่า “มีอะไร จะถามอะไรอีกมั๊ยเพ่?”

ผมนั่งเงียบไปพักหนึ่งแล้ว ซึ่งปกติไม่ค่อยจะเกิดขึ้นหรอก เวลาที่ผมอยากจะรู้อะไร ก้อกำลังตกอยู่ในภวังค์ล่ะครับ ไม่ใช่เพราะใบหน้าของเขา แต่เพราะสิ่งที่เขาเล่าเมื่อครู่ตะหาก ผมวาดภาพ…ตามแทบไม่ทัน

“แน็ค” เป็นชื่อเล่น ที่เขาตั้งขึ้นมาแบบกะทันหัน เขาบอก “พี่อย่ารู้ชื่อผมเลย ผมตั้งชื่อเล่นไปเรื่อยๆ จะได้จำได้ว่า ผมเจอคนๆ นั้นเมื่อไหร่ ในช่วงเวลาไหนของชีวิตผม”

ฮั่นแน่ มีลีลาวาจาพริ้ว…เราพบกันโดยบังเอิญล่ะครับ ขณะที่ผมกำลังอยากได้นักแสดงหล่อๆ สักคนมารับบทแรงๆ ผมคิดว่า เขาน่าจะเหมาะ จากรูปที่เขาส่งมา พร้อมส่วนสัด เขาเป็นนายแบบได้สบายๆ ยกเว้นแค่ความสูงกับน้ำหนักเท่านั้น เขาดูผอมไปนิด แต่ถ้าเขาเข้ายิม เล่นฟิตเนส ตัวหนากว่านี้หน่อย เขาคงขึ้น “ค่าตัว” ได้ไม่ยาก

ตอนกลางวัน เขามีอาชีพประจำที่ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เขาทำ จากที่เขาบอก เขาจะใช้เวลานั้น “เรียนปริญญาโท” ไปด้วย เพื่อนผมคนหนึ่งก็เคยเล่าว่า “เด็กนวด” ที่เขาไปเจอมาหลายๆ คนก็บอกเหมือนกันว่า “กำลังเรียนป. โทอยู่”

ส่วนหลังเลิกงาน แน็คจะสวมอีกวิญญาณหนึ่ง เขามีวิญญาณที่เขาเลือกเอง และดูเหมือนเขาจะพอใจกับมันอย่างยิ่ง

สามวันที่แล้ว เขาเพิ่งไปพบลูกค้าของเขามา ช่วงเย็น ช่วงค่ำ และช่วงดึก “ไม่เหนื่อยเหรอ แล้วทำยังไงให้อึด?”

“คนแรก ผมก็ทำๆ ไปให้เขาเสร็จ ผมก็แกล้งว่า เสร็จแล้วเหมือนกัน คนที่สอง ผมก็ยังไม่เสร็จหรอก แค่ให้เขารู้สึกพอใจ ให้เขาเรียบร้อยไปซะ พอไปถึงคนที่สาม ผมก็ปล่อยออกมาจนหมดเกลี้ยง แล้วก็กลับบ้านนอน”“ค่าตัว” ของเขา ขึ้นอยู่กับระยะทางบวกค่าโทรศัพท์

“บางคนโทรคุยกันแล้ว ผมรู้สึกไม่ไว้ใจ ผมก็ไม่รับงาน แต่บางคนคุยดี แต่พอไปถึงที่ผมก็งงเลยเพราะพาเพื่อนมาอีกสามคน ให้ผมเอาให้ครบสี่ ถ้าผมเอาไม่ครบ เขาก็จะไม่จ่าย”

แน็คเล่าว่า เขาไม่รู้สึกลำบากใจอะไรเวลามีอะไรกับผู้ชาย

“ก็แค่ตกลงกันก่อน ผู้ชายแข็งแรงกว่า ไม่ต้องระวังมาก เพียงแต่ ผมไม่ยอมให้เสียบผมหรอกนะ ส่วนผู้หญิง ก็ต้องเอาใจเยอะหน่อย ใช้เวลามากหน่อย ผมว่า ผมเอากับผู้หญิงเหนื่อยกว่า”

