หลังจากที่เป็นที่ฮือฮามากกรณีมีคลิปหลุดหน้าเหมือนของพระเอกอ.ชื่อดังกำลังเริงรักกับแฟนสาว ในอิริยาบถที่ดุเดือดเผ็ดร้อนก่อนหน้านี้ หนุ่มอ้น สราวุฒิตกเป็นผู้ต้องสงสัยรายแรก ๆ เนื่องจากมีใบหน้าที่คล้ายกับชายหนุ่มนิรนามในคลิปมากที่สุดโดยหลังจากที่คลิปนี้ระบาดออกมาแล้ว เจ้าตัวยังคงปิดปากเงียบไม่ขอให้สัมภาษณ์ใด ๆ
จนเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันนี้ (7 ต.ค.) หนุ่มอ้นสราวุฒิได้เดินทางมาแถลงข่าวที่สถานีโทรทัศน์ช่องสาม ย่านพระรามสี่แล้วทั้งนี้หนุ่มอ้นปรากฏตัวพร้อมด้วยใบหน้าที่ความเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด และตลอดเวลาที่แถลงข่าวหนุ่มอ้นมีอาการเสียงสั่นเครือตลอดเวลา
จนสุดท้ายเจ้าตัวไม่สามารถกลั้นน้ำตาแห่งความเสียใจไว้ได้ในที่สุดซึ่งหนุ่มอ้น ยอมรับว่าชายหนุ่มในคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นตัวเขาจริง ๆ ซึ่งเป็นการถ่ายกับหญิงสาวคนหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว โดยที่ทำไปนั้นเป็นการกระทำชั่ววูบที่เจ้าตัวไม่คิดว่าจะส่งผลกระทบมาจนถึงปัจจุบันนอกจากนี้หนุ่มอ้นยังกล่าวด้วยว่า ภาพต่าง ๆ รวมไปถึงคลิปต้นเหตุเขาเป็นคนถ่ายเองกับมือ และตั้งใจเก็บเอาไว้ดูเป็นการส่วนตัว
แต่โชคร้ายโทรศัพท์เจ้ากรรมดันมาหายเสียก่อน ซึ่งหลังจากที่โทรศัพท์หายไปเจ้าตัวก็กังวลใจไม่น้อย เนื่องจากยังไม่ได้ลบคลิปหรือภาพส่วนตัวออกแต่อย่างใด ส่วนหญิงสาวในคลิปวิดิโอดังกล่าวเจ้าตัวยืนยันไม่ใช่น้องนวลแฟนสาวแน่นอน แต่เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่รู้จักกันในอดีต เนื่องจากคลิปนี้ถ่ายเมื่อนานมากแล้ว และไม่ขอพูดถึงผู้หญิงในคลิปเนื่องจากไม่อยากพาดพิงถึงเขาให้เสียหายมากไปอีก
โดยงานนี้หนุ่มอ้นยอมรับเต็มปากว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานั้น "ผมผิดเอง" ก่อนจะเอ่ยปากขอโทษคนรอบข้าง สื่อมวลชน แฟนคลับ และประชาชนทุก ๆ คนที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นพร้อมกับก้มลงกราบพื้นพร้อมด้วยน้ำตานองใบหน้าสำหรับแฟนสาวคนปัจจุบันของอ้น สราวุฒินั้นอ้นกล้ายอมรับมาตลอดว่าเขากำลังดูใจกับแฟนสาวไฮโซนอกวงการนามว่า น้องนวล ที่มีดีกรีเป็นถึงลูกอดีตทูตประจำอิตาลี โดยทั้งคู่พบรักกันที่ต่างแดนเพราะหนุ่มอ้นต้องบินไปทำงานที่ประเทศ โอมานเมื่อช่วงต้นปีแล้ว ว่ากันว่าน้องนวลนั้นทำงานอยู่ที่บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และน้องนวลคนนี้นี่แหล่ะที่หนุ่มอ้นรักสุด ๆ แถมยังให้เกียรติฝ่ายหญิงด้วยการขอเหล่าบรรดาพี่ ๆ นักข่าวว่าอย่าพูดถึงน้องเค้าเลย เพราะว่าเกรงใจทางบ้านเขา

แต่พอมีข่าวเช่นนี้เข้าก็เล่นเอาหนุ่มอ้น ถึงกับเครียดมากทีเดียว เพราะค่อนข้างส่งผลลบทั้งต่อตัวเขาเองและคนที่เกี่ยวข้องด้วยมาก ๆ งานนี้ก็อุทาหรณ์หลาย ๆ คนได้ระมัดระวังตัวกันมากขึ้น ถึงพิษภัยของเทคโนโลยี ซึ่งคลิปดังกล่าวนั้นเจ้าตัวย้ำชัดว่าเป็นการถ่ายเพื่อเก็บไว้เป็นการส่วนตัว แต่เพราะความสะเพร่าที่ไม่ยอมลบทิ้งของตัวเอง เลยทำให้มีการหลุดออกมาสู่สายตาคนอื่นได้ขนาดนี้
แหล่งข่าว : ทีมข่าวบันเทิงที่นี่ดอทคอม
แหล่งข่าว : ทีมข่าวบันเทิงที่นี่ดอทคอม

0 comments:
Post a Comment