ตอนอายุ 22 เขาทำเพื่อนผู้หญิงท้องไปคน เขาบอกว่า ไม่ได้ตั้งใจ ส่วนผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่า ไม่ได้ตั้งใจเหมือนกัน แต่ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นพ่อคน “พอดี เค้าไปเจอคนใหม่ ไปอยู่กับคนใหม่ ทั้งๆ ที่รู้ว่าท้องกับผม เด็กคนนั้นน่ะ ลูกผม”

เขาเล่าว่า ชีวิตวัยเด็กของเขาไม่น่าจดจำเท่าไหร่ ถ้าเขามีเงินมากๆ เขาก็จะทำอะไรก็ได้ “ตอนกลางวัน ผมก็ทำงานของผมไป ตอนกลางคืน ผมก็ขายตัว ผมรู้ตัวผม ผมไม่ไปอยู่บาร์นวด บาร์อะโกโก้หรอกครับ โดนหักเปอร์เซ็นต์ ผมทำงานอิสระของผมดีกว่า

เวลาผมไปบริการลูกค้า ผมต้องให้เขาพอใจ ถ้าเจอคนที่ไม่ถูกใจ ก็ทำไป ก็ทั้งนั้นแหละ คนหน้าตาดีๆ ใครจะมาใช้เงินซื้อ ผมเจอแต่ละคน ก็อยากไม่เหมือนกันหรอก ถ้าผมคุยดู ลูกค้าเป็นประเภทเงียบๆ ผมก็จะไม่พูดมาก ถ้าลูกค้าดูเหมือนจะชอบคนเถื่อนๆ ผมก็จะเถื่อนๆ ให้”
แล้วเคยเจอลูกค้าดีๆ ประเภทว่าประทับใจมั่งมั๊ย?

“ผมบริการเต็มที่ทุกคนแหละครับ เพราะเขาเป็นผู้มีพระคุณ ผมไม่ได้ชอบพวกเขา ใครอยากจะมาผูกพันกันกับผม? ผมแค่ชอบเงินของเขา” แน็คภูมิใจ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ดูเหมือน เขาสะใจ

บรรดาลูกค้าของแน็คที่ผ่านมา มีสารพัดแบบ ไม่ว่าจะเป็น สามีที่อยากเอาใจภรรยา หรือเพราะเธอมีความต้องการมาก จนสามีไม่ไหว เขาบอก เขาก็ไม่แน่ใจนักว่าทำไม “คนนั้นเค้าก็ขับรถเอาเมียมาทิ้งไว้ที่ผม แล้วให้ผมทำให้ เขาก็ไปทำธุระ แล้วก็มารับเมียเค้ากลับ บางคนก็ให้ผมทำๆ ไป แล้วเขาก็นั่งดู”

แล้วลูกค้าที่เป็นผู้หญิงล่ะ ที่ติดต่อมาเอง ไม่ใช่สามีมาติดต่อให้ มีมั๊ย ผู้หญิงก็มีความต้องการเหมือนกันนี่?

“ทำไมจะไม่มีล่ะครับ ผมเคยไปบริการบ้านหนึ่ง เป็นสองแม่ลูก ลูกสาวนะ ไม่ใช่ลูกชาย แม่ให้ผมเอาลูกสาวก่อน แล้วค่อยมาเอาแม่ เขาบอกว่า อยากให้ลูกสาวทำเป็นเรื่องบนเตียง”

“เออ…แปลกดี!” ผมอุทาน พร้อมทำหน้าไม่เชื่อสิ่งที่เขาเพิ่งเล่า

“อย่างพี่ก็คงมองว่า แปลกดิ!” เขาสวนขึ้นมาทันควันด้วยน้ำเสียงแข็งๆ อารมณ์กรุ้มกริ่มขี้เล่นเมื่อครู่หายไปในทันที

“มันไม่แปลกหรอก พี่ไม่ใช่พวกเขา พี่ไม่ได้เป็นตัวเขา พี่ไม่ได้รู้สึกเหมือนเขา พี่จะก็คิดว่า คนอื่นแปลก”
และในบรรดาลูกค้าที่เขาไปให้บริการ ก็มี “คนในผ้าเหลือง” อีกต่างหาก

คุณผู้อ่านครับ ผมรู้สึกลังเลที่จะถามต่อ เพราะถ้าผมถามต่อ ผมคงต้องเขียน และสิ่งที่ผมเขียนต่อไปนี้ คุณผู้อ่านโปรดมีใจยุติธรรม ไม่ใช่พระที่เป็นเกย์ทุกคน มาบวชเรียนแล้วจะทำตัวอย่างที่จะกำลังจะเล่านะครับ

“ตอนคุยกัน ผมก็รู้ว่า เขาเป็นพระ วัดดังซะด้วย เขาไม่ปิด พระเนี่ย จะไม่โพสต์ข้อความหาคนหรอก แต่จะขอแอด MSN แรกๆ ผมก็ลังเล แต่ผมอยากได้ตังค์ ผมอยากจะรู้ว่าเป็นยังไง ผมก็ไป ตอนดึกๆ ผมเล่าไป พี่คงไม่เชื่อ ไม่ใช่พระเล็กๆ นะครับ ระดับเจ้าอาวาส
” แล้วเรามีไรกะพระในผ้าเหลือง?

“ผมก็บอกว่า ถอดผ้าเหลืองออกดีกว่า เขาบอกว่าไงรู้มั๊ย…ไม่ต้องถอดหรอก อยากถลกขึ้นมา แล้วโดนเอา จะได้เหมือนโดนข่มขืน แล้วเขาก็ถลกขึ้นมา เอามาพันๆ รอบคอ รอบๆ ไหล่ แล้วให้ผมเอา”
ผมกลืนน้ำลายหนึ่งอึก ก่อนเขาจะเล่าต่อ

“พอเสร็จกิจ ก็เอาผ้าเหลืองนั่นแหละเช็ด! แล้วก็ลุกขึ้นไปเปิดตู้ แล้วหยิบซองกฐินออกมา แล้วยื่นเงินมาให้ผม”

ผมกลืนน้ำลายอีกหนึ่งอึก “แล้วมีพระเยอะมั๊ย ที่เรียกใช้บริการเราน่ะ”

“ก็มีล่ะครับ ผมจะเจอส่วนใหญ่ เป็นพระที่บวชมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วไม่ยอมสึก พี่รู้เปล่า เขาเล่าให้ผมฟัง พระบางรูปน่ะ พอเจอก๊วนเดียวกัน เพิ่งไปสวดทำบุญบ้านชาวบ้านมา พอได้ขึ้นรถตู้ ก็กรี๊ดใส่กันในรถ”
ผมล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าวัดไหน แต่เขาไม่ยอมบอก

แน็คดูดน้ำจนหมดแก้ว เขาคงคอแห้งมาก เขาเทน้ำอัดลมไปอีกหนึ่งขวด แล้วเปิดกระเป๋า หยิบซองยาขึ้นมา
“เป็นอะไรน่ะครับ”

“หนองใน”

เขาบอกว่า เขาเป็นๆ หายๆ แต่ไม่ได้ร้ายแรงหรือกังวล “พี่คงคิดว่า ผมไม่รักษาตัวล่ะสิ บางที ลูกค้าบางคนก็รุนแรง มันเลยอักเสบ เดี๋ยวผมกินยา ก็คงหาย”

ก่อนอาหารมื้อเย็นนั่นจบลง ผมถามเขาว่า เขาจะประกอบอาชีพขายตัวแบบนี้ไปอีกนานมั๊ย?

“ผมไม่คิดอะไรมากหรอก มันก็เหมือนคนบ้าแฟชั่นน่ะครับ ตอนนี้ผมชอบสิ่งที่ผมทำอยู่ มันเหมือนแฟชั่นละมั้ง เดี๋ยวมันคงเลิกไปเอง ผมรู้ ผมอายุมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ตอนนี้ ผมอยากได้ตังค์เยอะๆ ผมไม่อยากลำบาก ไม่อยากยืมเงินใคร เวลาใครเอาเงินไปเที่ยวกลางคืน ชวนผมไปด้วย ผมไม่ไปหรอก ผมหวงเงินของผม”
ในหัวผมพยายามประมวลสิ่งที่เขาเพิ่งเล่าจบ แต่เขาก็พูดขึ้นมาว่า

“ผมรู้น่ะ ผมคงไม่ได้เล่นหนังของพี่หรอก ใช่มั๊ย?”

0 comments:

Blog Archive